พูดคุยกับ ILLENIUM เรื่องความสำเร็จ อัลบั้มใหม่ และการทำงานเพลง
ILLENIUM หรือ นิก มิลเลอร์ (Nick Miller) เปิดตัวเต็มรูปแบบเมื่อปี 2016 ด้วยอัลบั้มเดบิวต์ ‘Ashes’ ที่ทำให้ทั่วโลกได้รู้จักความสามารถของเขาในทันที จนได้ขึ้นแสดงที่เทศกาลดนตรีต่าง ๆ เช่น Lollapalooza, Paradiso, Mysteryland และในปีนี้เขากำลังจะได้เป็นส่วนหนึ่งกับ Coachella อีกด้วย นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในเส้นทางดนตรีของนิกในวัย 27 ปี จากเดนเวอร์ ที่เสียงเพลงอันมีเสน่ห์ของเขาครองใจใครต่อหลายคนไปทั่วโลก ตอนนี้ ILLENIUM กำลังมีเวิลด์ทัวร์หลังจากปล่อยอัลบั้มที่สองที่ชื่อว่า ‘Awake’ และได้อันดับ 1 ในชาร์ตเพลง EDM บน iTunes ซึ่งเราได้มีโอกาสพูดคุยกับเขาก่อนที่จะเริ่มทัวร์ในเอเชีย มาดูกันว่านิกจะพูดถึงความสำเร็จ อัลบั้มใหม่ และการทำงานเพลงของเขาอย่างไรบ้าง
คุณเพิ่งจบ ‘Awake Tour’ เฟสแรกในอเมริกาเหนือที่ขายบัตรหมดเกลี้ยงลงไปแล้ว และกำลังจะมีทัวร์เฟสที่สองในเอเชีย รู้สึกอย่างไรบ้างที่กำลังจะได้แสดงเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย พวกเราตื่นเต้นมากเลยทีเดียว!
ผมตื่นเต้นที่จะได้แสดงในเอเชียมาก! มันเป็นสิ่งที่ผมอยากทำมาสักพักหนึ่งแล้ว และมันบ้ามากที่จะคิดว่าดนตรีสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ ผมไม่เคยจินตนาการถึงการที่ตัวเองจะได้อยู่ในอีกซีกโลกหนึ่งพร้อมกับได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ขอบคุณมาก ๆ สำหรับโอกาสครับ
ความสำเร็จของ ILLENIUM เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ เพียงแค่ระยะเวลาไม่นานก็มีแฟนเพลงอยู่ทั่วโลกติดตามเพลงที่มีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของคุณ อยากให้เครดิตกับอะไรในเรื่องนี้
มันอาจจะมาจากหลาย ๆ อย่างรวมกัน ผมพยายามทำเพลงที่จริงใจและตรงกับอารมณ์ความรู้สึกของผมที่มีอยู่ตอนนั้น ผมคิดว่าคนฟังรู้สึกเชื่อมโยงกับเพลงที่มัน’จริง’ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพลงแนวไหนก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น ผมได้รับการสนับสนุนมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งจากครอบครัว เพื่อน และทีม ที่คอยผลักดันและให้กำลังเสมอมา มันเป็นงานที่ต้องใช้ความพยายามมาก และผมคงไม่สามารถทำมันได้ด้วยตัวคนเดียว
อยากให้คุณอธิบายแนวทางของเพลงที่พัฒนามาเรื่อย ๆ ตั้งแต่เพลงที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ มาอัลบั้มเดบิวต์ ‘Ashes’ ตามด้วยอัลบั้ม ‘Awake’ จนถึงการทำเพลงในปัจจุบัน ว่าเป็นอย่างไร
ผมคิดว่าความแตกต่างที่ชัดที่สุดคือคุณภาพเสียงในภาพรวมจากงานแรก ๆจนถึงตอนนี้ ผมได้เรียนรู้มากขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น และผมทำงานเพื่อพัฒนามันอยู่เสมอ การทำเพลงที่กระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกเป็นเป้าหมายของผมมาตลอด ซึ่งองค์ประกอบนั้นยังคงอยู่ในงานของผมตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ ซึ่งมันออกมาในหลายรูปแบบมาก แต่สุดท้ายแล้วผมแค่พยายามสร้างเพลงที่ทำให้ผมรู้สึกบางอย่าง และหวังว่าจะทำให้คนฟังสามารถรู้สึกถึงความเชื่อมโยงเช่นกัน
เพลงในอัลบั้ม ‘Awake’ ดูค่อนข้างที่จะเป็นส่วนตัวและสะท้อนถึงแฟนคลับของคุณในรูปแบบใหม่เลย คุณตั้งใจที่จะให้แต่ละเพลงบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างใช่ไหม
ผมชอบที่แต่ละเพลงใน ‘Awake’ เป็นการเดินทางที่ค่อย ๆ เพิ่มความรู้สึกหรือธีมโดยรวมให้กับอัลบั้ม ผมคิดว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะแทรกเรื่องราวต่าง ๆ ในงานศิลปะ เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่การตัดสินใจที่เรารู้ตัวหรือตั้งใจใส่ลงไป แต่เกิดขึ้นเองในขณะที่ผมทำเพลงเท่านั้น
เพลงของคุณถูกเรียกว่าเป็นเพลงที่ ‘มีเสน่ห์’ ‘น่าหลงใหล’ และสามารถทำให้คนฟังอินราวกับได้ออกเดินทางไปพร้อมกับเสียงดนตรีและเนื้อเพลง มีแรงบันดาลใจแบบไหนในความคิดตอนที่คุณกำลังทำเพลงอยู่
เพลงเป็นวิธีที่ผมใช้ในการประมวลอารมณ์และความรู้สึกเสมอ แรงบันดาลใจในการทำเพลงที่ดีที่สุดของผมคือ อะไรก็ตามที่ผมกำลังเผชิญหรือรู้สึกอยู่ในตอนนั้น การเข้าถึงมันไม่เพียงแต่ช่วยให้ผมทำเพลงที่สามารถเชื่อมโยงกับคนฟังได้ แต่ยังช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นหลังจากทำเพลงอีกด้วย
คุณใช้เครื่องดนตรีผสานเข้าไปในการแสดงสดมาสักระยะแล้ว คุณคิดว่ามันจะกลายเป็นเทรนด์ในอุตสาหกรรมดนตรีไหม
ผมเชื่อว่าเราจะเริ่มเห็นการแสดงด้วยเครื่องดนตรีควบคู่กับเซ็ทในการมิกซ์เพลงอิเล็กทรอนิกส์ เพราะมันเปิดโอกาสให้เรามีส่วนร่วมกับคนฟังได้มากขึ้นครับ
ลองดูรีแคป Awake Tour โดย ILLENIUM ที่ ซานตา ครูซ และ ซานฟรานซิสโกกันดีกว่า
การแสดงของ ILLENIUM มีความโดดเด่นในเรื่อง ภาพ แสง สี เสียงเป็นอย่างมาก โปรดัคชั่นโดยรวมทั้งหมดทำให้โชว์เป็นมากกว่าการเล่น ‘DJ set’ เลยก็ว่าได้ คุณมีส่วนร่วมในขั้นตอนการออกแบบด้วยไหม
ผมพยายามมีส่วนร่วมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะลักษณะของภาพมีผลต่อคนดูมากพอ ๆ กับเสียง จึงสำคัญมากที่ทั้งสองสิ่งนี้ต้องมาเติมเต็มกันและกัน
อย่างที่ Bassnectar ได้ผลักดันให้คุณทำเพลงจนเสร็จในปี 2012 แฟนเพลงหลายคนรู้สึกอย่างเดียวกันหลังจากที่ได้ชมการแสดงของคุณ มีคำแนะนำอะไรที่คุณอยากแบ่งปันให้คนอื่น ๆ สามารถทำเพลงได้สำเร็จเช่นคุณไหม
คำแนะนำของผมคงเป็นพยายามทำต่อไปเรื่อย ๆ ถึงแม้คุณจะคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผมใช้เวลาถึงสองสามปีกว่าที่ตัวเองจะรู้สึกมีความสุขกับเพลงที่ทำออกมา ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เริ่มหรอกครับ พวกเราแค่ต้องเริ่มทำมันเท่านั้น
ILLENIUM จะมีการแสดงที่ ONYX-The Odyssey ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2018 ซึ่งบัตร Early bird และบัตรที่เปิดขายช่วงแรกขายหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่แฟน ๆ ยังสามารถซื้อบัตรในช่วงที่สองนี้ได้ รับรองว่าโชว์ของ ILLENIUM ไม่ทำให้ผิดหวัง