Red Bull 3Style: ชิงแชมป์ประเทศไทย 2017
Red Bull 3Style คือการแข่งขันที่ถูกจัดขึ้นตั้งแต่ปี 2010 จุดประสงค์เพื่อเฟ้นหาสุดยอดดีเจมือฉมัง ซึ่งต้องงัดทักษะชั้นสูงของแต่ละคน เพื่อท้าทายเอาชนะใจคนดูระดับโลก การแข่งขันสุดเดือดนี้ รอบแรกจะเริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคมของทุกปี ดีเจแต่ละคนจากทั่วทุกมุมโลกจะต้องส่งคลิปวิดิโอของตัวเอง โดยใช้เพลงอย่างน้อย 3 สไตล์มามิกซ์ให้เข้ากันเป็นหนึ่งเดียวภายในเวลาเพียง 5 นาที
ดีเจที่ผ่านการคัดเลือก เอาชนะใจกรรมการในรอบแรกได้ จะประกาศผลในเดือนกรกฎาคม และต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันระดับประเทศ ที่จัดต่อไปภายในเดือนกันยายน-พฤศจิกายน จนสุดท้าย คือได้ผู้ชนะแต่ละประเทศ บวกกับดีเจที่ถูกจับฉลากมาเป็น Wild Card อีก 3 คน จะมีสิทธิ์แข่งขันในรอบสุดท้าย คือ รอบชิงแชมป์โลก ซึ่งในปี 2016 รอบชิงแชมป์โลก จัดขึ้นไกลถึงภาคตะวันตกของซานติเอโก ประเทศชิลี แต่สำหรับปี 2017 นี้ จะเปลี่ยนโลเกชั่นมาจัดในยุโรปตะวันออก คือเมืองคราโคว ประเทศโปแลนด์
แต่ก่อนที่จะถึงรอบชิงแชมป์โลกในปี 2017 นี้มีประเทศที่จัดการแข่งขันกว่า 20 ประเทศทั่วโลกซึ่งประเทศไทยได้รับเลือกเป็นหนึ่งในเจ้าภาพ สำหรับจัดการแข่งขันเวิลด์ทัวร์ระดับประเทศ และอีเว้นท์ที่กำลังจะมาถึงเร็วๆนี้คือ The Red Bull 3Style: รอบชิงแชมป์ประเทศไทยปี 2017 จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ จัดที่ Ce La Vi Bangkok ประตูเปิด 20:00-02:00 ให้สาวกคนรักดนตรีทั้งหลายที่ตั้งตารอคอย ได้ไประเบิดความมันส์ พร้อมร่วมเชียร์และลุ้นตัวแทนผู้ชนะของประเทศไทยกันได้ในงานนี้
ดีเจ 6 คนที่จะแข่งในรอบชิงแชมป์ประเทศไทย ผ่านการคัดเลือกอย่างหนักจากคลิปวิดิโอที่ส่งไป ทั้งการเลือกเพลง ทักษะเฉพาะตัว ฝีไม้ลายมือที่โดดเด่นและแตกต่าง เพื่อมาแข่งขันอีกครั้ง ให้ได้เป็นตัวแทนของประเทศไทย ไปแข่งรอบชิงแชมป์โลก The Red Bull 3Style ที่ประเทศโปแลนด์ และผลประกาศ 6 ดีเจที่เข้ารอบ มีรายชื่อดังนี้
นอกจากนี้ ในงานคุณจะได้มันส์ไปกับการแสดงจาก DJ Byte: แชมป์โลก Red Bull 3Style ปี 2015 จากประเทศชิลี, DJ Hedspin: แชมป์โลก Red Bull 3Style ปี 2011 จากประเทศแคนาดา, DJ Bomber Selecta แชมป์ Red Bull 3Style ประเทศไทย 2 สมัย และ DEE JAY B ที่จะมาร่วมระเบิดความมันส์สุดขีดให้กับคุณอีกด้วย
Red Bull 3Style ไม่ใช่แค่การแข่งขันดีเจเปิดแผ่นทั่วไปตามคลับต่างๆ แต่จะทำให้คุณได้ประสบการณ์ใหม่จากการเสพย์ดนตรีแบบเฉพาะกิจ โดยคำว่า #3STYLE เป็นโจทย์หลักในการแข่งขัน หมายถึง ดีเจจะต้องเลือกเพลงอย่างน้อย 3 สไตล์เพื่อใช้ในเซ็ตของตัวเอง รูปแบบการแข่งขัน คือ จะให้เวลาคนละ 15 นาที แสดงฝีมืออย่างไรก็ได้ให้เหล่ากรรมการและคนดูรู้สึกอินและหลุดเข้าไปในโลกเสียงเพลงของตัวเอง กรรมการจะตัดสินตาม 4 หัวข้อหลัก คือ (1) ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ (2) ทักษะของดีเจ (3) การเลือกเพลง และ (4) ผลตอบรับจากคนดู ถ้าดูแค่ชื่อหัวข้อ อาจจะยังนึกภาพไม่ออก ว่าแต่ละคนจะต้องฝ่าเกณฑ์สุดหินเหล่านี้ได้อย่างไร เรามีรายละเอียดลงลึกแต่ละหัวข้อให้แล้ว ดังนี้
1: ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ (40% จากคะแนนทั้งหมด)
ข้อนี้มีน้ำหนักเยอะที่สุด ความเจ๋งคือไม่เคยมีที่ใดทำมาก่อน เป็นการท้าทายกึ๋นของดีเจแต่ละคนในการสร้างโชว์ของตัวเองที่มีความแปลกใหม่ที่สุด ไม่ใช่แค่การก้อปปี้และใส่สไตล์ของตัวเองลงไปนิดๆหน่อยๆ ซึ่งการแข่งขันตลอด 8 ปีที่ผ่านมา แต่ละปี เหล่าผู้แข่งขันได้พัฒนาฝีมือเพิ่มเป็นทวีคูณ ทำให้การแข่งขันยิ่งเข้มข้นน่าระทึกมากขึ้นเรื่อยๆ และขอบอกเลย กรรมการจะจับตาดูเป็นพิเศษ ถ้าเจอใครที่สามารถทำให้คนดูต้องตะลึงงัน ปรบมือโห่ร้องอย่างบ้าคลั่งจนต้องพูดว่า “เห้ย! ทำได้ไงวะ”
2: ทักษะของดีเจ (25% จากคะแนนทั้งหมด)
เป็นการโชว์ทักษะดีเจ เปิดโอกาสให้อวดฝีมือบนโพเดียม ประกาศกร้าวถึงความช่ำชองในประสบการณ์ทักษะดีเจ เช่น:
- Mixing:
เรียบเรียงและจัดเรียงเพลง ความลื่นไหลของเซ็ต จังหวะของการเปลี่ยนเพลง (beat matching, fading และอื่นๆ)
- Live Editing of the Music:
รวมถึง beat juggling การแสครช การเล่น cue points (สามารถใช้ลูกเล่นอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ได้)
- Reading the Crowd:
ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับผู้ฟังระหว่างเล่น
- Overall Presentation:
ความสามารถในการรวมทักษะเหล่านี้เข้ากับเพลงให้มีความลงตัว
3: การเลือกเพลง (20% จากคะแนนทั้งหมด)
ข้อนี้เป็นฟรีสไตล์ให้ดีเจทุกคนได้เลือกแทร็กเพลงที่ตัวเองถนัด ซึ่งโดยปกติก็ไม่ได้ยากไปจากการเลือกเพลงมาเล่นในคลับทั่วๆไป แต่สำหรับการแข่งขันนี้ ดีเจต้องเลือกเพลงอย่างน้อย 3 สไตล์สำหรับเซ็ตของตัวเอง ที่จะสร้างความเซอร์ไพร้ส์ ทำให้คนดูประทับใจจนร้องว้าวตลอดทั้งโชว์
4: ผลตอบรับจากคนดู (15% จากคะแนนทั้งหมด)
ถือเป็นหัวใจหลักของการโชว์ดีเจ ไม่ว่าคุณเป็นดีเจที่เก่งที่เจ๋งแค่ไหน แต่ไม่สามารถทำให้คนดูอินไปกับโชว์ของคุณได้ คุณไม่ใช่ผู้ชนะสำหรับการแข่งขันนี้แน่นอน เพราะฉะนั้นนอกจากทักษะดีเจต่างๆแล้ว ใครที่ดึงความสนใจได้มากที่สุด เรียกเสียงโห่ร้องปรบมือด้วยความประทับใจจากคนดูได้เยอะที่สุด คนนั้นก็คู่ควรกับรางวัลนี้
อีกไม่นานเกินรอ ในคืนวันที่ 7 ตุลาคม 2017 Ce La Vi Bangkok จะถูกแปลงโฉมเป็นสมรภูมิรบอันดุเดือดของเหล่าดีเจ ผนวกกับกฎที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อให้ได้แชมป์ระดับฝีมือคู่ควรกับ Red Bull 3Style และคุณ! ไม่ควรพลาดโอกาสในการเป็นพยาน และร่วมตัดสินการแข่งขันครั้งนี้ด้วยประการทั้งปวง
ติดตามข่าวสาร และอัพเดทข้อมูลต่างๆของ Red Bull 3Styles ได้ที่ official Facebook page หรือเวปไชต์
เขียนโดย Tang Kalayanamit
แปลโดย Sulapee Kiddee
รูปภาพโดย Siam2nite & Red Bull