Abovestone รูฟท็อปบาร์ย่านเอกมัยที่ให้เซอร์วิสเกินร้อย
ดื่มด่ำกับบรรยากาศเมืองกรุง รสชาติอาหารไทย-เทศฝีมือเชฟ เครื่องดื่มนานาชนิด ไลฟ์มิวสิกสุดชิล และการบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟ
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ชอบออกไปสังสรรค์ พลางชมวิวสวยๆ ของกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืนล่ะก็… น่าจะทราบดีว่าในซอยเอกมัยไม่ค่อยมีรูฟท็อปบาร์ให้เราไปนั่งจิบเครื่องดื่มเพลินๆ มากเท่าไรนัก
Abovestone จึงเกิดขึ้น ด้วยความตั้งใจของทีมหุ้นส่วนที่อยากให้สถานที่แห่งนี้ เป็นแหล่งแฮงเอาต์ที่มอบความรู้สึกแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ทั้งในแง่ของบรรยากาศ อาหาร-เครื่องดื่ม และการบริการ เฉกเช่นโรงแรมห้าดาวระดับท็อปในเมืองไทย
ร้านตั้งอยู่บนชั้น 3-4 ตึกเดียวกับ Bliss Ekkamai ระหว่างซอยเอกมัย 12-14 โดยสามารถขึ้นไปยังตัวร้านได้ด้วยลิฟต์แก้ว ด้านในมีการตกแต่งด้วยโทนสีคอปเปอร์ (ทองแดง) และใช้หินเป็นวัสดุหลักเช่นเดียวกับชื่อร้าน โดยไอเดียในการออกแบบนั้น ทางหุ้นส่วนร้านสะสมแรงบันดาลใจมาจากสถานที่ต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นและทวีปยุโรป จึงนำกลิ่นอายและบรรยากาศแบบผสมผสานมาใส่ไว้ที่ Abovestone
โดยบริเวณชั้น 3 เป็นโซนอินดอร์ที่ตกแต่งสไตล์เลานจ์ มีการใช้ไม้ หนัง และหิน เป็นองค์ประกอบหลัก ที่ให้ความรู้สึกสบายๆ ราวกับได้นั่งชิลในห้องนั่งเล่น ตรงมุมข้างในมีบาร์เครื่องดื่มเล็กๆ พร้อมให้บริการ
เมื่อขึ้นมายังชั้น 4 ร้านจะแบ่งออกเป็น 3 โซนย่อย ได้แก่ โซนโอเพ่นแอร์ ที่สามารถมองวิวของเส้นถนนสุขุมวิท 63 และโรงแรม-คอนโดใกล้เคียงได้ ตรงกลางเป็นโซนอินดอร์ที่ไม่กว้างขวางนัก แต่มีบรรยากาศน่ารักๆ ด้วยการติดไฟสีฟ้าทั่วเพดานร้าน เหมือนดวงดาวดวงเล็กๆ ที่สว่างไสวบนท้องฟ้ามืด คั่นโซนหน้าเวทีอีกฝั่งหนึ่งฝั่ง
ที่จะมีวงดนตรีมาเล่นสดเพลงไทย-สากลแนวโฟล์กซอง อะคูสติก อีซี่ลิสเซ็นนิ่ง เป็นประจำทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 20.00-21.30 และ 22.00-23.30 น. จากนั้นมีการเปิดเพลงแนวฮิปฮอป อาร์แอนด์บีคั่นเพื่อสร้างบรรยากาศสนุกๆ ต่อเนื่อง
ด้านข้างเวทีมีขั้นบันไดให้ขึ้นไปยังชั้นลอยหรือรูฟท็อป ซึ่งมีมุมเล็กๆ สุดน่ารักอีกหนึ่งมุม ตกแต่งสไตล์สวนหย่อมบนดาดฟ้า และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่ามุมอื่นในร้าน
อย่างที่เล่าไปตอนแรกว่า Abovestone อยากเป็นรูฟท็อปที่ให้ความรู้สึกแบบเอ็กซ์คลูซีฟราวกับโรงแรมห้าดาว เพราะฉะนั้น ร้านจึงให้ความสำคัญกับการบริการเป็นอย่างแรก ซึ่งเซอร์วิสนี้ไม่ได้หมายความเพียงแค่การดูแลลูกค้าของพนักงานเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความสะอาดและความปลอดภัยในบริเวณร้านอีกด้วย
ความสำคัญอันดับต่อมาคือการออกแบบเมนูอาหาร ที่เชฟคัดสรรเมนูอาหารที่มักเสิร์ฟในโรงแรมต่างๆ ยกมาไว้ที่ใจกลางเอกมัย โดยเน้นเมนูอาหารไทยและตะวันตกสไตล์โมเดิร์น
เมนูแนะนำจานแรก Sear Salmon with Creamy Oyster Sauce and Berry (450 บาท) เนื้อปลาแซลม่อนที่ถูกนำไปเซียร์ (ทำให้สุกด้วยการทอดน้ำมันน้อยๆ ในกระทะ) เสิร์ฟในซอสครีมหอยนางรม ที่ใส่น้ำมันทรัฟเฟิลเข้าไปด้วย จึงมีกลิ่นหอมเป็นอย่างมากเวลารับประทาน Fried Chicken Wings (160 บาท / 6 ชิ้น) ปีกไก่ทอดหนังกรอบ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วรสเข้มข้น ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
Black Pasta Seafood (239 บาท) หรือสปาเก็ตตี้แบล็กอิงค์ ในซอสซีฟู้ดสูตรพิเศษของร้าน ปิดท้ายด้วย Deep Fried Sour Chicken Tendons (160 บาท) หรือแหนมเอ็นไก่ทอด ที่ร้านนำเมนูสแน็กยอดนิยมอย่างเอ็นข้อไก่ มาหมักเป็นแหนม มีรสชาติอมเปรี้ยว ก่อนนำไปทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟคู่น้ำจิ้มไก่รสหวาน
ส่วนเมนูเครื่องดื่ม ทางร้านพร้อมให้บริการครบครัน ไม่ว่าจะเป็นไวน์ขาว ไวน์แดง แชมเปญ เหล้า เบียร์ คลาสสิกค็อกเทล ม็อกเทล ฯลฯ แต่ที่ไม่ควรพลาด คือซิกเนเจอร์ค็อกเทล ที่ร้านคิดขึ้นมาใหม่จำนวนทั้งหมด 14 ตัว
เรามีโอกาสได้ลิ้มรส Dessert Cocktail (330 บาท) ที่นำช็อกโกแลต มาผสมกับลิเคียวเมลอน แต่งขอบแก้วด้วยผงบ๊วย เสิร์ฟพร้อมบราวนี่ เครื่องดื่มไม่ได้มีรสหวานมากจนเกินไปนัก แต่มีรสของผลไม้เล็กน้อย สามารถดื่มได้เรื่อยๆ
Marry Me (330 บาท) ค็อกเทลหน้าตาน่ารัก ทำมาจากเหล้ารัมมะพร้าว ผสมกับลิเคียวลิ้นจี่ ท็อปปิ้งด้วยวิปครีมและเรนโบว์สปริงเกิล ก่อนวางผลสตรอว์เบอร์รีสดปิดท้าย มีรสชาติเปรี้ยวหวาน แก้วสุดท้ายชื่อว่า Abovestone (330 บาท) เครื่องดื่มสีแดงสดที่มีส่วนผสมของวอดก้าและแอบซินธ์ ผสมลิเคียวสตรอว์เบอร์รี ค่อนข้างแรงแต่ยังดื่มง่ายอยู่ เสิร์ฟคู่กับผลไม้สด อาทิ บลูเบอร์รี ส้ม และสตรอว์เบอร์รี
ไปสัมผัสบรรยากาศของเอกมัยยามค่ำคืนบนรูฟท็อปที่ Abovestone พร้อมดนตรีสดสุดชิล และอาหารไทย-ตะวันตกรสอร่อยได้ทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 18.00 - 00.00 น. บนชั้น 3 และ 4 ของร้าน Bliss Ekkamai ถนนสุขุมวิท 63 ระหว่างซอยเอกมัย 12-14 ได้เลย!