[Recap] 4 เหตุผลสุดวาร์ปที่ทำให้ Warp Music Festival เป็นงานที่เราลืมไม่ลง
มีหลากหลายเหตุผลที่สุดท้ายแล้วก็จะกลายมาเป็นข้อสรุปได้ว่า อยากกลับมางานอีกไหมหรือไม่มาอีกเลย นั่นคือสิ่งที่ผู้จัดของทุก ๆ งานต้องคำนึงถึงว่าต้องจัดงานยังไงให้คนติดใจและอยากกลับมาอีก บางงานก็ทำไม่สำเร็จ แต่บางงานก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทุก ๆ ปี รวมไปถึงงาน Warp ที่เพิ่งผ่านมาได้ไม่นาน อะไรที่ทำให้งานนี้เป็นงานห้ามพลาด รวมถึงในปีต่อ ๆ ไป อยากรู้ก็ต้องไปถามผู้รอดชีวิตจากดาวเสาร์ดู
ใช่แล้ว เราทุก ๆ คนรอดมาได้หมดเลย เพราะนั่นคือภารกิจที่เราได้รับมอบระหว่างวันที่ 19-20 พ.ค. 2017 วารป์เปอร์ทุก ๆ คนมารวมตัวกันที่ Warp Base Station เมืองพัทยา ปีนี้เป็นปีที่สามของงาน WARP Music Festival แล้ว ไม่ว่าคุณจะมาจากกรุงเทพ จากพัทยาเองหรือจังหวัดไหน ๆ สำหรับคนที่ได้ไปงานทุกคนเชื่อว่าได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของงานอย่างแน่นอน
อะไรล่ะที่ทำให้งานมหัศจรรย์? ถ้าคุณถามคำถามนี้อยู่แปลว่าคุณไม่ได้ไปงานนี้ แต่เราอยากแชร์ให้ทุกคนได้รู้กับ 4 เหตุผลว่าทำไมทริปไปดาวเสาร์ในปีนี้ของงาน WARP Musical Festival มีความวาร์ปจนเราลืมไม่ลง:
ความมหัศจรรย์ของสภาพอากาศ
ใครที่ไปงานนี้คงได้เตรียมตัวเปียกจากฝนไปบ้างแล้วด้วยการใส่ชุดกันฝน นำร่มไปหรือใส่บิกินี่ เวลาเปียกจะได้สบาย เพราะพยากรณ์อากาศหรือแม้กระทั่ง google weather ได้ประกาศไว้ว่าจะมีฝนตกหนักทั้งสองวันของการจัดงาน ซึ่งทางงานก็ได้เตรียมการรับมือฝนไว้อย่างดี
โดยการคลุมไฟด้วยพลาสติกและ สร้างกันฝนสำหรับบูธดีเจ เตรียมตัวรับมือกับฝนขนาดนี้สิ่งเดียวที่ทำได้อีกก็คือการภาวนาไม่ให้ฝนตกลงมานั่นเอง วันแรกผ่านไปโดยดีไม่มีฝนสักหยด พอมาวันที่ 2 ทุก ๆ คนก็ยังโชคดีเหมือนเดิม ไม่มีวี่แววของฝนที่จะตกลงมากวนงานเลย จึงทำให้ผู้จัดงานได้ย้ายกันฝนตรงบูธดีเจออกเพื่อการมองเห็นดีเจและจอที่ชัดขึ้น นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่เกิดกับทุก ๆ คนที่ไปงาน ซึ่งเราก็ได้ข่าวมาว่า ทีมงาน Warp มีเคล็ดลับสุดเจ๋งอยู่ที่ คนปักตะไคร้ นั่นเอง ซึ่งคนในความลับคนนี้ ปักตะไคร้ที่งาน Warp มาแล้ว 3 ปีติด และฝนไม่เคยมากร้ำกรายงาน Warp ได้เลยทั้ง 3 ปี (ของเขาดีจริง ๆ)
ความมหัศจรรย์ของเสียง
สิ่งที่เจ๋งเกี่ยวกับงาน WARP ก็คือถ้าคุณมาถึง Warp คุณจะไม่กลับเร็วแน่นอน เพราะคุณรู้ว่าหลายๆความฟินรอคุณอยู่ที่นั่น ซึ่งในงานได้เปิดเพลงแนว Trap และหลายๆแนวเพลงกับไลน์อัพดีเจสุดฟินสองวันเต็ม ๆ
เฮดไลน์ดีเจงานนี้ประกอบไปด้วย Deorro, Dyro, Excision และ Zeds Dead และได้ดีเจอย่าง 4B, Breathe Carolina, Crankdat, Gammer, Sam Feldt และ Say My Name มาร่วมแจมด้วย หนึ่งในดีเจจากบ้านเรา Bang Bang Bang ก็ได้ไปเล่นที่งานในวันแรกเช่นกัน
ความมหัศจรรย์ของจอภาพจากเวที
ความโชคดีที่ไม่มีฝนตกในวันงาน แสงสีเสียงในงานก็เต็มที่ โดยเฉพาะงานนี้จัดขึ้นกลางแจ้ง จึงสามารถจุดพลุและปล่อยเอฟเฟคที่งานที่จัดในฮอลล์ไม่สามารถทำได้ งานนี้มีทั้งเลเซอร์ พลุและไพโรทั้งสองวันเลย
เชื่อว่าใครที่ได้ไปงานในวันแรกจะต้องไม่พลาดวันที่ 2 อย่างแน่นอน และที่พิเศษสุด ๆ ไปเลยก็คือภาพบนจอของ Excision ที่เข้ากับดีเจเซ็ทของเขาสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นไดโนเสาร์ กอริลล่า ยานอวกาศ แมว ทุก ๆ อย่างที่คุณอยากเห็น ได้เห็นแน่นอน
ความมหัศจรรย์ของมิตรภาพ
ไม่ใช่เพียงบนจอเท่านั้น แต่อาหารตาภายในงานก็มีไม่น้อย ดาวเสาร์ในปีนี้เป็นที่ ๆ เปิดโอกาสให้คนโสดสามารถไปทำความรู้จักกับคนใหม่ ๆ ได้ง่ายเลยทีเดียว
ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ชอบอยู่ชิดติดขอบหน้าเวที ชอบยืนห่างออกมาจากคนเพื่อให้มีพื้นที่ในการเต้น หรือจะเป็นคนที่เอาเท้าไปจุ่มทะเล ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน คุณก็สามารถหาเพื่อนได้ทุกที่ บางคนมาที่งานคนเดียวแต่กลับกันไปเป็นกลุ่ม ความมหัศจรรย์ของมิตรภาพที่งาน WARP เป็นของขวัญสุดพิเศษในสองวันของการจัดงาน
มันไม่สำคัญเลยว่าคุณจะรู้ตัวไหม ว่าคุณกำลังอยู่ในหนึ่งเหตุการณ์ที่มหัศจรรย์ที่สุดของปีนี้ แต่สิ่งที่พูดได้เต็มปาก คืองานนี้เป็นหนึ่งในวันที่ดีที่สุดของชีวิตของคุณ และทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญว่าทำไม WARP Music Festival ถึงได้เป็นงาน EDM ที่อยู่อันดับต้นๆของประเทศไทย แต่ตอนนี้เรากลับมาอยู่บนโลกแล้ว ได้เวลารอลุ้นกันต่อไปสำหรับปีหน้าว่า วารป์เปอร์จะไปท่องอวกาศไปลงที่ไหนกันต่อ
สำหรับข้อมูลข่าวสารและอัพเดท ตามไปฟอลโล่วเฟซบุ๊คเพจหรือเว็บไซต์ของงานได้เลย
เขียนโดย Tang Kalayanamit
รูปภาพโดย Siam2nite