บทสัมภาษณ์พิเศษกับ DubVision
DubVision เป็นคู่หูดีเจและโปรดิวเซอร์ชาวดัตช์ที่มีดนตรีสไตล์ Progressive House โดยผลงานเพลงฮิตของพวกเขาที่เป็นที่รู้จักก็คือ Backlash (เคยขึ้นไปอยู่ในอันดับ 1 ของ Beatport Charts) และ Invincible (ทำร่วมกับ Firebeatz) นอกจากนี้พวกเขายังเคยไปร่วมแสดงในงานเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Ultra, EDC และ Tomorrowland อีกด้วย
สยามทูไนท์มีโอกาสได้ทำการสัมภาษณ์พิเศษกับ DubVision ก่อนที่เขาจะมาทำการแสดงที่ Mystic Valley Festival Thailand 2017
ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?
ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ฮอลแลนด์ ที่สตูดิโอของเรา กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางไปเอเชีย สถานที่แรกคือบาหลี!
คุณเป็นพี่น้องจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นดีเจและโปรดิวเซอร์ที่โด่งดังไปทั่วโลกในนาม DubVision คุณเริ่มสัมผัสกับเพลงแนว EDM ยังไง แล้วคุณเริ่มเป็นดีเจได้อย่างไร?
Steve สัมผัสกับเพลงตอนช่วงที่เขาเที่ยวผับ ส่วน Victor ยังไม่ค่อยได้เที่ยวผับด้วยอายุที่ยังน้อยอยู่ แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีเพราะว่านั่นทำให้เขาอยู่บ้านแล้วทำเพลงเป็นของตัวเองบนคอมพิวเตอร์ Steve ชื่นชอบเพลงสไตล์ House และ Techno ส่วน Victor เป็นแฟนคลับตัวยงของ Tiesto (Trance) ในตอนนั้น เราเริ่มเล่นบน vinyl หลังจากนั้นเราก็ซื้อ เครื่องเล่นซีดีเพราะเราไม่มีทุนซื้อทุกเพลงในรูปแบบ vinyl
คุณเล่นและโปรดิวซ์เพลงสไตล์ Progressive House คุณสามารถอธิบายเพลงของคุณว่ามันแตกต่างจากดีเจคนอื่นๆอย่างไรได้บ้าง?
เราทำเพลงแบบ melodic dance music ในเซทของเราเราใส่ความเป็นเพลงป๊อปเข้าไป ก็คือเราเอาเพลงป๊อปมาใส่ไว้ในดนตรีแบบ House นั้นเอง เซทของเราแต่ละเซทมีความแตกต่างและมีหลายแนว นอกจากนั้นยังมีความมันส์
เป็นเพลงที่ร้องตามได้ :)
คุณเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากเพลง Backlash ซึ่งได้ปล่อยออกมาในปี 2014 และขึ้นอยู่อันดับ 1 บนชารต์หลักของ Beatport รวมไปถึงเพลง Invincible ที่ทำร่วมกับ Firebeatz นอกจากนี้ยังมีผลงานเพลงอื่นอีกไหม ที่คุณอยากจะแนะนำให้คนที่ยังไม่เคยฟังผลงานของคุณได้ลองฟังดูบ้าง?
รีมิกซ์ที่เราทำให้กับ Discopolis -Committed to Sparklemotion ที่ Axtone เป็นรีมิกซ์ที่ถูกเปิดฟังมากที่สุดในช่วงที่ Swedish House Mafie กำลังบูม
และเพลง I Found Your Heart บน Spinnin records เป็นอีกหนึ่งเพลงที่สำคัญสำหรับเรามากๆ เพราะเราอยากจะทำเพลงขอบคุณแฟนๆของเรา เราเลยคิดคำว่า heart ขึ้นมาตอนแรก หลังจากที่เราทำเพลงเสร็จ Emeni ก็เป็นคนเขียนเนื้อเพลงที่สต็อกโฮล์ม
ตอนนี้คุณกำลังโฟกัสไปที่ผลงานอะไร?
เราเพิ่งปล่อยเพลง Geht's Noch บน Musical Freedom ซึ่งก็กระแสตอบรับดีมากๆ วันที่ 10 ก.พ. เราจะปล่อยเพลงใหม่ที่มีชื่อว่า Satellites
นอกจากนั้นเราก็กำลังมีโปรเจคอื่นๆ แต่ยังบอกอะไรมากไม่ได้ แต่ติดตามเราได้ที่เฟสบุค อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ Dubvisionmusic แล้วคุณจะได้รู้เป็นคนแรกว่าเราทำอะไรอยู่บ้าง
คุณคิดว่าการแสดงใดที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด และมีเหตุการณ์ตลกๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการแสดงบ้างมั้ย?
โชว์ที่ดีที่สุดน่าจะเป็น Ultra และ Tomorrowland มันไม่เคยมีโชว์ที่แย่ ทุกๆครั้งที่เราเล่นเพื่อแฟนๆเรามันเป็นรางวัลที่ดีมากๆ สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วตลกที่สุดคือตอนที่เราไปญี่ปุ่นแล้วเราทำทุกอย่างหาย ทั้งหูฟังและ usb เราเหลือ usb แค่อันเดียวที่โรงแรม เราเซฟเพลงลงบนนั้น ยืมหูฟังของดีเจวอร์มอัพ โชคดีที่ไม่มีใครรู้เลย และโชว์ก็ออกมาดีมากๆ
คุณได้มาเล่นที่ประเทศไทยในงาน Together Festival เมื่อปี 2015 และ Warp Music Festival ในปี 2015 คุณคิดว่าการแสดงตามที่ต่างๆ รวมทั้งในประเทศไทยของคุณนั้น เป็นความทรงจำที่ดีมั้ย แล้วคุณมีอะไรจะฝากถึงแฟนๆชาวไทยที่กำลังรอชมคุณที่ Mystic Vallley Festival 2017 ในวันนั้นบ้าง
ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอัศจรรย์ และเวลามาเล่นโชว์ก็สนุกมากๆ คนดูแฮปปี้มากๆที่ได้มาเจอพวกเราและให้ความร่วมมือระหว่างโชว์ พวกเรามีความสุขตลอดเวลาได้มาโชว์ที่เมืองไทย