มารู้จัก ‘นายนะ’ กับบทบาทชีวิตครั้งใหม่ในฐานะ ผู้ชนะ Show Me The Money Thailand
จากเด็กหนุ่มผู้เขียนเพลงป็อปตั้งแต่ม.4 ค้นหาตัวเองจนพบสไตล์ที่ใช่ และเบนเข็มมาเดินตามเส้นทางความฝันของตัวเองในการเป็นศิลปินฮิปฮอป จนกระทั่ง ณ ตอนนี้ เขาได้กลายเป็นผู้ชนะในรายการ Show Me The Money Thailand รายการค้นหาแร็ปเปอร์หน้าใหม่จากประเทศเกาหลีใต้ ที่ ‘นายนะ - ปิยวัฒน์ เชิดเพชรรัตน์’ แสดงฝีมือผ่านเนื้อแร็ปสุดสร้างสรรค์ และไรห์ม (Rhyme) ที่ลื่นหู จนได้รับการยอมรับจากทั้งโปรดิวเซอร์ คณะกรรมการ และคนดูทั่วประเทศ
เราได้มีโอกาสพูดคุยกับนายนะ และโปรดิวเซอร์จากทีม Buddha Bless ได้แก่ อุ๋ย-นที เอกวิจิตร, เอ็ม-กิตติพงษ์ คำศาสตร์ และ โต้ง-สุรนันต์ ชุ่มธาราธร ถึงเรื่องราวต่างๆ และตอนนี้ เรากำลังจะได้รู้จักแร็ปเปอร์น้องใหม่ ที่กำลังจะเริ่มต้นเดินบนเส้นทางดนตรีฮิปฮอปอย่างจริงจัง
เราเริ่มต้นบทสนทนาด้วยคำถามที่ว่า ก่อนเข้าร่วมแข่งขันรายการ Show Me The Money Thailand นายนะทำอะไรมาบ้างเพื่อเดินตามเส้นทางดนตรีฮิปฮอป จนกระทั่งตัดสินใจมาเป็นส่วนหนึ่งของรายการนี้ ซึ่งความจริงแล้ว นี่ไม่ใช่การแข่งขันแรกของเขา แต่ Show Me The Money Thailand เป็นเวทีที่ทำให้เขาได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่หลังจากผ่านรอบออดิชั่น และเข้ามาได้จนถึงรอบไฟนอลอย่างที่เราได้เห็นกัน
นายนะ: ผมเขียนเพลงมาสักพักแล้วครับ ตั้งแต่ม.4 แต่ว่าช่วงแรกเราเขียนเพลงป็อป พอเข้ามหาลัยก็เริ่มสนใจเพลงฮิปฮอป เลยหันมาเขียนแนวนี้ ผมสมัคร Rap is now, Thai rap สมัครเกือบทุกรายการที่เขามีให้สมัครเลย แต่ว่าเรายังไม่ค่อยเก่งพอ เพราะรายการส่วนใหญ่เป็นรายการแบทเทิล แล้วเราไม่ค่อยดุอ่ะครับ สไตล์เราเป็นแบบนี้ ไม่ค่อยมีใครมาไกด์ให้ เราทำอยู่คนเดียว ก็เลย…ไม่ค่อยผ่าน
หลายคนและตัวเราคงสงสัยเหมือนกันว่า เพลงหรือไรห์มไหนในรายการที่แสดงความเป็น ‘นายนะ’ ออกมาได้ชัดเจนที่สุด ซึ่งเขาตอบอย่างตรงไปตรงมา และเรียกรอยยิ้มจากคนฟังได้ในทันที
นายนะ: ผมว่าเกือบทุกไรห์มนะครับ ถ้าไม่ใช่รอบที่จีบผู้หญิง (หัวเราะ) เวลาเขาให้โจทย์มาทำเพลงเอง ส่วนใหญ่เราจะคิดโจทย์จากเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แล้วก็สิ่งรอบๆ ตัวเรา
แล้วฮิปฮอปคืออะไรสำหรับนายนะ?
นายนะ: ผมว่ามันเป็นวัฒนธรรมมากกว่านะครับ ผมก็ไม่ได้บอกว่าผมเป็นฮิปฮอป เพราะว่า ผมแค่รักในการเขียนเพลง ผมแค่ชอบที่จะเขียน ผมอยากขายไรห์มเท่านั้น
สิ่งที่ยากที่สุดในการแข่งขันคืออะไร แล้วสามารถผ่านความท้าทายตรงนั้นมาได้อย่างไร?
นายนะ: ผมไม่รู้สิครับ…ผมทำทุกรอบให้เหมือนว่าเราพร้อมจะตก อยากโชว์ในสิ่งที่เราชอบออกมา มันเป็นความรู้สึกที่ว่า เราตั้งใจทำเหตุให้มันดี เราก็เลยทำมาเรื่อยๆ ไม่เคยหวังจริงๆครับ กับการเป็นแชมป์
ชีวิตของเขาหลังจากเข้าร่วมเแข่งขันในรายการจนเป็นที่รู้จักมากขึ้น ย่อมเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน ซึ่งเราอยากรู้ว่าแตกต่างไปจากเดิมในแง่มุมใดบ้าง แต่สิ่งที่นายนะตอบกลับมา แสดงถึงจุดมุ่งหมายและความคาดหวังจากการแข่งขันในรายการอย่างชัดเจนว่าเขาทำเพื่อ ‘เพลง’ ของเขาเป็นอันดับแรก
นายนะ: ที่แตกต่างก็คือ เริ่มมีคนมาฟังเพลงเรามากขึ้นครับ จากเมื่อก่อนที่ไม่มีคนฟัง เดี๋ยวนี้ก็มีเพลงแสนวิวกับเขาบ้างแล้ว ผมดีใจมากเลยครับ
ก้าวถัดไปหลังจากเป็นผู้ชนะ Show Me The Money Thailand คืออะไร?
นายนะ: ก็…ทำเพลงต่อครับ ผมอยากให้มันเป็นอาชีพจริงๆ ถึงผมไม่ได้เป็นแชมป์ ผมก็ทำต่ออยู่แล้วครับ เพราะทำมาตั้งนานแล้ว แพ้มาตั้งนานแล้ว และตอนนี้ผมชนะแล้ว ก็ดีใจมากๆเลย
และแน่นอนว่าบทบาทของผู้ชนะ มักมากับคำวิจารณ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราอยากรู้ว้านายนะจะมีวิธีการรับมืออย่างไร เขาให้คำตอบอย่างกระชับและชัดเจนเลยว่า ผลงานจะพิสูจน์เอง
นายนะ: เราก็ไม่ต้องไปสนใจครับ เพราะว่าคนด่าเขาไม่ได้มาทำแบบเรา เราก็แค่ทำของเราไป ให้ผลงานพิสูจน์ไป
นอกจากความสามารถที่เราได้เห็นนายนะนำเสนอผ่านรายการ ส่วนหนึ่งของชัยชนะในครั้งนี้ มาจากความช่วยเหลือโดยโปรดิวเซอร์จากทีม Buddha Bless ได้แก่ อุ๋ย-นที เอกวิจิตร, เอ็ม-กิตติพงษ์ คำศาสตร์ และ โต้ง-สุรนันต์ ชุ่มธาราธร ที่ทำงานร่วมกัน และช่วยเกลา เราจึงอยากรู้ว่าการทำงานกับโปรดิวเซอร์ที่มีประสบการณ์และชื่อเสียงมานานเป็นอย่างไร และการทำงานตรงนั้นเป็นประโยชน์และช่วยให้นายนะเติบโตขึ้นขนาดไหน
นายนะ: เราได้อะไรเยอะมากๆเลยครับ เราไม่เคยอยู่บนเวทีเลย เขาก็สอนให้เราอยู่บนเวที คำต่างๆเขาก็ช่วยดูให้ แต่ว่า พีดีไม่กดดันในการเขียนเลยนะครับ เขาให้เราเป็นเรามากที่สุด เราก็มีความสุขที่ได้ทำงานกับเขาทุกๆครั้ง ได้เรียนรู้หลายอย่างมากครับ
เมื่อถามทีมโปรดิวเซอร์ถึงเหตุผลที่ทำให้นายนะสามารถครองใจใครหลายๆคนจนได้เป็นผู้ชนะใน Show Me The Money Thailand ได้ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า เพราะบุคลิกและความสามารถของนายนะนั่นเอง
อุ๋ย: ผมว่าความเป็นธรรมชาติของเขาครับ ไม่ได้แอคติ้ง เขาเป็นคนพูดน้อยๆ เงียบๆ อะไรก็ได้ เขาเป็นของเขาแบบนี้ ไม่ได้แสดงอะไรมากมาย แล้วก็ถูกจริตกันกับเรา เวลาเขียนเพลง เราก็ปล่อยให้คุณรู้สึกเองว่า อินกับอะไรก็เขียนเกี่ยวกับอันนั้น ผมว่าอันนี้แหละครับ
เราขอให้ทีมโปรดิวเซอร์เล่าให้ฟังถึงการทำงานร่วมกันกับทุกคนในทีมว่ายากง่ายขนาดไหน ปรับจูนกันอย่างไร เพราะแต่ละคนยย่อมมีสไตล์การทำเพลงที่แตกต่างกัน
อุ๋ย: มันก็แล้วแต่เด็กด้วยนะ แต่ละคนในทีมก็ไม่เหมือนกัน อย่างนายนะนี่…ผมว่าทำงานด้วยง่ายมาก เพราะว่านายนะรับฟัง แล้วเขามีของของเขาอยู่แล้ว เขาก็แค่เอาของของเขาควักมานำเสนอให้ดู เราเป็นโปรดิวเซอร์ก็แค่ตัดกรอบ ว่า เห้ย…พี่ว่าอันนี้ไม่โอเค อันนี้พี่ว่าดี คือเขาไม่ได้ให้เราคิดให้หมด เขานำเสนอ แล้วเราก็ค่อยตัดกรอบให้เรียบร้อย ซึ่ง พอเป็นคนรับฟังแบบนี้มันดี แต่ว่าเราก็ไม่ได้เผด็จการนะครับ ถ้าสุดท้ายอะไรที่เขาไม่เอาจริงๆ ผมก็จะเคารพการตัดสินใจของเขา เพราะผมถือว่านี่คือชีวิตเขา
แล้วความสนุกของการทำเพลงด้วยกันคืออะไร?
โต้ง: ความจริงแล้วเด็กทุกคนในทีมเขามีความเป็นธรรมชาติของเขา แล้วแต่ละคนก็จะมีเรื่องตลกของมัน อย่างนายนะเขาก็จะมีความใส ของเขานะ เขาใสมา แล้วเราก็รู้สึก…เออมันน่ารักดีว่ะ (หัวเราะ)
ในฐานะที่คร่ำหวอดในวงการเพลงไทยมานาน เราจึงถามถึงมุมมองของพวกเขาที่มีต่อตลาดเพลงฮิปฮอปในประเทศตอนนี้ ซึ่งทุกคนก็เห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก
โต้ง: โห…ผมว่าอยู่ในเลเวลที่ดีเลย คือเด็กรุ่นใหม่มีงานมีการ ทำมาหากินได้ คือ ฮิปฮอปในเมืองนอกมันเป็นเมนสตรีมมานานแล้วครับ แต่เมืองไทยก็ได้เวลาแล้ว
อุ๋ย: ผมว่าเมืองไทยก็จะ educated ขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จะแบ่ง segment ไปอีกว่า ฮิปฮอปแบบแกงสเตอร์จ๋าๆ ปาร์ตี้อย่างเดียว หรือเขียนเนื้อแบบ intelligent hip hop เป็นไรห์มใช้คำสวยๆ คำมีความหมาย ต้องแบ่ง segment ไปอีก มันก็จะเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ
มีความคาดหวังว่าอยากให้วงการเพลงฮิปฮอปของไทยเติบโตไปในทิศทางไหน?
อุ๋ย: ถ้าส่วนตัวผม…มันเป็นรสนิยมนะครับ ผมชอบแร็ปเปอร์ที่มีสมอง ใช้ภาษาเก่ง ถ้าพูดเรื่องไร้สาระต้องสนุกได้ แต่ถ้าพูดเรื่องมีสาระ คนต้องรู้สึกได้ แล้วให้ inspiration ที่ดีให้กับคนฟัง เพราะงานศิลปะสำหรับผมคือ ยกระดับจิตใจคน ไม่ได้ทำให้ต่ำลง
หลังจากได้ยินคำตอบที่น่าสนใจจากหลายๆคำถาม เราเชื่อว่าหลังจากนี้ หลายๆคนคงอยากติดตามการแสดงสดของนายนะ ซึ่งสถานที่ที่เขาเล่นประจำ หรืออีเว้นท์ถัดไปที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ…
นายนะ: ตอนนี้ยังไม่รู้ครับ ยังไม่มี แต่ถ้ามีก็ฝากด้วยนะครับ (ยิ้ม)
สามารถติดตามข่าวสารและผลงานเพลงของนายนะได้เลยตามช่องทางด้านล่างนี้