[Recap] Transmission: ที่สุดของปรากฏการณ์ความมันส์สไตล์ Trance ที่เมืองไทยเคยสัมผัส
ในวันที่ 10 มี.ค. 2017 ที่ผ่านมาเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวันที่สามารถจารึกไว้ได้ว่าเพลงแนว trance กำลังมาแรงสุดๆที่ประเทศไทยและเราก็คงยกเครดิตให้กับงานไหนไม่ได้นอกจากงาน Transmission Festival 2017 ที่มาจัดที่ฮอลล์โฉมใหม่ล่าสุดของ BITEC ให้ดีเจ trance ระดับโลกได้มาโชว์ความสามารถ และโชว์ไลฟ์ของงานอีกด้วย ซึ่งเราก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าประเทศไทยได้กลายเป็นสถานที่ที่มีงานเฟสติวัลเยอะมากๆ และงานก็มีคุณภาพและขนาดที่ใหญ่และดีขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่เจ๋งเกี่ยวกับงาน Transmission Festival ก็คือสิ่งที่ผู้จัดได้รับปากไว้กับทุกๆคนและเขาก็ได้ทำมันออกมาได้ตามที่กล่าวไว้พร้อมทั้งทำให้งานนี้เป็นงานที่เข้าถึงได้ สำหรับใครที่ได้ไปงาน ก็คงจะได้เห็นกับตาว่าทุกคนอินกับงานมากแค่ไหน แต้สำหรับคนที่ไม่ได้ไปงานหรือติดภารกิจอื่นในวันนั้น ลองมาดูกันว่า 5 สิ่งที่ทำให้งาน Transmission Festival 2017 สนุกสุดเหวี่ยงมีอะไรกันบ้าง
โชว์ที่แน่วแน่
ทางงานได้สัญญาไว้ว่าจะมีเลเซอร์ RGB 23-วัตต์ อย่างน้อย 10 ตัว และเลเซอร์เขียว 8-วัตต์ 8 ตัวที่ไม่สามารถหาที่เอเชียได้และต้องนำเข้าจากยุโรปเลยทีเดียว พร้อมกับ ไพโร เวที ควัน ที่รวมๆกันแล้วสร้างเอฟเฟคความอลังการให้กับงานได้เป็นอย่างดี คนดูไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน สำหรับงานที่จัดภายในฮอลล์ ผู้จัดต้องจัดการพื่นที่และใช้ทุกที่ให้คุ้มที่สุดเพื่อประสบการณ์ของผู้ที่มางาน
เอฟเฟคในงานเรียกได้ว่าล้ำสุดๆ ทั้งควัน ทั้งเปลวไฟ และเลเชอร์ตลอดทั้งงาน ซึ่งเป็นการเปิดตัว Transmission Festival ครั้งแรกในเอเชียได้สวยงามมากๆ โชว์ทั้งหมดนี้จัดขึ้นบนเวทีสูง 23 เมตร และก็เชื่อว่างานนี้จะถูกจดจำไปตลอด
การโชว์ดีเจ Trance
ดีเจทุกคนเตรียมพลังกันมาอย่างแน่นทั้ง Markus Schulz, Ferry Corsten presents Gouryella, Aly & Fila, John O’Callaghan, Bryan Kearney, Omnia, Drift Moon และ Lonskii พวกเขามาเอเชียเพื่อมาโชว์ฝีมือจริงๆ รวมไปถึงโชว์ Transmix ของ Vision Impossible ก็เอางานอยู่หมัด
เพลงที่งานเปิดได้ดีตลอดทั้งคืนซึ่งก็เข้ากับการเป็นงาน trance และได้มอบประสบการณ์ที่ทุกคนได้คาดหวังเอาไว้ เสน่ห์ของ trance คือการที่คุณจะตกหลุมรักกับช่วงเวลานั้นและเสียงเพลงใสๆฟังชัดของเพลงแนว trance ที่ดังกึ๊กก้องไปทั้งฮอลล์ เพราะได้เครื่องเสียงดีๆอย่าง Funktion One ที่นำเข้ามาจากอังกฤษเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
บรรยากาศงาน
ตอนประมาณ 1 ทุ่ม ฮอลล์ก็เต็มไปด้วยผู้คน ซึ่งงานนี้ไม่ได้ดึงดูดคนไทยเพียงเท่านั้น เพราะคนมาจากทั่วโลก ดูได้จากการมาเป็นตัวแทนของแต่ละประเทศด้วยการนำธงชาติมาด้วย และด้วยกลุ่มคนที่หนาแน่นจากทั่วทุกมุมโลก
ลองคิดดูนะว่าถ้างานไหนไม่ดีจริงๆ ฮอลล์ก็คงไม่เต็มตั้งแต่งานเริ่ม ใครที่ไปถึงในงานก็สามารถเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศบวกๆในฮอลล์ที่ประกอบไปด้วยลมและเสียงเพลงที่สร้างสรรค์ขึ้นได้ไพเราะมากๆ เรียกเราเป็นคนเพ้อฝันก็ได้ แต่คุณจะเข้าใจความรู้สึกนั้นเมื่อคุณอยู่ที่งาน
การจัดการและการบริหาร
ทางงานได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นงานที่จัดโดยมืออาชีพ พวกเขาได้บอกไว้ว่าทีมงานหลักของ Transmission Europe 25 คนมาจัดการงานเพื่อรับรองว่างาน The Lost Oracle ที่กรุงเทพให้ออกมาเหมือนงานที่จัดที่ เมืองปรากมากที่สุด
การเข้างานง่ายมากๆ เวลาอยากจะซื้อเครื่องดื่มก็ไม่ต้องรอนานเช่นกัน เครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลายอย่าง และโชว์ก็ดีมากๆถึงกับต้องตั้งคำถามเลยว่ามันดีกว่าต้นฉบับเลยหรือเปล่า งานผ่านไปอย่างนุ่มลื่นแบบไม่มีสดุดเลยเช่นเดียวกับเพลงที่เปิดภายในงาน ต้องขอขอบคุณทีม Transmission จริงๆ
สปอนเซอร์หลายเจ้า
สำหรับบางคนเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่สำหรับคนที่ชอบดื่มเรื่องนี้เป็นข่าวดีเพราะว่าการมีสปอนเซอร์หลายเจ้าทำให้คนที่มางานมีตัวเลือกในการดื่มมากขึ้น
สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีทั้งเบียร์ช้าง เหล้าJack Daniel's วอดก้า Filandia และ ไซเดอร์ Rekorderlig นอกจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ก็ยังมี Red Bull และ Coca Cola เรียกได้ว่าเป็นงานที่เสริฟครบและทั่วถึง แถมราคาก็ไม่แพงเว่อร์ ทำให้เป็นค่ำคืนที่สนุกแล้วก็สะดวกมากๆ
หากคุณพลาดงานนี้ไปไม่ต้องเศร้า Transmission Festvial Asia ได้มาหว่านพืชไว้ที่นี่แล้วและก็ได้เติบโตอย่างรวดเร็ว ในเร็วๆนี้จะมีงานอีกแน่นอน เพราะฉะนั้นเปิดหูเปิดตาไว้ให้ดีแล้วเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงานหน้า
สำหรับข่าวสารและอัพเดทต่างๆ เข้าไปติดตามได้ที่เว็ปไซท์ และเฟสบุคเพจ Transmission Festival Asia
เขียนโดย Tang Kalayanamit
รูปภาพโดย Siam2nite