ส่องวงการเพลงป็อป: ย้อนกลับไปดูปี 2018 ปีที่เต็มไปด้วยเรื่องราว
หลังจากก้าวเข้าสู่ปี 2019 มาแล้วกว่าหนึ่งสัปดาห์ เรามาย้อนดูเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้นในวงการดนตรีในปี 2018 ที่ผ่านมา รวมไปถึงมาดูกันว่ามีเพลงไหนที่มาแรง ควรค่าแก่การพูดถึงบ้าง
เพลงฮิตแห่งปี
ปี 2018 เป็นปีที่กระแสเพลงแนวฮิปฮอปมาแรงแบบสุด ๆ ดูได้จากชาร์ทเพลง Billoard Hot 100 Songs Year-End ซึ่งใน 10 อันดับแรก ก็จัดเป็นเพลงสไตล์แรพ/ฮิปฮอปไปถึง 5 เพลงด้วยกัน ดูอันดับเพลงทั้ง 100 อันดับได้เว็บไซต์ Billboard
เริ่มต้นกันที่ ผู้ที่คว้าอันดับ 1 ไปครองอย่าง Drake กับเพลงฮิตแห่งปี God’s Plan ที่นอกจากตัวเพลงจะฮิตติดชาร์ทแบบกู่ไม่กลับ ในส่วนของเอ็มวี ก็ยังติดอันดับ 8 ของวิดีโอที่มียอดชมสูงที่สุดแห่งปี 2018 บน YouTube ด้วยยอดวิวที่มากกว่า 900 ล้านวิว ถ้าที่กล่าวมายังพิสูจน์ความฮอตของอัลบั้ม Scorpion ไม่ได้ เราขอเพิ่มเหตุผลที่มีชื่อว่า “In My Feelings” เข้าไปอีกข้อ โดยเพลงมาพร้อมกับ Hashtag #InMyFeelingsChallenge ที่ฮอตฮิตไปทั่วโลก กับสไตล์การเต้นที่แปลกแหวกแนว ซึ่งเพลงนี้ก็ติดอยู่ที่อันดับ 9 ของ Billboard Hot 100 Songs Year-End เช่นเดียวกัน
นอกจาก Drake แล้ว อีกหนึ่งศิลปินฮิปฮอปที่ทำผลงานเพลงได้ฮอตฮิตไม่แพ้กัน ก็เป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก Post Malone นั่นเอง โดย Post Malone มีเพลงติด Hot 100 Songs Year-End ถึง 4 เพลงด้วยกัน ได้แก่ อันดับ 5 Rock Star (Ft. 21 Saveage), อันดับ 6 Psycho (Ft. Ty Dolla $ign), อันดับ 13 Better Now และ อันดับ 39 I Fall Apart
มาส่องกันที่แวดวงดนตรีอิเล็คทรอนิคส์กันบ้าง ในปีนี้ถือว่าศิลปินดีเจและโปรดิวเซอร์ทั้งหลายโชว์ฝีมือกันแบบไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียว โดยในปี 2018 นี้ ถือว่าเป็นปีทองของเจ้าขนม Marshmello อย่างแท้จริง ซึ่งเขามีเพลงติดชาร์ท Hot 100 Songs Year-End ถึง 3 เพลงด้วยกัน ได้แก่ อันดับ 26 Friends (Ft. Anne Marie), อันดับ 60 Wolves (Ft. Selena Gomez) และอันดับ 80 Happier (Ft. Bastille)
อีกหนึ่งศิลปินจากฝั่งดนตรีอิเล็คทรอนิคส์ที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ ก็คือ Zedd ที่เป็นดีเจและโปรดิวเซอร์ดนตรีอิเล็คทรอนิคส์เพียงรายเดียวที่มีผลงานก้าวขึ้นไปติด Top 10 ของ Billboard Hot 100 Songs Year-End กับเพลง The Middle (Ft. Maren Morris & Grey) ที่รั้งอันดับ 8
ความฮ็อตของเพลงนี้ยังไม่จบแค่นี้ แต่ยังทำให้ Zedd เป็นศิลปินดนตรีอิเล็คทรอนิคส์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสูงที่สุด สำหรับรางวัลแกรมมี่ 2019 มากถึง 3 สาขาด้วยกัน ได้แก่ Record Of The Year, Song Of The Year และ Best Pop Duo/Group Performance
ศิลปินที่จากไป
ในปีนี้วงการบันเทิงสูญเสียศิลปินและบุคคลสำคัญไปหลายคนด้วยกัน เริ่มกันที่การจากไปอย่างกะทันหันของแรปเปอร์หนุ่มมากฝีมืออย่าง XXXtentacion ที่เสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืน เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. จากไปด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น
ต่อกันที่อีกหนึ่งศิลปินฮิปฮอปที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานนี้ นั่นก็คือ Mac Miller นั่นเอง โดยตำรวจพบศพของ Mac ในบ้านพักของเขาเองที่แคลิฟอร์เนีย ในวันที่ 7 ก.ย. สาเหตุมาจากการใช้ยาเสพติดเกินขนาด จากไปด้วยอายุเพียง 26 ปี
สุดท้ายกับการจากไปของศิลปินที่เรียกได้ว่าส่งผลกระทบต่อจิตใจของแฟนเพลงทั่วโลกอย่างหนักเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวก ravers ใช่แล้ว.. เรากำลังพูดถึงการเสียชีวิตของ Avicii นั่นเอง เจ้าของเพลงดังอย่าง Wake Me Up เสียชีวิตในห้องพักที่เมืองมัสกัต ประเทศโอมาน ระหว่างทริปพักผ่อน เมื่อวันที่ 20 เม.ย. โดยสาเหตุการเสียชีวิตไม่เป็นที่เปิดเผยแน่ชัด เพื่อเป็นการเคารพครอบครัวของ Avicii
การประกาศวางมือจากการทัวร์ของ Hardwell
วันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา Hardwell ดีเจและโปรดิวเซอร์ชาวดัตช์ วัย 30 ปี เจ้าของตำแหน่งอันดับ 1 จากการจัดอันดับของ DJ Mag ถึง 2 ปีซ้อนในปี 2013 และ 2014 ช็อคแฟนเพลงด้วยการประกาศยุติการแสดง, ออกทัวร์อย่างไม่มีกำหนด ในส่วนของสาเหตุนั้น ทาง Hardwell ได้ประกาศผ่านทาง Instagram ของเขา ดูได้ที่นี่ โดยใจความสั้น ๆ ก็คือ เขาต้องการพักผ่อนจากตารางงานที่แน่น รวมไปถึงการอยากทุ่มเทเวลาเพื่อดูแลตัวเองทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกาย รวมไปถึงให้เวลากับครอบครัวและโฟกัสไปที่การทำผลงานเพลงต่อไป และยังขอบคุณแฟนเพลงที่ให้การสนับสนุนเขาตลอดมาอีกด้วย
สำหรับแฟน ๆ ไม่ต้องเศร้าไป เพราะตามสัญญา Hardwell เพิ่งทำการปล่อยเพลงใหม่ที่มีชื่อว่า How You Love Me ซึ่งทำร่วมกับ Conor Maynard และ Snoop Dogg ออกมาให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึงกันไปฟังกันได้เลย!
การกลับมารวมตัวกันของ Swedish House Mafia
ดีเจและโปรดิวเซอร์รุ่นเก๋าทั้ง 3 คน ในนาม Swedish House Mafia เราเชื่อว่าสาวกดนตรีอิเล็คทรอนิคส์ต้องรู้จักพวกเขาเป็นอย่างดี หลังจากปิดตำนานแยกวงกันไปเมื่อปี 2013 โดย Axel ‘Axwell’ Hedfors และ Sebastian Ingrosso ยังอยู่ด้วยกันในนาม Axwell / Ingrosso และทาง Steve Angello แยกออกไปเป็นศิลปินเดี่ยว ผ่านไป 5 ปี พวกเขากลับมารวมตัวกันอีกครั้งในโชว์เซอร์ไพรส์ฉลองครบรอบ 20 ปีของ Ultra Miami 2018 เมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ทำเอาแฟนเพลงทั่วโลกตื่นเต้นไปตาม ๆ กัน ตามมาพร้อมข่าวลือหนาหูว่าพวกเขาจะกลับมารวมวงอีกครั้งและทำผลงานเพลงใหม่ร่วมกัน เวลาผ่านไป 5 เดือน และในวันที่ 22 ต.ค. ข่าวดีก็มาถึง เมื่อทางพวกเขาประกาศผ่านทาง official website ว่า พวกเขาจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ในนาม Swedish House Mafia ที่จะจัดขึ้นที่ Tele2 Arena ณ เมืองสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน Stockholm ในวันที่ 4 พ.ค. 2019 นั่นเอง
ปรากฏการณ์เพลง Thank U, Next
หลังจากฝ่าฟันมรสุมชีวิตส่วนตัวมาอย่างหนักหนาตลอดทั้งปี สำหรับสาวน้อยมากความสามารถอย่าง Ariana Grande ไม่ว่าจะเป็นการต้องรับมือกับข่าวการเสียชีวิตของอดีตคนรัก Mac Miller ไปจนถึงการเลิกรากับคู่หมั้นหนุ่ม Pete Davidson แต่อุปสรรคทั้งหลายก็ไม่สามารถหยุดเธอคนนี้จากการเดินหน้าต่อคว้าความสำเร็จได้เลย โดยเมื่อวันที่ 3 พ.ย. Ariana ได้ปล่อยเพลงใหม่ล่าสุดของเธอที่มีชื่อว่า Thank U, Next ซึ่งเป็นไปตามคาดว่า บรรดาแฟนเพลงทั่วโลกต่างตกหลุมรักเพลงนี้ไปตาม ๆ กัน ด้วยเนื้อเพลงที่เป็นแง่บวก และมีการเอ่ยชื่อบรรดาแฟนเก่าทั้งหลายของเธอในเพลง รวมไปถึง Mac Miller ซึ่ง Ariana เอ่ยถึงเขาในนาม Malcolm (ชื่อจริงของ Mac นั่นเอง)
โดยเพลง Thank U, Next ได้ทำการเปิดตัวในสัปดาห์แรกด้วยการทะยานขึ้นไปคว้าอันดับ 1 บนชาร์ท Billoard Hot 100 ได้สำเร็จ และถือว่าเป็นเพลงแรกของเธอที่คว้าอันดับ 1 บน ชาร์ท Billboard อีกด้วย ความสำเร็จของเพลงนี้ยังไม่หมดแค่นั้น แต่ยังต่อด้วยความสำเร็จของมิวสิควิดีโอที่เรียกได้ว่าทุบสถิติของ YouTube กันเลยทีเดียว ซึ่งหลังจากปล่อยมิวสิควิดีโอออกมา Thank U, Next ทำสถิติเป็นวิดีโอที่มียอดวิวสูงที่สุดใน 24 ชม.แรก ด้วยยอดวิวสูงถึง 55.4 ล้านวิว เอาชนะเอ็มวีเพลง “Idol” โดย BTS ที่มียอด 45.9 ล้านวิว ไปแบบราบคาบ
และถ้าที่กล่าวมาด้านบน ยังไม่หนำใจ เธอคนนี้ก็เดินหน้าต่อคว้ารางวัล Women of the Year 2018 ที่งาน Billboard's Women in Music ที่จัดขึ้นที่ลอสแอนเจลิส เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา เราหวังว่า แฟนเพลงชาวไทยจะได้มีโอกาสชมการแสดงของเธอที่ไทยอีกครั้งเร็ว ๆ นี้!
Spice Girls กลับมารวมตัวกันทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้ง
มีข่าวลือหนาหูในช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมา ว่าสุดยอดเกิร์ลกรุ๊ปแห่งยุค 90 อย่าง Spice Girls จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง นับจากครั้งสุดท้ายที่รวมตัวกันแสดงในพิธีปิดโอลิมปิกที่ลอนดอน เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เล่นเอาแฟน ๆ ทั่วโลกต่างลุ้นกันตัวโก่ง จนเมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา แฟน ๆ ก็ได้รับข่าวดีที่รอคอยกันมานาน โดยทางสาว ๆ ได้ประกาศรวมตัวกันเพื่อออกทัวร์อีกครั้งในปี 2019 แต่... ช้าก่อน สำหรับแฟน ๆ ที่วาดฝันว่าจะได้เห็นสาว Spice ทั้งห้า บนเวทีคอนเสิร์ตอีกครั้ง อาจจะต้องผิดหวังนิด ๆ เพราะงานนี้สมาชิกที่กลับมารวมตัวกันมีเพียง 4 คนเท่านั้น ขาดเพียงแต่ สาวพอช สไปซ์ หรือ Victoria Beckham ที่ไม่ได้ร่วมทัวร์ในครั้งนี้ เนื่องจากเธอต้องการโฟกัสไปที่แบรนด์แฟชั่นของเธอนั่นเอง
หลังจากที่มีการคอนเฟิร์มว่า สาว ๆ จะกลับมาทัวร์อย่างแน่นอน ก็ได้มีการปล่อยวิดีโอโปรโมทออกมาเพื่อเอาใจแฟนคลับ พร้อมกับตารางทัวร์และกำหนดวันขายบัตร (เริ่มจำหน่ายบัตร 10 พ.ย. ที่ผ่านมา) พร้อมกับประกาศแขกรับเชิญที่จะร่วมทัวร์ไปกับพวกเธอ นั่นก็คือ Jess Glynne นั่นเอง
Beyonce ประกาศศักดาด้วยการเป็นศิลปินหญิงผิวสีคนแรกที่เป็น Headliner ของ Coachella
หลังจากที่ต้องยกเลิกโชว์เมื่อปี 2017 เนื่องการการตั้งครรภ์แล้ว Beyonce กลับมาตามสัญญากับการเป็น Headliner ของ Coachella 2018 นอกจากจะเป็นการจารึกในประวิติศาสตร์ของวงการดนตรีโลกแล้วด้วยการเป็น Headliner ศิลปินหญิงผิวสีคนแรกของเฟสติวัลนี้แล้ว เซ็ทการแสดงของสาว Beyonce ที่ Coachella ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในโชว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นด้านโปรดักชั่น, เหล่าแดนเซอร์, คอสตูม, แขกรับเชิญในโชว์ที่ทำเอาแฟน ๆ ยืนกันแทบไม่ติดพื้น ไม่ว่าจะเป็นสามี Jay-Z, น้องสาวสุดรัก Solange ไปจนถึงโชว์เซอร์ไพร์สการรวมตัวกันของ Destiny's Child
ตลอดโชว์ความยาวกว่า 1 ชั่วโมง 40 นาทีของควีน บี ยังมีการสอดแทรกวัฒนธรรมผิวสีเข้าไปในโชว์อีกด้วย งานนี้ทำเอาแฟน ๆ ทั่วโลกตื่นเต้นไปตาม ๆ กัน และทำให้แฮชแท็ก #Beychella กลายเป็น trending บนทวิตเตอร์ โดยมียอดทวีตมากกว่า 2.2 ล้านครั้ง ภายใน 24 ชม.