5 เหตุผลที่อาจทำให้ Big Mountain Music Festival 7 (BMMF7) เป็นปีที่เจ๋งที่สุด
เป็นที่ทราบกันดีว่าในปีนี้งานเทศกาลดนตรี Big Mountain Music Festival (BBM7) มัน-ใหญ่-มาก ไม่ได้ถูกจัดขึ้นที่ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา ในปี 2015 นี้ Big Mountain Music Festival (BBM7) มัน-ใหญ่-มาก ได้ย้ายไปจัดที่ แก่งกระจาน คันทรีคลับ จ.เพชรบุรี
จากการประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องตลอดทุกปีที่ผ่านมา Big Mountain Music Festival ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในมหกรรมดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการดนตรีเพลงไทย โปรดักชั่นในงานก็ยิ่งใหญ่ขึ้นทุกปี ซึ่งปีนี้ทางทีมจัดงานก็ได้เนรมิตความอลังการขึ้นมาแบบไม่น้อยหน้าปีก่อนๆเลย ถ้าเห็นแบบนี้แล้วอาจทำให้หลายคนนึกถึงความเจ๋งของงานในปีหน้าตั้งแต่งานในปีนี้ยังไม่จบเลยก็เป็นได้ แต่ถ้าคุณยังไม่เห็นภาพ นี่คือ 5 เหตุผลที่อาจทำให้ เทศกาลดนตรี Big Mountain Music Festival 7 (BMMF7) เป็นปีที่เจ๋งที่สุด
1. อากาศดี๊ดี
ใครจะไปคิดว่าการที่ย้ายออกจากภูเขา กระเถิบลงไปทางใต้นั้น ผู้ที่มาร่วมงาน BMMF7 ก็ยังคงได้รับลมหนาว และมีโอกาสได้ใส่เสื้อกันหนาว ที่เก็บอยู่ในตู้เสื้อผ้ามาทั้งปี คาดว่าอุณหภูมิจะลงไปถึงประมาณ 20 องศาต้น ๆ เรียกได้ว่าเย็นกว่าแอร์ในออฟฟิศของ Siam2nite ซะอีก! ยังไงพวกเราก็อยากให้ทุกคนเตรียมเครื่องกันหนาวให้พร้อม หรือ ถ้าใครลืมก็เตรียมตัวเต้นกันแบบ non-stop เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นแทนละกัน
2. ลองบรรยากาศใหม่ ๆ
เวลาที่เราได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ก็มักจะมีเรื่องราวที่น่าสนใจไปเล่าต่อเสมอ มันคงจะดีถ้าคุณมีโอกาสได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ได้รับตอนไปงาน Big Mountain Music Festival ที่จัดขึ้นในปีแรก อย่างไรก็ตามผู้ที่กำลังจะไปร่วมงาน BMMF7 นั้น ก็จะมีโอกาสได้เล่าถึงเรื่องที่พวกเขาได้ไปบุกเบิกงาน Big Mountain Music Festival ที่จัดขึ้น ณ แก่งกระจาน คันทรี คลับ เป็นครั้งแรก! โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยครั้ง ซึ่งผู้ที่ไปร่วมงานนั้นจะได้พบกับความสนุกสนานแบบเดิมในบรรยากาศใหม่ ๆ อย่างแน่นอน
3. มัน - (ยังคง)ใหญ่ - มากกกกก
“มัน – ใหญ่ – มาก” ยังคงเป็นคอนเซปต์ของงานเหมือนในทุกปีที่ผ่านมา เป็นสโลแกนที่ทุกคนจำได้และบ่งบอกได้ถึงความเป็น Big Mountain Music Festival มหกรรมโจ๊ะหมู่เพื่อบูชาวงการเพลงไทย สำหรับงานในปีนี้ความยิ่งใหญ่ไม่แพ้ปีก่อน ๆ แน่นอน รวมไปด้วยเวทีใหญ่ ถึง 9 เวที ซึ่งก็คือ Ferris Wheel Stage (เวทีชิงช้าสวรรค์), Cow Stage (เวทีวัว), Rock Village (หมู่บ้านชาวร๊อค), Egg Stage (เวทีไข่), Lang Ka Daeng (หลังคาแดง), Akojhon Pub (อโคจร ผับ), Soi 2 (ซอย 2), God-Zi-Lar Rum Wong Bar (เวทีก็อตซิหล่า บาร์รำวง) ที่พร้อมต้อนรับศิลปินกว่า 200 ชีวิต เพื่อมาสร้างความสนุกสนานให้กับชาว BMMF ตลอดทั้ง 2 วัน ถ้าเราแยกร่างได้ก็คงจะดี เพราะทุกเวทีเด็ดแน่
4. เปลี่ยนสถาณที่ถ่ายรูปสวยๆ
พวกเรารู้กันดีว่าคนไทยชอบถ่ายรูปเซลฟี่กันขนาดไหน งาน BMMF จึงได้จัดเตรียมจุดต่างๆในงานให้เป็นพื้นที่สำหรับการเก็บภาพสวย ๆ เพื่อที่คุณจะถ่ายรูปโพสลงโซเชียลมีเดียตามใจคุณ โอกาศนี้แหละ ถ้าคุณเคยคิดว่าอยากเป็นเน็ตไอดอล นี่อาจจะเป็นจังหวะของคุณก็ได้ อย่าลืมไปถ่ายรูปกับเจ้าวัวยักษ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของงาน BMMF หรือเสาโทเทม สุดเท่ห์ ก่อนใคร
5. มันส์ไปกับศิลปินมากมายท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ
นอกเหนือจากศิลปินเชื่อดังอย่างคาราบาว บอดี้สแลม ปาล์มมี่ โปเตโต้ ไทเทเนี่ยม ก้านคอคลับซึ่งนำทีมโดยป๋า โจอี้ บอย และศิลปินชื่อดังอีกมากมาย ที่พร้อมใจกันมาสร้างความมันส์ให้กับชาว BMMF ทางผู้จัดงานยังสนับสนุนให้ทุกคนที่มางาน ได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวตามจุดชมวิวต่าง ๆ ก่อนที่คอนเสิร์ตจะเริ่มในเวลา 4 โมงเย็นเป็นต้นไป เช่น ขับรถไปจุดชมทะเลหมอก ณ เขาพะเนินทุ่ง ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ไม่ไกลจากตัวงานเลย
สำหรับใครที่สนใจอยากไปร่วมมหกรรมโจ๊ะหมู่ บัตร 2 วัน ราคาปกติ 2,000 บาท และ บัตรวันเดียว ราคาปกติ 1,200 บาท แต่เนื่องจาก PEPSI ที่เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของงานนี้ใจดีมาก หากคุณซื้อ PEPSI หรือ PEPSI MAX ทุก 89 บาท ที่ 7-Eleven คุณจะได้รับสิทธ์ลดทันที 15% สำหรับบัตร 2 วัน เหลือเพียง 1,700 บาทและ บัตรวันเดียวเหลือเพีบง 1,020 บาท ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน BMMF7 สถานที่ตั้งแคมป์ ตารางการแสดง และอื่น ๆ สามารถดูได้จากเว็บ BMMF website