7 บาร์ในกรุงเทพสุดฮิต เป็นมิตรกับชาวเกย์
เปิดลายแทงสีรุ้งกับ 7 บาร์สุดฮิตในกรุงเทพ นอกเหนือจากสีลม ซ.2 ที่ไม่ควรพลาด พร้อมต้อนรับชาวเกย์ให้ไปชิลกันได้อย่างเต็มที่
หากพูดถึงดินแดนที่เป็นสวรรค์ของเกย์ แน่นอนว่าไทยก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยม และเป็นมิตรกับเหล่าชาวเกย์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จนทำให้ชาวต่างชาติเลือกที่จะเดินทางมาพักผ่อนที่ไทยกันมากมาย รวมไปถึงคนไทยเราเอง ก็มักจะหาเวลาว่าง ออกมามีตติ้งกับเพื่อนๆ เสมอ
สำหรับใครที่อยากจะหาสถานที่ที่เอาไว้ผ่อนคลาย นั่งชิล นั่งเม้าท์มอยกับเพื่อนสาว หรือใครที่อยากพบปะกับเพื่อนใหม่คอเดียวกัน บ้านเราก็มีหลากหลายสถานที่ให้ได้ออกไปแฮงค์เอ้าท์กันมากมาย
สำหรับจุดยอดฮิตที่หลายคนนึกถึงและนิยมออกไปปาร์ตี้ คงหนีไม่พ้น สีลม ซอย 2 ที่มีร้าน DJ Station เป็นตัวชูโรง รวมไปถึงร้านอื่นๆ อีกมากมาย แต่นอกจากสีลม ซอย 2 แล้ว ก็ยังมีบริเวณอื่นๆ อีกเช่นกัน ซึ่งครั้งนี้เราขอแนะนำอีก 7 บาร์และร้านอาหารสุดเก๋ ที่พร้อมเปิดร้านต้อนรับชาวเกย์กันอย่างเป็นมิตร รับรองว่าสามารถไปแฮงค์เอ้าท์กันได้แบบเต็มสตรีมเลยจ้าแม่
Fake Club The Next Gen (เฟค คลับ เดอะ เน็กซ์ เจน)
หลังจากสั่งสมชื่อเสียงมาอย่างยาวนานกว่า 12 ปี เริ่มต้นตั้งแต่โลเคชั่นดั้งเดิมในย่าน อตก. จนขยับขยายมายังที่ล่าสุดในรัชดาภิเษก ซอย 4 มนต์เสน่ห์ความฮิตของ Fake Club ก็ยังไม่เสื่อมคลาย ภายใต้พื้นที่ที่กว้างขวางยิ่งขึ้น พร้อมการตกแต่งที่สวยงามกว่าเดิม
อัดแน่นความสนุกแบบจัดเต็มทุกคืนด้วยวงดนตรีสดและเพลงมันๆ จากดีเจสุดคูล ที่ให้คุณวาดลวดลายโชว์สกิลการแดนซ์ในตัวออกมาได้อย่างเต็มที่ ท่ามกลางแสงสีเสียงแบบจัดเต็ม นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์เด็ดที่ทุกคนต่างรอคอย อย่างการโชว์นายแบบสุดเซ็กซี่ พร้อมด้วยอีเว้นท์พิเศษต่างๆ ที่มีจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่วงเทศกาลและช่วงเวลาปกติ
ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกอย่างครบครัน ให้คุณและเหล่าผองเพื่อนได้เอ็นจอยกันได้ตลอดทั้งคืน
Telephone Pub (เทเลโฟน ผับ)
ร้านอาหารและบาร์เก่าแก่ที่อยู่คู่สีลม ซอย 4 มาอย่างยาวนานกว่า 32 ปี ที่มาของชื่อร้านเกิดจากคอนเซปต์สุดคูล อย่างการมีโทรศัพท์วางอยู่บนทุกๆ โต๊ะของร้าน เพื่อให้ลูกค้าโทรสายตรงถึงโต๊ะอื่นๆ ที่เราแอบปิ๊งได้ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น จึงทำให้ ณ ปัจจุบัน ไม่มีโทรศัพท์วางอยู่บนโต๊ะแล้ว
ตัวร้านแบ่งออกเป็น 3 ชั้น หลากหลายโซนด้วยกัน เริ่มต้นด้วยโซนที่นั่งเอ้าท์ดอร์ด้านหน้าร้าน ที่เน้นการเปิดโล่ง สามารถนั่งชมวิวหนุ่มๆ ได้ ส่วนด้านในชั้นล่าง จะเป็นกึ่งๆ บาร์ มีที่นั่งสำหรับดริ้งก์และเม้าท์มอยกับเพื่อนฝูง ส่วนชั้น 2 จะเป็นที่นั่งที่ดูจริงจังมากยิ่งขึ้น เหมาะแก่การนั่งทานอาหาร หรือผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัว ปิดท้ายกันที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นคาราโอเกะ เอาไว้ให้คุณได้ร้องเพลงโชว์ลูกคอและพ่นไฟแข่งกันกับแก๊งเพื่อน ส่วนการตกแต่งโดยรวมจะเน้นเป็นแนวเรโทร พร้อมประดับประดาด้วยไฟสีสันสดใสให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้น
ส่วนเรื่องของอาหาร ทางร้านก็มีให้บริการแบบจัดเต็ม ทั้งอาหารไทยและนานาชาติหลากเมนู พร้อมด้วยเครื่องดื่มที่มีให้เลือกแบบเต็มสตรีม อาทิ ไวน์, วิสกี้, ค็อกเทล, วอดก้า, เบียร์ ฯลฯ
ปิดท้ายด้วยเสียงเพลงสุดไพเราะ ที่จะช่วยสร้างบรรยากาศให้สุนทรียิ่งขึ้น โดยช่วงหัวค่ำจะเน้นดนตรีแบบชิลๆ ฟังสบาย ส่วนหลัง 21.00 จะเน้นดนตรีที่มีบีทหนักขึ้น หรือเพลงแดนซ์ที่ทุกคนสามารถลุกขึ้นมาโยกตามแบบเบาๆ ได้ นอกจากนี้ทุกคืนวันพุธ ทางร้านยังกิจกรรมพิเศษ Disco Night ที่เน้นเปิดเพลงแนวดิสโก้ พร้อมด้วยคาบาเร่ต์โชว์สุดตระการตา
The Stranger Bar (เดอะ สเตรนเจอร์ บาร์)
บาร์สุดเก๋แห่งนี้โดดเด่นในเรื่องของ Drag Show ที่มีการแสดงโชว์แบบแซ่บๆ จากเหล่า Drag Queen ตัวแม่มากฝีมือ มาสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้พวกเราได้ชมกันอย่างใกล้ชิดทุกวัน ซึ่งเจ้าของร้านก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือคุณเอ็ม หรือ M Stranger Fox จากรายการ Drag Race Thailand Season 2 นั่นเอง ที่ตั้งใจจะเนรมิตให้บาร์แห่งนี้เป็น House of Drag Queens ที่เริ่ดที่สุดในสามโลก
โดย Drag Show จะมีให้ชมกันทุกวัน ตั้งแต่เวลา 22.30 น. เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีเหล่าดีเจชั้นนำที่จะมาเสริมทัพให้ค่ำคืนสุดพิเศษสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
บรรยากาศของร้านตกแต่งได้อย่างเป็นกันเองและอบอุ่น มีที่นั่งให้เลือกทั้งแบบอินดอร์และเอ้าท์ดอร์ ก่อนจะปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มแบบคูลๆ ที่มีให้เลือกกันอย่างเต็มที่
Connections Bar (คอนเนคชั่นส์ บาร์)
อีกหนึ่งบาร์สุดชิลแห่งสีลม ซอย 4 มาพร้อมบรรยากาศแสนสบายและเป็นกันเอง ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่น แบ่งที่นั่งออกเป็นทั้งด้านในและด้านนอกของร้าน มีหลากหลายเมนูให้เลือกเติมพลังกันตลอดค่ำคืน เริ่มต้นด้วยอาหารที่เน้นเป็นสไตล์ไทย-อีสาน โดยทุกเมนูได้รับการดูแลจากเจ้าของร้านโดยตรง จึงมั่นใจได้ถึงรสชาติและวัตถุดิบที่มีคุณภาพ
ส่วนใครไม่อยากจัดหนัก ทางร้านก็มีเครื่องดื่มสุดคูลไว้รอเสิร์ฟอยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็น ค็อกเทล, วิสกี้, วอดก้า, ไวน์, เบียร์ ฯลฯ พร้อมเสียงความสนุกสนานด้วยเสียงเพลง ที่ไต่ระดับจังหวะขึ้นไปเรื่อยๆ เริ่มต้นช่วงหัวค่ำด้วยเพลงช้าๆ ชิลๆ ก่อนจะอัพบีทให้หนักขึ้นในช่วงดึก ด้วยแนวเพลงแดนซ์ช่วงยุค 70-90 พร้อมการเปิด MV ขึ้นจอใหญ่ สามารถโยกตามศิลปินกันได้แบบเบาๆ หรือใครมีเพลงที่อยากฟังอยู่ในใจ ก็สามารถรีเควสต์ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ทางร้านยังมีโชว์พิเศษในทุกๆ เดือน เพื่อเป็นการสร้างสีสันอีกด้วย
BAS Living Room (บาส ลีฟวิ่ง รูม)
หากใครที่ชอบบรรยากาศของร้านในแบบที่เงียบสงบ สามารถนั่งคุยกันได้แบบไม่ต้องตะโกน BAS Living Room คือหนึ่งในตัวเลือกที่ต้องแวะมา โดยตัวร้านจะตั้งอยู่ที่ท้ายซอยสีลม 4 มาพร้อมการตกแต่งร้านที่ให้บรรยากาศสบายๆ ด้วยการเลือกใช้โซฟาเป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อให้ลูกค้าทุกคนรู้สึกสบายและได้พักผ่อนอย่างแท้จริง
ในร้านมีหลายมุมให้เลือกนั่งตามใจชอบกับโซฟานุ่มๆ ที่นั่งแล้วแทบไม่อยากลุก นอกจากนี้ก็ยังมีมุมที่เป็นโต๊ะไม้หันหน้าเข้ากำแพงและหันออกนอกร้าน สำหรับคนที่อยากปลีกวิเวก หรือคนที่อยากนั่งส่องบรรยากาศภายนอก รวมไปถึงโต๊ะด้านหน้าร้านสไตล์โอเพ่นแอร์ ก็มีให้เลือกนั่งเช่นกัน
ก่อนจะเติมเต็มความสุขด้วยเครื่องดื่มคุณภาพหลากชนิด อาทิ ค็อกเทล, เบียร์, วิสกี้, วอดก้า และไวน์ ให้คุณนั่งจิบเครื่องดื่มคลอไปกับเสียงเพลงที่เริ่มออกสตาร์ทแบบจังหวะชิลๆ ในตอนหัวค่ำ หลังจากนั้นจึงเพิ่มดีกรีความร้อนแรงด้วยบีทเพลงที่สามารถโยกตามได้มากขึ้น
Fork & Cork by Sphinx (ฟอร์ค แอนด์ คอร์ค บาย สฟิงซ์)
ใครจะไปคิดว่าสุดซอยสีลม 4 จะมีร้านอาหารสไตล์ Bar & Restaurant ซ่อนตัวอยู่ โดยร้านเปิดให้บริการมาอย่างยาวนานกว่า 26 ปี จากชื่อเดิมคือ Sphinx ที่เป็นที่รู้จักของขาประจำ กลายมาเป็น Fork & Cork by Sphinx ที่ชูคอนเซปต์การเป็นมากกว่าร้านอาหาร ให้ทุกคนสามารถแวะมานั่งทานอาหาร จิบเครื่องดื่ม และนั่งคุยกับเพื่อนๆ ได้อย่างผ่อนคลาย ซึ่งทางร้านเปิดต้อนรับลูกค้าทุกเพศทุกวัย ส่วนชาวเกย์ รวมไปถึง LGBT ก็สามารถแวะมานั่งชิลกันได้อย่างไม่เคอะเขินเช่นกัน
ด้านอาหารจะเน้นเมนูสไตล์ไทยๆ รสชาติดั้งเดิม โดยมีอาหารนานาชาติมาผสมบ้าง เพื่อความหลากหลาย ส่วนเรื่องเครื่องดื่มก็ไม่น้อยหน้า เพราะทางร้านคัดสรรวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมมาจากทั่วทุกมุมโลกมาเพื่อเอาใจสายดริ้งก์โดยเฉพาะ มีให้เลือกกันอย่างครบครัน อาทิ ไวน์, วิสกี้, วอดก้า, เบียร์, ค็อกเทล ฯลฯ สำหรับเมนูเด่นที่ห้ามพลาดคือ ซิกเนเจอร์ค็อกเทล อย่าง Mint Chocolate Margarita และ Itaian Mojito
ส่วนการตกแต่งร้านมาในสไตล์ Industrial Warehouse ที่ผสมความเป็นลอฟท์เข้าไปได้อย่างลงตัว มีที่นั่งให้เลือกมากมาย ทั้งโซนอินดอร์แบบติดแอร์เย็นสบาย และโซนเอ้าท์ดอร์ด้านหน้าร้าน รวมไปถึงมุมโซฟาที่สามารถนั่งผ่อนคลายและเม้าท์มอยกับกลุ่มเพื่อนได้อย่างเมามัน หรือจะเป็นโซนหน้าบาร์ก็เก๋ไม่หยอก ให้คุณได้แลกเปลี่ยนทัศนคติกันกับเหล่าบาร์เทนเดอร์สุดเฟรนด์ลี่ได้อย่างเป็นกันเอง
นอกจากที่สีลม ซอย 4 แล้ว ร้าน Fork & Cork ยังมีอีก 1 สาขา ที่บริเวณวงเวียน 22 ตั้งอยู่ในโรงแรม W22 by Burasari สำหรับใครที่อยู่โซนนี้ ก็สามารถแวะไปนั่งชิลได้เช่นกัน
Maggie Choo’s (แม็กกี้ ชูส์)
แม้จะไม่ใช่ร้านเฉพาะทางแบบเต็มตัว แต่ที่นี่ก็พร้อมต้อนรับเหล่าชาวเกย์ รวมไปถึง LGBT ให้มาสนุกสนานแบบสุดเหวี่ยงกันได้ทุกคืน โดยเฉพาะคืนวันอาทิตย์ที่ทางร้านจัดเป็นธีมอีเว้นท์สุดพิเศษอย่าง Sunday Gay Night ที่มีโชว์จาก Drag Queen ตัวแม่ชื่อดัง นำทีมโดย Pangina Heals โคโฮสต์สุดแซ่บจากรายการ Drag Race Thailand ที่ขอแทคทีมกับเหล่าสาวๆ Drag Queen ชื่อดังอีกมากมาย มาสร้างความบันเทิงให้ค่ำคืนวันอาทิตย์ของที่นี่ต้องร้อนดั่งไฟ นอกจากนี้ยังมีดีเจชั้นนำ ที่จะมาช่วยเพิ่มสีสันแห่งเสียงดนตรีให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ส่วนวันอื่นๆ ก็มีการแสดงจากเหล่าศิลปินคุณภาพในหลากหลายแนวดนตรี มาขับกล่อมบทเพลงเพื่อเพิ่มความสุนทรี เรียกได้ว่าเหล่า Music Lover ต้องถูกใจอย่างแน่นอน
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องไฮไลท์ไว้เลยก็คือ การตกแต่งร้านที่จะพาเรานั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปในกลิ่นอายของคลับใต้ดินแห่งเมืองเซี่ยงไฮ้ในยุค 1930 ผ่านกิมมิคเล็กๆ จากการประดับประดาสิ่งของต่างๆ ในสไตล์จีน อาทิ โต๊ะไม้เก่าแก่, ภาพถ่ายของชาวจีนสมัยก่อน, โคมไฟและร่มกระดาษ ฯลฯ เขยิบเข้ามาในตัวร้านอีกนิด ก็จะพบงานกตกแต่งด้วยอิฐและเหล็ก ให้ความรู้สึกน่าค้นหาแต่แฝงไว้ด้วยความสนุกสนาน
ตามมาด้วยเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่จัดเต็มไม่แพ้กัน เริ่มต้นด้วยอาหารที่มาในแนวไทยผสมจีน มีให้เลือกทั้งแบบจัดหนักและทานเล่นแบบเบาๆ ส่วนเครื่องดื่มชูดจุดเด่นด้วยซิกเนเจอร์ค็อกเทลที่ผสมผสานกับวัตถุดิบหลากสไตล์ ผ่านการรังสรรค์จากมิกโซโลจิสต์คุณภาพ กลายเป็นเครื่องดื่มสุดเก๋ไก๋ที่ดูดีมีเอกลักษณ์สุดๆ
ผู้จัดปาร์ตี้สาย LGBT น่าติดตาม
นอกจาก 7 บาร์สุดเก๋ที่เราแนะนำกันไปแล้ว ในบ้านเรายังมีอีเว้นท์พิเศษอีกมากมายที่จัดขึ้นอย่างเป็นมิตรกับชาวเกย์ รวมไปถึง LGBT ซึ่งแต่ละงานก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมทั้งคนไทยเราเองและชาวต่างชาติ ที่มาช่วยสร้างสีสันให้แต่ละงานปาร์ตี้เผ็ดแซ่บซี้ดแบบพริกยกสวน เพราะฉะนั้นเราเลยจะขอแนะนำออแกไนเซอร์สุดปัง ที่สร้างสรรค์งานปาร์ตี้คุณภาพ ให้ได้ตาม Follow กัน เผื่อเวลามีงานอีเว้นท์เด็ดๆ จะได้ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว
GCIRCUIT (จีเซอร์กิต)
งานปาร์ตี้ที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก เริ่มต้นครั้งแรกในปี 2007 จากปาร์ตี้เล็กๆ ที่มีผู้ร่วมงานหลักพัน สั่งสมความสำเร็จมาอย่างยาวนานกว่า 11 ปี จนเติบโตและเป็นที่รู้จักดีในโซนเอเชีย และกลายเป็นงานระดับโลก ที่มีคนมาเข้าร่วมงานจากประเทศต่างๆ กว่า 50 ประเทศทั่วโลก
โดยงานจะจัดขึ้นช่วงสงกรานต์ของทุกปี เป็นเวลา 3 วันเต็มๆ ในช่วงกลางคืน ส่วนช่วงกลางวัน ก็จะมีการจัดพูลปาร์ตี้ในธีมต่างๆ ในหลากหลายสถานที่
ซึ่งภายในงานเราก็จะได้สนุกสนานไปกับเสียงเพลงจากดีเจชั้นนำระดับโลก พร้อมชมโชว์พิเศษจากเหล่าบรรดานายแบบสุดแซ่บที่ทุกคนเห็นเป็นต้องร้องว้าว หรือใครที่อยากมาเจอหนุ่มๆ จากประเทศต่างๆ บอกเลยว่างานนี้เพลิดเพลินแน่นอน แต่จริงๆ แล้วงานนี้เขาเปิดต้อนรับสายปาร์ตี้ทุกเพศทุกวัยนะ ถึงไม่ได้เป็นเกย์ แต่ภายในงานก็พร้อมเวลคัมทุกคนจ้า
G-Spot Entertainment (จี-สปอต เอนเตอร์เทนเมนท์)
แต่สำหรับใครที่รอสงกรานต์ปีหน้าไม่ไหว เราแนะนำให้ Follow อีกหนึ่งออแกไนเซอร์สุดแซ่บอย่าง G-Spot Entertainment ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของอีเว้นท์ดังๆ มากมาย เช่น Sunday Gay Night ที่ร้าน Maggie Choo’s รวมไปถึงงานปาร์ตี้อื่นๆ ที่มาในธีมสุดหลากหลาย และพูลปาร์ตี้สุดคูลคลายร้อน ก็มีจัดขึ้นกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี แถมยังได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม
โดยแต่ละงานก็มักจะมาพร้อมกับโชว์สุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงจาก Drag Queen ชื่อดังทั่วฟ้าเมืองไทย รวมไปถึงความมันส์จากเสียงดนตรีของดีเจมากฝีมือ ที่จะมาช่วยขับกล่อมให้งานปาร์ตี้สนุกกันแบบอันลิมิต
เรียกได้ว่าใครสนใจงานปาร์ตี้ในธีมไหน ขอบอกเลยว่าติดตาม G-Spot Entertainment ไว้ รับรองว่าได้มันส์กันตลอดทั้งศักราชแน่นอน และเช่นกันว่างานเหล่านี้ไม่ได้จำกัดแค่เกย์ แต่พร้อมต้อนรับทุกเพศทุกวัยที่มีหัวใจเดียวกัน
White Party Bangkok (ไวท์ ปาร์ตี้ กรุงเทพฯ)
มาถึงปาร์ตี้ที่จัดขึ้นในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันบ้าง กับ White Party Bangkok ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ถือว่าเป็นงานปาร์ตี้แบบเกย์เฟรนด์ลี่ที่ฮอตฮิตสุดๆ ในเอเชีย มีเหล่านักท่องเที่ยวให้ความสนใจกันอย่างล้นหลาม ซึ่งงานนี้จัดขึ้นแบบเต็มสตรีมถึง 5 วันเต็มๆ ซึ่งแต่ละวันก็จะแบ่งออกเป็นธีมต่างๆ เพื่อสร้างความสนุกสนานให้มากยิ่งขึ้น
เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเขาได้ขนกองทัพดีเจชื่อดังมากมาย มาระเบิดความมันส์กันด้วยเสียงเพลงสุดฟิน ให้ขาแดนซ์ได้โยกกันกระจาย ท่ามกลางแสงสีเสียงสุดอลังการ เรียกได้ว่าใครที่ยังไม่มีแพลนไปเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่ที่ไหน ถือว่างานนี้เป็นอีกหนึ่งงานที่ควร Follow ไว้เช่นกัน
XXO Party (เอ็กซ์เอ็กซ์โอ ปาร์ตี้)
อีกหนึ่งงานปาร์ตี้เกย์เฟรนด์ลี่ที่น่าสนใจเช่นกัน เพราะเป็นงานที่นำดีเจ นักร้อง และแดนเซอร์ชื่อดังมากมายจากทั่วทุกมุมโลกมาร่วมไว้ในที่เดียว เพื่อร่วมสร้างสีสัน เสียงเพลง โดยระบบเสียงที่ใช้ในงานนั้นมาจาก L-Acoustics ซึ่งเป็นระบบเสียงจากประเทศฝรั่งเศส รวมไปถึงโชว์สุดพิเศษที่ทุกคนต้องร้องว้าว แน่นอนว่างานนี้ก็ถือเป็นอีกงานหนึ่งที่รวบรวมเหล่านักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศมาไว้ด้วยกันแบบจุกๆ อีกงานหนึ่ง
ซึ่งนอกจากความสนุกที่ทุกคนจะได้รับแล้ว ยังได้รับแต้มบุญกลับบ้านกันไปเต็มๆ อีกด้วย เพราะ XXO Party จะนำเงินส่วนหนึ่งจากรายได้บริจาคให้กับองค์กรการกุศลต่างๆ เรียกว่ามางานนี้รับประกันความสุขใจแบบคูณสองจริงๆ