5 เหตุผลว่าทำไมคุณต้องไปงาน Road to Ultra: Thailand 2016
สาวกอัลตร้าเตรียมตัวให้พร้อม เพราะงาน Road to Ultra กลับเยือนประเทศไทยอีกครั้งในปี 2016 และดูเหมือนว่า การกลับมาอีกครั้งที่ไบเทค บางนา ในวันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน 2559นี้ จะเป็นครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการจัดงานมาอีกด้วย!
มิวสิคเฟสติวัลชื่อดังระดับโลกเตรียมกลับมาสร้างความมันส์ให้กับสาวกเรฟเวอร์ชาวไทยอีกครั้ง โดยถ้าลองนึกดูดี ๆ ในปี 2016 ที่ผ่านมา ในประเทศไทยเต็มไปด้วยงานมิวสิคเฟสติวัลระดับบิ๊กบึ้มมากมาย และนี่ยังไม่พ้นครึ่งปีเลยด้วยซ้ำ รวมไปถึงการกลับมาเยือนประเทศไทยของ Ultra อีกครั้ง ก็น่าจะทำให้ซีนปาร์ตี้ของไทยร้อนแรงขึ้นแบบฉุดไม่อยู่
เราขอบอกว่า ระหว่างที่คุณกำลังตัดสินใจว่า คุณจะไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานยักษ์งานนี้หรือไม่ บัตรของงานนี้ก็กำลังถูกซื้อกระหน่ำ ยิ่งกว่าแจกฟรีเสียอีก โดยบัตรถูกขายไปแล้วกว่า 90% และอีกไม่ช้าเราเชื่อว่า มันจะต้อง Sold Out!
บัตรรอบที่ 1, 2 และ 3 ถูกซื้อไปเกลี้ยงภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง เอาล่ะ! เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เราจะช่วยคุณเอง และนี่คือ 5 เหตุผลที่เรายกมาให้คุณได้ลองอ่านว่า ทำไมคุณต้องไปงาน Road to Ultra: Thailand ในปีนี้
1. มาร่วมบอกลา Avicii เป็นครั้งสุดท้าย
เราเชื่อว่า ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า ปีนี้ Avicii หรือ Tim Bergling จะยุติการทัวร์ของเขาเป็นปีสุดท้าย (หรือจนกว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง) เขาติดโผอยู่ที่อันดับ 7 ของการจัดอันดับดีเจของโลก การยุติการทัวร์ของเขาถือว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่งของวงการดนตรี ไม่ใช่เพียงแค่ซีน EDM เท่านั้น คงไม่มีใครคิดว่า เพียงไม่นานหลังจากปล่อยอัลบั้มล่าสุดของเขาที่ชื่อว่า “Stories” เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว Avicii จะวางมือแบบปุบปับ จนแฟน ๆ ตั้งตัวไม่ติดขนาดนี้ แต่คำถามที่เด็ดกว่านั้น คือ ใครจะไปคิดว่าประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้มีส่วนร่วมในการทัวร์ครั้งสุดท้ายของเขาด้วย และนี่ก็คงเป็นเหตุผลที่คุณคงปฏิเสธไม่ได้ ว่าในเมื่อซูเปอร์สตาร์อย่าง Avicii มาแสดงเป็นครั้งสุดท้ายในไทย และสาวกขาแดนซ์ตัวจริงแบบคุณ ไม่ได้ไปเชียร์เขาติดขอบเวที
2. ซูเปอร์สตาร์ Martin Garrix กลับมาขโมยหัวใจชาวไทยอีกครั้ง
ตรงกันข้ามกับเรื่องของ Avicii เลยทีเดียว สำหรับหนุ่มน้อยขวัญใจชาวไทยอย่าง Martin Garrix ที่กำลังอยู่ในช่วงทัวร์แบบไม่หยุดหย่อน โดยเขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่หลาย ๆ คนเชื่อว่า จะคว้าอันดับ 1 จากการจัดอันดับดีเจของปีนี้ด้วยซ้ำ อันเนื่องมาจาก สไตล์การเล่นที่พัฒนาขึ้นทุกวัน ไม่ต้องเป็นที่สงสัยเลยว่าโชว์ของเขาจะมันส์สุดยอดแค่ไหน และนี่คือเป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมเขาจึงเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาสาวก EDM อย่างมาก โดยเขาเองเพิ่งจะมีอายุครบ 20 ปีเต็มเท่านั้น นี่ก็เป็นข้อพิสูจน์อีกอย่างว่า อายุเป็นเพียงตัวเลขจริง ๆ เพราะฉะนั้น เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปมันส์และดื่มฉลองให้กับ Martin Garrix ที่ในที่สุดก็อายุครบเกณฑ์ที่จะดื่มได้ในที่สุด!
3. สนุกไปแบบไม่ต้องยั้งกับกลุ่มคนดูที่มีใจรักในเสียงดนตรีเหมือนกัน
ความสำเร็จของ Ultra จากงานทั่วทุกมุมโลก เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของหลาย ๆ อย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น เรื่องของกลุ่มคนดูที่มีความแตกต่างและเด่นที่สุด การไปรวมอยู่กับกลุ่มสาวกอัลตร้าก็เหมือนกับการรวมตัวเองเข้ากับดนตรีนั่นเอง ทุกคนที่มาที่นี่ มารวมตัวกันด้วยความรักที่มีให้กับเสียงดนตรี และนั่นก็น่าจะทำให้คุณได้รู้สึกเหมือนอยู่ครอบครัวกลุ่มใหญ่ที่มีใจรักในสิ่งเดียวกันนั่นเอง และนั่นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Ultra มีความพิเศษมากกว่างานอื่น ๆ และเราก็ขอคอนเฟิร์มว่า งานในวันที่ 11 นี้ก็จะให้ความรู้สึกแบบนี้กับคุณอย่างแน่นอน
4. สัมผัสประสบการณ์ของงานโปรดัคชั่นและระบบเสียงระดับโลก
เมนสเตจที่งาน Ultra Miami ปีนี้ อาจจะเป็นเวทีที่ดีที่สุดที่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ พลังงานและความอลังการของเวทีปีนี้เจ๋งสุด ๆ รวมไปถึงระบบแสงและเสียงที่ล้ำแบบสุด ๆ และเราก็สามารถคาดหวังคุณ๊ภาพระดับเดียวกันได้ที่งานนี้ ไม่มีอะไรจะพิสูจน์คุณภาพของทีมงานนี้ได้ดีกว่า ผลงานที่ผ่านมาที่ไม่เคยทำให้เหล่าเรฟเวอร์ผิดหวังในระบบแสง สี เสียงเลย การันตีด้วยจำนวนงานใน 12 ประเทศทั่วโลก งานนี้จะต้องเป็นอีกหนึ่งงานที่ทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน
5. ไม่ต้องบินไปถึงไมอามี่ - ถึงงานง่าย ๆ แค่ใช้ BTS
มันเป็นช่วงที่เวลาที่ผ่านไปนานมากแล้ว สำหรับช่วงแห่งความยากลำบากที่ในการจะดูการแสดงสดของศิลปินแต่ละคนที่คุณชื่นชอบ ทำให้คุณต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปเพื่อไปดูการแสดงของพวกเขา ตอนนี้ ที่คุณต้องทำก็แค่ขึ้น BTS ไปลงสถานีบางนา และด้วยความสะดวกสบายขนาดนี้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้นที่คุณจะไม่ไปงานนี้ และนอกจากเฮดไลน์เนอร์ที่เราได้กล่าวถึงมาข้างต้นแล้ว ก็ยังมีศิลปินที่ตบเท้ามาให้คุณได้ยลโฉมกันอีกหลายชีวิต ไม่ว่าจะเป็น Ansolo, Jauz, และ Sunnery James & Ryan Marciano!
สำหรับบางคน อาจจะคิดว่า คุณเคยไปมาหมดแล้ว เคยเห็นมาหมดแล้ว แต่เชื่อเราเถอะ คุณจะต้องเซอร์ไพรซ์กับงานนี้แบบไม่หยุดแน่นอน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ Facebook หรือซื้อบัตรได้ที่ Road To Ultra website ที่ราคา 2,700 และวางแผนการเดินทางของคุณให้พร้อม แล้วไปเจอกันที่ไบเทค บางนา ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ ทีมงานของเราจะไปเก็บภาพความมันส์ของพวกคุณมาฝากกันแบบเต็มอิ่มอย่างแน่นอน!