8 เหตุผลที่ต้องไป 808 Festival 2019

เตรียมพบกับ Line Up สุดจัดจากดีเจชั้นนำระดับโลก และความสนุกแบบอันลิมิตในเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ที่ไม่ควรพลาด

8 เหตุผลที่ต้องไป 808 Festival 2019
© Siam2nite

กลับมาแล้ว! กับอีกหนึ่งเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ที่ทุกคนรอคอย 808 Festival 2019 ที่ได้สร้างชื่อเสียงและความมันส์มาให้สาวกได้ฟินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นปีที่ 7 แล้ว ที่เราได้จะสุดเหวี่ยงกันอย่างเต็มที่ ขอบอกเลยว่าปีนี้เขาจัดหนักจัดเต็มกว่าทุกครั้งแน่นอน โดยเราจะมาบอกเล่าถึง 8 เหตุผลสุดเจ๋งที่จะมากระตุ้นต่อมความเป็น EDM Lover ของคุณให้ระเบิดออกมาอีกครั้ง รับประกันความดีงามทุกข้อ จนรีบพุ่งตัวไปซื้อบัตรกันแทบไม่ทันเลยล่ะ

© 808 Festival

1. Headliners ขั้นเทพ

เรามั่นใจว่าเหตุผลแรกนี้จะต้องเป็นเหตุผลหลักที่หลายคนอยากมา 808 Festival 2019 แน่นอน เพราะแค่ชื่อของศิลปิน Headliners ทั้ง 3 คน โผล่ขึ้นมา ก็ต้องทำให้เหล่าสาวกต่างกรี๊ดสลบไปตามๆ กัน

© Calvin Harris
Calvin Harris

เริ่มต้นคนแรกด้วยดีเจหนุ่มสุดหล่อขวัญใจสาวๆ อย่าง Calvin Harris เจ้าของเพลงฮิตมากมายไม่ว่าจะเป็น Summer, This Is What You Came For, We Found Love และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งหลังจากปล่อยให้แฟนๆ ชาวไทยต้องร้องเพลงรอมาอย่างยาวนาน ในที่สุดเขาก็ได้ฤกษ์มาเยือนเมืองไทยเป็นครั้งแรกสักที ซึ่งใครที่อยากไปเจอหนุ่มคนนี้แบบตัวเป็นๆ บอกเลยว่าโอกาสนี้มาถึงแล้ว

© Skrillex
Skrillex

ต่อด้วย Skrillex ดีเจหนุ่มชาวอเมริกัน ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถอีกคน ที่สร้างผลงานเพลงด้วยบีทมันส์ๆ ให้เหล่าแฟนคลับได้ถูกกันใจมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาวกชาวไทยคงจะคุ้นเคยกับหนุ่มคนนี้เป็นอย่างดี เพราะเขาได้มาสร้างความสนุกที่ไทยกันแล้วหลายครั้ง และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งครั้ง ที่เขาจะได้กลับมาระเบิดความมันส์ให้เราได้โยกกันแบบสุดเหวี่ยงในจังหวะที่ทุกคนคุ้นเคยและอยากจะสัมผัสอีกครั้งในบรรยากาศแสงสีเสียงแบบจัดเต็ม

© Zedd
Zedd

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งดีเจหนุ่มสุดหล่ออย่าง Zedd เจ้าของเพลงฮิตอย่าง Clarity, I Want You to Know, Stay และ The Middle ที่มีโอกาสได้แวะกลับมาเยือนเมืองไทยอีกครั้ง โดยงานนี้หนุ่ม Zedd น่าจะเตรียมขนส่งซิงเกิ้ลใหม่ๆ มาโซโล่ให้แฟนคลับชาวไทยได้ฟังกันแบบสดๆ อย่างใกล้ชิด


Did You Know? : ทั้ง 3 ดีเจสุดฮอตจาก Headliners ขั้นเทพนี้ ต่างเคยได้รับรางวัล Grammy Awards มาเป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูลกันแล้ว เริ่มต้นด้วย Calvin Harris เคยได้รับรางวัล Best Music Video ในปี 2013 จากเพลง We Found Love ที่เขาได้ไปร่วม Featuring กับสาว Rihanna

ส่วน Skrillex ก็ร้อนแรงสุดๆ ด้วยการเป็นเจ้าของรางวัล Grammy Awards ถึง 8 รางวัล โดยทำได้เมื่อปี 2012 จำนวน 3 รางวัล ตามด้วยปี 2013 จำนวน 3 รางวัล และปี 2016 จำนวน 2 รางวัล ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรางวัลในสาขา Best Dance Recording, Best Dance/Electronica Album และ Best Remixed Recording, Non-Classical

ด้านหนุ่ม Zedd ก็สามารถคว้ามาได้ 1 รางวัล เมื่อปี 2014 ในสาขา Best Dance Recording จากเพลง Clarity

2. Support Line Up ระดับคุณภาพ

แม้ 3 ศิลปินสุดฮอตในหมวด Headliners จะเป็นผู้นำทัพหลักและเป็นขวัญใจของเหล่าแฟนๆ EDM มากมาย แต่ขอบอกเลยว่า Line Up ของศิลปินที่เหลือก็ดีงามไม่แพ้กัน เริ่มต้นด้วย Blasterjaxx สุดยอดดีเจที่สร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนานกว่าทศวรรษ, Dyro ดีเจหนุ่มสุดหล่อจากเนเธอร์แลนด์ ที่ฝีมือไม่เป็นรองใคร, Generik ดีเจหนุ่มมาดเซอร์ที่มาพร้อมกับแนวเพลงเฮ้าส์

Perto ดีเจและโปรดิวเซอร์หนุ่มน้อยวัยเพียง 17 ปี ที่ความสามารถไปไกลเกินอายุ, Softest Hard ดีเจสาวสวยหนึ่งเดียวบนเวที ที่จะสร้างสีสันให้หนุ่มๆ กระชุ่มกระชวย, Sunnery James & Ryan Marciano ดูโอ้ดีเจคู่หูอารมณ์ดีชาวดัตช์ ที่รีเทิร์นกลับมาพบกับแฟนชาวไทยอีกครั้ง และปิดท้ายด้วย Yung Bae ดีเจและโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันกับแนวเพลงฟิวเจอร์ฟังค์สุดโดนใจ

แต่ความสนุกยังไม่หมดแค่นี้ เพราะล่าสุดรายชื่อดีเจ Phrase 3 ได้ถูกปล่อยออกมาอีก 1 ชุดใหญ่ นำทีมโดย Special Guest อย่าง KHSMR ดีเจหนุ่มสุดฮอตอีกคนของวงการ นอกจากนี้ยังมี Keanu Silva, Ofenbach, Snakehips, Toby Green และดีเจชั้นนำสัญชาติไทยอีกคับคั่ง 

© Siam2nite

3. เวลาจัดงาน 3 วันเต็ม

ในส่วนของเวลาการจัดงานในปีนี้บอกเลยว่าเดือดมาก เพราะปีนี้ถือเป็นปีแรกที่งานได้ขยายช่วงเวลาแห่งความสนุกออกไปให้ยาวนานถึง 3 วันเต็มๆ ตั้งแต่วันที่ 6-8 ธ.ค. 2019 เพราะ Line Up ที่แน่นสุดๆ จากเหล่าดีเจชั้นนำ จึงทำให้เวลาการจัดงานในปีนี้ยาวนานแบบเต็มสตรีม เพราะฉะนั้นไม่ต้องน้อยใจเลยว่าขวัญใจตัวเอง จะได้ขึ้นโชว์แค่แปบเดียว เพราะเขาได้เตรียมจัดหนักจัดเต็มเพื่อแฟนๆ ของทุกดีเจอย่างเต็มที่แน่นอน ขอเพียงแค่ทุกคนวอร์มอัพร่างกายไว้ให้พร้อมก่อนถึงวันงาน จะได้มีแรงแดนซ์กันแบบ Non-Stop

Tips & Tricks : ในช่วงนั้นถือเป็นช่วงที่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์อยู่ใกล้ๆ อีกด้วย เพียงแค่คุณลางานเพิ่มแค่ 2 วัน ก็ได้หยุดยาวแบบ 6 วันเต็มๆ ดังนั้นจึงมีเวลาฟิตซ้อมร่างกาย ก่อนไปแดนซ์กระจายในวันงาน และเมื่อได้สุดเหวี่ยงไปกับ 808 Festival 2019 กันแบบเต็มสตรีมแล้ว ก็ยังมีเวลาได้ประกอบร่างกันอีก 2 วัน ก่อนกลับไปทำงานกันแบบชิลๆ กันอีกด้วย

© Siam2nite

4. ราคาบัตรสุดคุ้ม

เนื่องจากงานในปีนี้จัดขึ้นถึง 3 วันเต็มๆ บัตรเข้างานจึงเป็นแบบ 3 Day Pass เมื่อเฉลี่ยออกมาเป็นราคาต่อวัน ก็ถือว่าเป็นราคาบัตรที่คุ้มแสนคุ้ม เพราะสามารถเข้างานได้ทุกวัน
จึงทำให้เหล่าแฟนคลับไม่ต้องรักพี่เสียดายน้อง ว่าจะพลาดโชว์ของดีเจคนไหนไป มั่นใจได้เลยว่าจะได้ชมโชว์ของดีเจทุกคนแบบครบเครื่อง

Tips & Tricks : สำหรับผู้ที่งบน้อย เขาก็มีบริการจ่ายค่าตั๋วแบบผ่อนชำระอีกด้วย เพราะฉะนั้นใครที่เงินเดือนยังไม่ออกหรือติดภาระอย่างอื่นอยู่ บอกเลยว่าต้องไม่กังวล เพราะทางผู้จัดงานอยากให้แฟน EDM ได้สัมผัสสุดยอดประสบการณ์แห่งเทศกาลดนตรีที่ทุกคนรอคอยจริงๆ

© Siam2nite

5. สถานที่จัดงานแสนสะดวกสบาย

สำหรับสถานที่ในการจัดงานของ 808 Festival ทุกครั้ง ต่างก็วนเวียนเปลี่ยนโลเคชั่นไปเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ใกล้เคียง แต่ในปีนี้ขอกลับคืนสู่สามัญไปยังสถานที่ที่ทุกคนคุ้นเคยอีกครั้งอย่าง Bitec บางนา ซึ่งขอบอกเลยว่าที่นี่ถือเป็นโลเคชั่นที่สะดวกสุดๆ

เนื่องจากเป็นโลเคชั่นที่เดินทางสะดวกสบาย กว้างขวาง แถมยังเดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา จากนั้นก็สามารถเดินเชื่อมสกายวอล์คเข้าสู่พื้นที่จัดงานได้อย่างชิลๆ แบบที่ไม่ต้องเสียเวลาต่อรถอื่นๆ แถมยังไม่ต้องปวดหัวกับรถติดอีกต่างหาก

ส่วนใครที่ต้องการนำรถส่วนตัวมา ในโครงการเขาก็มีที่จอดรถรองรับอย่างเพียงพอ แบบที่ไม่ต้องวนรถให้เมื่อยตุ้ม บอกเลยว่าดีต่อใจสุดๆ ไม่ต้องเสียเวลาวางแผนการเดินทางล่วงหน้านานๆ แค่นี้ก็สามารถมามันส์กันแบบสุดเหวี่ยงได้อย่างเต็มที่

© Siam2nite

6. โปรดักชั่นตระการตา

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นของคู่กันกับงานมิวสิคเฟสติวัลก็คือโปรดักชั่นของงาน ที่ต้องใส่เต็มไม่แพ้ศิลปินอย่างแน่นอน เพราะเมื่อดนตรีสุดมันส์ดังขึ้น แน่นอนว่าบรรยากาศรอบข้างก็ต้องเต็มไปด้วยแสงสีเสียงและเอฟเฟกต์สุดอลังการ ซึ่งแน่นอนว่าระดับ 808 Festival ไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวังอยู่แล้ว

ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเวที ภาพวิชวลสุดคูล พลุและไฟอันสว่างไสว สิ่งเหล่านี้ล่วนแล้วแต่เป็นตัวสร้างมู้ด ผสานการกระตุ้นอารมณ์ความมันส์แก่ผู้ร่วมงานได้เป็นอย่างดี รับรองได้เลยว่าดีกรีความสนุกภายในงานจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณด้วยโปรดักชั่นสุดเจ๋งเหล่านี้แน่นอน

© Siam2nite
© Siam2nite

7. งานของคนคูลๆ

ด้วยความที่ 808 Festival สร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน จนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งงานนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของเหล่า EDM Lover จากหลายประเทศ ที่ต้องแวะเวียนมาปักหมุดเช็คอินในบ้านเรา ภายในงานจึงเต็มไปด้วยหนุ่มสาวหลากสัญชาติ ทั้งฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ต่างก็ได้พาเหรดมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง บรรยากาศภายในงานจึงดูอินเตอร์ ประหนึ่งเหมือนอยู่ต่างประเทศกันเลยทีเดียว

แถมแต่ละคนบอกเลยว่างานดีสุดๆ ใครที่เป็น สาย ฝ. สายเกา หรือสายอาตี๋-อาหมวย รับรองว่าถูกใจแน่นอน เพราะนอกจากจะได้ความสนุกกลับไปแล้ว บางทีคนโสดอาจจะต้องเปลี่ยนสถานะเป็น In a Relationship หลังจากงานจบก็ได้นะ

ส่วนพี่ไทยเราก็ไม่น้อยหน้าเขาเช่นกัน เพราะแต่ละคนที่มาร่วมงานก็สวย หล่อ น่ารัก และแซ่บไม่แพ้ชาติอื่นเลย งานนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมคนหน้าตาดีที่สุดงานหนึ่งเลยก็ว่าได้

© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite

8. ประสบการณ์การจัดงานแบบแน่นปึ้ก

อย่างที่บอกไปว่า 808 Festival สร้างความสนุกสนานและชื่อเสียงมากว่า 7 ปีแล้ว เราจึงมั่นใจได้เลยว่า ทีมงานทุกคน จะสามารถเนรมิตความมันส์ขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน จึงทำให้ทุกอย่างในงานเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ไม่ใช่แค่เรื่องศิลปิน เพลง หรือโปรดักชั่น แต่สิ่งต่างๆ ทั้งหมดก็สามารถผสมผสานกันให้กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว และเป็นเฟสติวัลแห่งปีสำหรับแฟน EDM ตัวจริง นี่จึงเป็นเหตุผลสุดท้ายที่จะมาช่วยตอกย้ำว่า ทำไมทุกคนถึงต้องห้ามพลาดงานนี้

© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite

คลิปวีดีโอความสนุกและบรรยากาศจากปีก่อนๆ

เราได้นำอาฟเตอร์มูฟวี่บรรยากาศของ 808 Festival ของปีก่อนๆ มาให้ชมกันเป็นน้ำจิ้ม ก่อนไปพบกับของจริงกันได้ในวันงาน

Play Icon
Play Icon
Play Icon

808 Festival 2019 จะจัดขึ้นในวันที่ 6-8 ธ.ค. 2019 ที่ Bitec Convention Center บางนา ราคาบัตรแบบ 3 Day Pass เริ่มต้นที่ 3,455 บาท นอกจากนี้ยังมีบัตรแบบ VVIP ให้บริการอีกด้วย จองบัตรได้แล้ววันนี้ที่ Ticketmelon


สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของ 808 Festival 2019 ตามช่องทางด้านล่างได้เลย

Klook.com

ซีรีส์บทความ

เรื่องราวดีๆ ที่เราเลือกสรรมาอัพเดทให้คุณเป็นประจำ