บทสัมภาษณ์พิเศษ John Askew
John Askew ดีเจและโปรดิวเซอร์สไตล์ Trance และ Tech-Trance ชาวอังกฤษ ที่เป็นที่รู้จักกับผลงานเพลง "Shine" และ "Supersonic" รวมถึงผลงานรีมิกซ์ของ Armin van Buuren (Communication) และ John O'Collaghan (Stresstest) เขายังได้ไปเล่นมาแล้วทั่วโลก ที่เทศการเพลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงาน ASOT, Luminosity, Creamfields และ EDC
สยามทูไนท์มีโอกาสได้ทำการสัมภาษณ์พิเศษกับ John Askew ก่อนที่เขาจะมาทำการแสดงที่ Odyssey (ONYX) ในวันที่ 8 ธ.ค. นี้
คุณอยู่ที่ไหน ขณะที่ตอบบทสัมภาษณ์นี้?
ผมอยู่ที่สตูดิโอในบ้านของผมครับ
คุณเป็นดีเจและโปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษที่มีประสบการณ์ดีเจมามากกว่า 20 ปี คุณเริ่มเข้ามาข้องเกี่ยวกับดนตรีอิเล็กทรอนิคได้อย่างไร และคุณเริ่มงานดีเจและโปรดิวเซอร์เมื่อไร และอย่างไร?
ผมเคยอยู่ในวงดนตรีตอนเป็นวัยรุ่นและหลังจากที่ได้ไปเที่ยวคืนหนึ่ง ผมก็เจอกับสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของผมไปทันที ตอนนั้นผมอยู่ในช่วงเวลาของการทะเลาะครั้งใหญ่กับนักร้องในวงดนตรีของผม และกำลังมองหาสิ่งใหม่ ๆ แล้วการเป็นดีเจเป็นสิ่งที่ผมนั้นกำลังตาหาอยู่ พอผมได้เริ่มเป็นดีเจบนเวทีต่างๆ ตามปาร์ตี้เล็กๆ ผมก็เริ่มอยากจะโปรดิวซ์เพลงเป็นของตัวเองเพื่อที่จะเอามาเล่นตามสไตล์ของผม การที่ผมได้โปรดิวซ์ออกมาเองนั้น จะสามารถทำให้วงสังคมของผมกว้างขึ้นเพื่อที่จะเป็นที่รู้จักของทุกคนและได้ไปเล่นที่อื่นๆ นอกจากแถวระแวกที่ผมอยู่
คุณเล่นและโปรดิวซ์ผลงานเพลงสไตล์ Trance, Uplifting Trance รวมถึง Tech Trance คุณช่วยนิยามสไตล์เพลงของคุณได้เราฟังหน่อยได้ไหม อะไรคือสไตล์ที่แท้จริงของคุณ?
ผมคิดว่าสไตล์ของผมน่าจะเป็น tech trance ที่มีการผสมผสานของเสียง 303 acid, pace, punch และ emotional clarity ครับ
คุณมีผลงานเพลงรีมิกซ์อันไหนของคุณจะมาแนะนำคนที่ยังไม่เคยได้ยินหรือไม่คุ้นกับเพลงของคุณไหม?
ลองเข้าไปดูที่เพจ Soundcloud ของผมดูครับ จะมีผลงานเพลงของผมอยู่เยอะเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นออริจินัลโปรดักชั่น รีมิกซ์ และเซ็ทที่อัดตอนเล่นสด และสามารถโหลดได้ฟรีด้วยครับ ถ้าคุณได้ฟังจากที่นั่น รับรองว่าคุณจะเข้าใจสไตล์เพลงของผมแน่นอนครับ
ตอนนี้คุณกำลังโฟกัสไปที่ผลงานอะไร และกำลังจะมีผลงานอะไรออกมาบ้างในเร็วๆ นี้ ?
ตอนนี้ก็กำลังจะมีผลงานเพลงชื่อ "Recalibrate" จาก VII ที่จะออกมาช่วงมกราคมปีหน้าครับ ตอนนี้ก็ได้นัดจัด live show สำหรับค่าย VII (ค่ายของพวกเราที่มีศิลปินอย่าง Astrix, Simon Patterson, Sean Tyas, John Askew, Freedom Fighters, Will Atkinson และ Alex Di Stefano)
คุณได้ไปเล่นมาแล้วทั่วโลกในเทศกาลเพลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงาน ASOT, Luminosity, Creamfields และ EDC ในช่วงชีวิตการทำงานของคุณ โชว์ไหนเป็นโชว์ที่ดีที่สุด, แย่ที่สุด รวมไปถึงมีเหตุการณ์ตลก ๆ เกิดขึ้นบ้าไหม?
ผมคิดว่าโชว์ที่ดีที่สุดที่ผมเคยเล่นมาคงเป็นที่ประเทศ Argentina ที่คลับ Niceto นั่นเป็นที่ที่ผมชอบที่สุดในโลกนี้แล้ว จริงๆ แล้วผมเป็นคนชอบเล่นตามผับมากกว่าเทศการใหญ่ๆ บรรยากาศและเสียงเพลงมันดีกว่าเยอะเลย
คุณเคยมาเล่นที่กรุงเทพแล้วหนึ่งครั้งที่งาน Culture One ในปี 2011 ธันวาคมนี้ คุณจะได้กลับมาเล่นที่กรุงเทพอีกครั้ง ณ Odyssey ONYX ประสบการณ์การโชว์ที่ประเทศไทยของคุณเป็นยังไงบ้าง? และแฟนๆ ชาวไทยสามารถคาดหวังอะไรจากโชว์ของคุณได้บ้าง?
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกจริงๆ ผมก็ไม่ได้มาทวีปเอเซียมาประมาณ 4-5 ปีแล้วด้วย แต่ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแล้ว ก็ได้มีกำหนดการเพื่อเล่นในงานต่างๆ ถึง 6-7 งานเลยทีเดียว! แล้วสำหรับการกลับมาครั้งนี้ ผมก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้กลับมาเล่นที่กรุงเทพอีกครั้ง เพราะเท่าที่ผมจำความได้ กรุงเทพเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสีที่น่าตื่นเต้นและความรู้สึกดีๆ จริงๆ