Wanna be 90’s ปาร์ตี้ที่มาจากความคุ้นเคยและความคิดถึงเสียงเพลงในยุค 90
ปาร์ตี้ในธีมยุค 90’s กลับมาให้ความสนุกและทำให้เราได้หวนรำลึกถึงวัยเด็กด้วยเพลงดังติดหูที่แค่เปิดอินโทรใคร ๆ ก็สามารถร้องตามได้ทันที และกลุ่มคนที่ทำให้ยุค 90‘s กลับมาบูมอีกครั้งคือทีม Wanna be 90’s ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่าง 3 ดีเจ ที่หลงไหลในเสียงเพลงอย่าง DJ Crybaby, DJ Mike และ DJ Nui
เราไปพูดคุยกับภาคิน วัธนเวคิน หรือ DJ Crybaby และไปทำความรู้จักกับ Wanna be 90’s กันดีกว่า เพราะหลังจบบทความชิ้นนี้อาจทำให้คุณอยากหยิบเสื้อผ้าตามแฟชั่นในยุค 90’s มาใส่ไปปาร์ตี้มันส์ ๆ ที่พวกเขาจัดก็เป็นได้!
เล่าเรื่องราวของแต่ละคนให้ฟังได้ไหมว่าทำอะไรมาบ้างก่อนที่จะมารวมตัวกันเป็น Wanna be 90’s
CRYBABY : ส่วนตัวผมก็รับเป็น DJ งานอีเวนท์ต่างๆ งานแต่ง และ Private Party อยู่ครับ เป็นที่ปรึกษาการทำ Branding & Marketing และเป็นบล็อกเกอร์สายท่องเที่ยวและกินด้วยครับ
DJ Mike : ก่อนหน้านี้เปิดกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นในย่าน RCA มีเพื่อน ๆ คนรู้จักที่เปิดผับบาร์ในย่านทองหล่อ-เอกมัย และย่านอื่น ติดต่อชักชวนให้มาช่วยทำงานด้านดนตรีและดีเจมาตลอด ทั้งที่เป็นงานประจำ และเปิดเพลงตามอีเวนท์ทั่วไป
DJ Nui : รับจ้างเปิดเพลงทั่วไปตามงานอีเวนท์ ปาร์ตี้ และงานแต่งครับ
จุดเริ่มต้นของเส้นทางการเป็นดีเจจนถึงปัจจุบันของแต่ละคนเป็นอย่างไร
CRYBABY : เริ่มต้นจากชอบฟังเพลงมาตั้งแต่เด็ก ๆ สะสมเทปและซีดีมาตลอด จนวันนึงสมัยเรียนอยู่ที่เอแบคได้มีโอกาสทำร้านอาหารของตัวเอง ก็เลยซื้อเครื่องเล่นดีเจมาเปิดเพลงให้เพื่อนๆ และลูกค้าที่มาทานอาหารในร้านฟัง จนวันหนึ่งได้ก้าวมาเป็น Club DJ อาชีพที่ร้าน Escudo ในปี 1999 และร้าน 2 สลึง หลังจากนั้นก็รับงานอีเวนท์และ Guest DJ ต่าง ๆ ครับ
DJ Mike : เรื่มจากการที่เพื่อนสมัยเรียนมหาลัย เปิดร้านเหล้าเล็กๆแถวสี่แยกคอกวัว ชื่อร้านสองหมวย ชวนให้มาช่วยทำงานที่ร้าน ทั้งงานเสิร์ฟ เปิดเพลง ทำครัวปรุงอาหาร จนถึงเป็นผู้ดูแลกิจการร้าน หลังจากที่ร้านสองหมวยได้ปิดกิจการลง ก็ได้รู้จักกับผู้บริหารของบริษัท Buddy Group และได้รับการชักชวนให้ทำงานเป็นดีเจร้าน Austin Bar ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัทที่ข้าวสาร ต่อมาบริษัทขยายกิจการเพิ่มทั้งผับบาร์ ร้านอาหาร และโรงแรม ไมค์ได้ทำงานในฝ่ายบริหารของบริษัท ตำแหน่งผู้จัดการร้าน Austin Bar และได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้างานแผนกดีเจ คอยหาบุคลากรมาทำงานด้านดนตรี และเป็นคนกำหนดทิศทางแนวเพลงให้เหมาะกับคอนเซปท์ของแต่ละร้านในเครือ จนเป็นที่ยอมรับและพูดถึงในแวดวงดีเจรวมทั้งนักเที่ยวกลางคืน เรียกสไตล์เพลงแบบนี้ว่า ‘เพลงแนวข้าวสาร’
DJ Nui : เริ่มต้นเป็นดีเจครั้งแรกที่ร้านคลื่นแทรก สุขุมวิท 24 เมื่อปลายยุค 90’s ตอนที่ยังเรียนอยู่ หลังจากนั้นก็เป็นดีเจ ตามร้านย่านทองหล่อมาเรื่อย ๆ เช่น Booze, Santika
ถ้ามีมิกซ์ของตัวเอง ขอคนละ 1 เพลงที่ชอบหรือทำแล้วคิดว่านี่แหละตัวเรา
CRYBABY : จริง ๆ เป็นคนฟังเพลงหลายแนว หลายยุคมาก ไม่ว่าจะเป็น Rock, Soul, R&B, Funk, Jazz หรือเพลงอกหัก แต่ถ้าเป็นแนวเพลงเต้นรำ ส่วนตัวจะชอบแบบ Daft Punk, Chromeo, Modjo, Jamiroquai ประมาณนี้ ส่วนเพลงที่ตัวเองเคยทำ ก็จะเป็น ร่ม - Cookie Master เป็นเพลงป็อปอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำกับ DJ Nui ครับ
DJ Nui : เพลง ร่ม (umbrella) - Cookie Master ครับ
สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Wanna be 90’s เลย อธิบายให้ฟังได้ไหมว่าคืออะไรและทำอะไรบ้าง
CRYBABY : คือกลุ่ม DJ ที่รับงานตั้งแต่เปิดเพลง เป็นที่ปรึกษารับทำปาร์ตี้ ตั้งแต่คิดคอนเซ็ปต์ออกแบบ flyer และกิจกรรมในงาน รวมถึงจัดงานของตัวเองด้วย
มารวมตัวกันเป็นทีม wanna be 90’s ได้อย่างไร
CRYBABY : ปลายปี 2016 กระแสเพลงแนว EDM เข้ามาเป็น Main Stream ในคลับ ปาร์ตี้และเฟสติวัลในไทย ทำให้มีงานอีเวนท์ต่าง ๆ ในแนว EDM มาก ก็เลยอยากลองทำปาร์ตี้ที่แหวกแนวออกไป ด้วยความชอบส่วนตัวและคิดว่าเพลงแนวนี้น่าจะเป็นที่คิดถึงของหลาย ๆ คน เลยไปชวนเพื่อนอีก 2 คนมาทำด้วยกัน และใช้ชื่อปาร์ตี้ครั้งแรกว่า Wanna Be 90’s จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมกลุ่ม และตั้งเพจจริงจังครับ
ได้ไอเดียการจัดปาร์ตี้ที่โฟกัสแค่เพลงในยุค 90’s จากไหน
CRYBABY : มาจากความชอบส่วนตัวของพวกเราล้วน ๆ เลยครับ เพราะก่อนหน้านั้นก็เคยทำปาร์ตี้แนว 90’s กันมาบ้าง แต่ยังไม่ได้รับความนิยมเหมือนปัจจุบัน พองานแรกจุดกระแสติด ก็เลยคิดว่าถ้าภาพของแบรนด์ออกมาชัดขึ้น ก็น่าจะมีผู้ติดตามมากขึ้น และค่อนข้างตรงกลุ่มกับสิ่งที่พวกเรานำเสนอ
ตอนเริ่มทำ ได้คาดหวังไว้ไหมว่าปาร์ตี้จะประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ เพราะมีคนกดไลค์เพจมากกว่า 170,000 คนเลยทีเดียว
CRYBABY : หลังจากปาร์ตี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ปี 2016 ประสบความสำเร็จเกินคาด มีเสียงเรียกร้องให้จัดงานครั้งที่สองทันที ทีแรกยังเถียงกันอยู่เลยว่าจะจัดบ่อย ๆ ดีมั้ย กลัวมันจะช้ำแล้วคนจะเบื่อ แต่พอยิ่งจัดก็ยิ่งมีงานเข้ามาเรื่อย ๆ พอมีคนตามเพจมากขึ้น ก็มีการเรียกร้องให้ไปจัดตามจังหวัดต่าง ๆ มีร้านติดต่อเข้ามาเรื่อย ๆ ต้องยอบรับว่าเกินคาดจริง ๆ ครับ
คิดว่าเพราะอะไรคนถึงชอบเพลงในยุค 90’s มากขนาดนี้
CRYBABY : สำหรับเพื่อนที่โตกันมากับเพลงยุคนี้ น่าจะเป็นเพราะความคุ้นเคย ความคิดถึง ส่วนน้อง ๆ ที่เพิ่งมาลองย้อนฟังเพลงในยุค 90’s ก็น่าจะชอบที่เนื้อร้องที่สมัยนั้นค่อนข้างปราณีต ถือว่าเป็นยุคบูมที่สุดของวงการเพลงไทยก็ว่าได้ครับ
คุณคิดว่าความแตกต่างระหว่างเพลงยุคนั้นกับปัจจุบันคืออะไร
CRYBABY : สำหรับดนตรีเต้นรำ ยุค 90’s ถึงจะมีหลายแนว แต่ก็มีความเป็นดนตรีสูงกว่าสมัยนี้ ซึ่งเพลงเต้นรำสมัยนี้จะออกมาแบบอิเล็กทรอนิกส์และเสียงสังเคราะห์มากกว่า เอาจริง ๆ ถ้าเป็นอาหารก็ต้องบอกว่าอร่อยกันไปคนละแบบครับ
เพลย์ลิสต์ประจำที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ต้องเปิด
CRYBABY : เพลย์ลิสต์ที่ต้องเปิดกือบทุกที่ก็จะเป็นเพลงฮิตยุคนั้น ทั้ง พี่เจ เจตริน, ติ๊นา, TK, Rapter, อนัน อันวา อย่างเช่น ตะลึง, ผ้าเช็ดหน้า, เกรงใจ, ฝากเลี้ยง หรือเพลงอินเตอร์อย่าง Get Up, Barbie Girl, Boom Boom Boom นอกนั้นแต่ละงานจะมีธีมที่ต่างกันไป ซึ่งเพลย์ลิสต์ก็จะมีเอกลักษณ์ต่างกันไป เช่น สัดส่วนระหว่างเพลงไทยกับอินเตอร์ กลุ่มลูกค้า แนวเพลง ก็จะเป็นป็อป ร็อค อัลเทอร์ ฮิปฮอป ต่างคาแร็คเตอร์กันไปครับ
อีเวนท์ไหนที่ประทับใจ จนทำให้รู้สึกว่าเราประสบความสำเร็จกับการทำ Wanna be 90’s แล้ว
CRYBABY : ต้องบอกว่าเลือกยากจริง ๆ ครับ ปีที่แล้วจัดไป 40 กว่างาน แต่ละงานสนุกต่างกันไป ประทับใจทุกงาน แต่ถ้าถามว่างานไหนที่รู้สึกว่าประสบความสำเร็จกับการทำ Wanna be 90’s แล้ว คงต้องตอบว่าทุกงานยังมีข้อติ ข้อที่ต้องพัฒนาขึ้นอีก พวกเราอยากให้โชว์มันมีอะไรมากกว่าการแค่มาเปิดเพลง 90’s เรามีการตั้งเป้าใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ ไปครับ
เพราะอะไร Wanna be 90’s ถึงไปจัดปาร์ตี้ตามจังหวัดต่างๆทั่วประเทศไทย ไม่เฉพาะแค่ในกรุงเทพ
CRYBABY : เพราะพวกเราคิดว่า เพลง 90’s เป็นเพลงของทุกคน อาจมีกลิ่นอายหรือความชอบที่ต่างกันไปแต่ละสถานที่ พวกเราทั้ง 3 คน ก็ชอบเดินทาง ท่องเที่ยวอยู่แล้วด้วย พอมีร้านตามจังหวัดต่าง ๆ ติดต่อมา ถ้าดูแล้วเหมาะกับแนวเพลงพวกเราก็ตอบรับทันทีครับ ยังมีอีกหลายจังหวัดที่เราอยากไป และอีกหลายจังหวัดที่แฟนๆ ที่ follow เรียกร้องมา แต่ยังหาสถานที่ลงตัวไม่ได้ คงมีงานตามต่างจังหวัดเพิ่มเติมมากขึ้นในปีนี้ครับ
เล่าความสนุกในการร่วมงานกับศิลปินที่บูมมากๆในช่วงยุค 90’s อย่างเช่น ดาจิม, T-skirt, Muzu, Triumphs kingdom ฯลฯ ให้ฟังหน่อยได้ไหม
CRYBABY : เป็นเรื่องที่น่าประทับใจครับ บางคนเป็นถึงไอดอลของพวกเราในสมัยเด็ก อย่างงาน The Legend ที่เราได้ร่วมงานกับ พี่บิลลี่, วงนูโว, พี่หนุ่ยอำพล และอีก 6 ศิลปินยุค 90’s แบบนี้ก็ตื่นเต้นและเกร็งบ้าง ส่วนบางคนที่เป็นเพื่อนกันมาก่อน อย่าง ดาจิม, หมู มูซู หรือ อ๊อฟ Dr. Kids ก็จะทำงานสบายหน่อย เป็นกันเอง และสำหรับสาว ๆ อย่าง TK หรือ มา T-Skirt rพวกเราก็แอบปลื้มกันมาสมัยนึงอยู่แล้ว รวม ๆ ก็สนุกและตื่นเต้นดีครับ
Wanna be 90’s มีแพลนที่จะไปจัดอีเวนท์หรือปาร์ตี้แบบนี้ที่ต่างประเทศบ้างไหม
CRYBABY : มีครับ กำลังคุยๆอยู่บ้าง แต่ถ้าใครมีที่แนะนำแจ้งพวกเราได้นะครับ
แผนระยะยาวของ Wanna be 90’s คืออะไร เช่น เห็นภาพ Wanna be 90’s เป็นอย่างไรในอนาคต จะขยายใหญ่ขึ้นไหม หรือจัดงานสเกลใหญ่ขึ้นหรือเปล่า
CRYBABY : แผนระยะยาว น่าจะเป็นทีมที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งปีนี้เราก็มี MC มาร่วมงานกับเราสลับกันไป ทั้ง Dear D Look และ 2 MC/DJ สาว อย่าง น้องปุ่น และ น้อง York เร็ว ๆ นี้ก็จะมีแดนเซอร์มาร่วมงานด้วย มีตากล้องและเออีมาทำงานร่วมทีมกับพวกเรา ส่วนงานใหญ่มีขึ้นแน่ ๆ ครับ ตอนนี้ขออุบไว้ก่อน เพราะยังอยู่ขั้นตอนการพูดคุยอยู่ ถ้ามีข่าวชัดเจนเมื่อไหร่ จะรีบแจ้งทันทีครับ
ผลงานของ Wanna be 90’s ที่อยากให้ทุกคนติดตาม
CRYBABY : ติดตามงานต่าง ๆ ของพวกเราได้ที่เฟสบุ๊ค wannabe90party ครับ เร็ว ๆ นี้นอกจากปาร์ตี้ต่าง ๆ ที่เราจะจัดขึ้นเรื่อย ๆ เราจะมีคลิปสนุก ๆ ที่เราทำขึ้นมาให้เด็ก 90’s คิดถึง และ Clip พาเที่ยวร้านแนว 90’s รวมถึง Meeting กับแฟนเพจที่ follow ด้วยครับ
ต้องยอมรับว่าเพลงในยุค 90’s ไม่ว่าจะเป็นเพลงไทยหรือเพลงสากลทำให้เราโยกและร้องเพลงคลอตามไปได้แทบทุกเพลงจริง ๆ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากได้บรรยากาศเก่าๆ อยากรู้จักเพื่อนใหม่ที่ฟังเพลงคอเดียวกันล่ะก็ ปาร์ตี้จาก Wanna be 90’s จะทำให้คุณมีค่ำคืนที่สนุกและน่าจดจำเลยทีเดียว