บทสัมภาษณ์พิเศษ Eva Shaw
Eva Shaw เป็นดีเจและโปรดิวเซอร์สัญชาติแคนนาเดียน ที่ได้ผ่านการแสดงบนเวทีดังๆระดับโลกอย่าง Ultra มาแล้ว นอกจากนั้นเธอยังเป็นดีเจประจำของไนท์คลับชั้นนำต่างๆอย่าง Hakkasan และ Omnia Las Vegas เธอเป็นที่รู้จักดีจากเพลง “Get Down” และ “Space Jungle” ซึ่งติดชาร์ท 10 อันดับแรกใน Beatport เช่นเดียวกับเพลง “Moxie” (ซึ่งเป็นเพลงที่เผยแพร่จากค่ายเพลง WALL record label ของ Afrojack)
สยามทูไนท์มีโอกาสได้ทำการสัมภาษณ์ Eva Shaw ก่อนที่เขาจะมาเล่นที่ Levels ในวันที่ 22 กันยายนนี้
คุณเป็นทั้งนางแบบสายเลือดดัตช์-แคนนาเดียน และดีเจโปรดิวเซอร์ในเวลาเดียวกัน คุณรู้จักกับดนตรีสไตล์ Electronic Dance จากที่ไหน และคุณเริ่มงานดีเจและโปรดิวเซอร์ได้อย่างไร?
ฉันเริ่มแต่งเพลงมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กแล้วค่ะ พอโตขึ้นมาหน่อยก็ได้เริ่มเขียนเพลงโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บ้างแบบเล่นๆสนุกๆ โดยโปรแกรมแรกที่เริ่มใช้ก็คือ Ableton ค่ะ ในตอนนั้นก็ใช้โปรแกรมนี้สร้างสร้างจังหวะขึ้นกับเพื่อนสนุกๆ หลังจากนั้นก็รู้สึกชอบที่จะทำเพลงด้วยโปรแกรมต่างๆมาตลอด ก็เลยทำมาเรื่อยๆจนในที่สุดก็ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงค่ะ
คุณเล่นและโปรดิวซ์ดนตรีสไตล์ Electro House, Progressive House และยังเป็นที่รู้จักดีว่ามีท่อนดรอปที่หนักหน่วง คุณช่วยนิยามสไตล์เพลงของคุณให้เราฟังหน่อย?
เพลงแรกๆที่ฉันโปรดิวซ์ยังไม่ค่อยดุดันเท่าทุกวันนี้นะคะ จะเป็นแนว house และ tech house บ้าง แต่ไม่ค่อยได้เผยแพร่ออกไปสักเท่าไหร่ ส่วนตอนที่เปิดเพลง ก็จะชอบเปิดเพลงที่มีพลังมากๆ หรือ แรงๆเข้าไว้ แล้วก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่า เราน่าจะโปรดิวซ์เพลงสไตล์นี้เอาไว้เปิดเองเลยนะ
เพลงแรกของฉัน (Charizma) เป็นเพลงที่ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง Fly Eye ของ Calvin Harris ถ้าคุณเคยฟังเพลงนี้ล่ะก็จะรู้ว่ามันดุมาก! หลังจากนั้นก็มุ่งที่จะทำเพลงแนวนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเพลงล่าสุด “Rise N Shine” เพลงนี้เป็นเพลงที่ฟังง่ายมากขึ้น เหมาะสำหรับการเปิดในวิทยุมากขึ้น คือมีความเป็นป๊อปมากขึ้นนั่นเอง ช่วงหลังมานี้ฉันเริ่มที่จะสนใจในเพลงแนวอื่นๆมากขึ้นค่ะ อย่างเช่นเพลง Rise N Shine ก็มีความเร็วของเพลงอยู่ที่ 116bpm ซึ่งถือว่าช้ากว่าเพลงปกติของฉันมากๆ เวลาที่เล่นเพลงนี้ในการแสดงก็จะชอบเล่นเวอร์ชั่น bootleg หรือรีมิกซ์ของเพลงมากกว่า นอกจากว่าฉันจะมี Poo Bear ร้องอยู่ด้วยในการแสดงก็จะเล่นเวอร์ชั่นปกติค่ะ
คุณเป็นที่รู้จักอย่างดีจากผลงานเพลงชื่อ "Get Down" ร่วมกับ Hard Rock Sofa เพลง "Space Jungle" (ทั้งสองเพลงติดชาร์ท 10 อันดับแรกของ Beatport) และรีมิกซ์เพลง “Sun Goes Down” ของ “David Guetta & Showtek” เพลง “Moxie” (เป็นเพลงที่ Afrojack นำไปเล่นที่ Ultra Music Festival) และเพลง “N2U” (ร่วมกับ Showtek) นอกจากนี้ยังมีผลงานเพลงอื่นอีกไหม ที่คุณอยากจะแนะนำให้คนที่ยังไม่เคยฟังผลงานของคุณ ได้ลองฟังดูบ้าง?
ก็คงเป็นเพลงที่เพิ่งออกมาเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ชื่อว่า “U” ทำร่วมกับ Mally Mall & Sonny Wilson ซึ่งเพลงนี้จะมี 2 เวอร์ชั่น เวอร์ชั่นนึงจะหนักๆ และอีกเวอร์ชั่นนึงจะออกแนวป๊อปๆและฟังสบายกว่า นอกจากนี้ยังมีอีกเพลงที่พูดถึงไปแล้ว คือ “Rise N Shine” ร่วมกับ Poo Bear เพลงนี้ก็เป็นเพลงที่สบายและช้ากว่าเพลงอื่นๆของฉันมากเช่นกันค่ะ อย่าลืมอีกหนึ่งเพลง คือ “Swipe” ที่เป็นซิงเกิลใหม่จาก Showtek นะคะ เพลงนี้เป็นอีกเพลงที่ฉันโปรดิวซ์และร่วมเขียนด้วย ถ้าฟังดีๆจะได้ยินเสียงฉันในเพลงด้วยค่ะ
ตอนนี้คุณกำลังโฟกัสไปที่ผลงานอะไร และเป้าหมายของคุณในอนาคตคืออะไร?
ฉันตั้งใจจะทำเพลง dance ต่อไปค่ะ แต่ก็จะเพิ่มการทำเพลงในสไตล์อื่นๆด้วย ตอนนี้ฉันได้ทำงานร่วมกับ Shaggy, Sean Paul, Watch The Duck, Kes, Far East Movement และก็... ศิลปินอีกเยอะมาก! ขนาดแนว hiphop ตอนนี้ก็เริ่มมีให้ทำบ้างแล้วเหมือนกันค่ะ ส่วนมิวสิควิดีโอของเพลง “Rise N Shine” ก็กำลังจะเผยแพร่ ออกมาให้ชมกัน อย่าลืมดูกันนะคะ นอกจากงานเพลงแล้ว ฉันก็ยังมีคอลเลคชั่นที่สองจาก Gstar ออกมาด้วย สามารถเข้าไปดูที่ Gstar website ได้เลยค่ะ
คุณเป็นดีเจประจำอยู่ที่คลับระดับเทพของ Las Vegas อย่าง Omnia แล้วยังได้แสดงบนเวทีหลักของงานระดับโลกอย่าง Ultra Miami อีก คุณคิดว่าการแสดงไหนที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด และมีเหตุการณ์ตลกๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการแสดงบ้างมั้ย?
ฉันรักการได้ขึ้นแสดงที่งานเทศกาลดนตรีต่างๆ เพราะมันจะมีความพิเศษและพลังที่สุดยอดเสมอ การได้แสดงในคลับที่มีระบบเสียงที่สุดยอดเช่นกันค่ะ ซึ่ง Omnia เป็นสถานที่ๆสุดยอดมาก มีการแสดงอยู่ครั้งนึง ที่ระหว่างแสดงมีผู้ชายคนนึงโยนกางเกงในของเขาขึ้นมาทีฉัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นคำชมจากเขานะ
คิดยังไงกับการที่คุณเป็นผู้หญิงสุดฮ็อตในธุรกิจที่มีผู้ชายมากมายรายล้อม คุณคิดว่ามันเป็นพร หรือเป็นคำสาปกันแน่?
ฉันคิดว่าถ้าคุณเป็นนักเอนเตอร์เทน และเป็นคนสาธารณะ คนก็จะตัดสินคุณไปโดยอัตโนมัติอยู่แล้วค่ะ ถึงมันจะลำบากและเหนื่อยบ้างแต่ก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ ถ้าหากคุณอยากจะเป็นนักเอนเตอร์เทน ปกติแล้วฉันจะแต่งตัวและทำตัวในแบบที่ฉันอยากจะทำเสมอ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดนะคะ เพราะสิ่งที่ฉันตั้งใจและมาเป็นอันดับแรกเสมอก็คือการทำเพลงและทำเซตดีเจที่ดี ที่เหลือเป็นเรื่องรองหมดค่ะ
คุณอาศัยอยู่ที่นิวยอร์ก เมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดในอเมริกา เราอยากให้คุณเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับคลับ และไนท์ไลฟ์ของที่นั่นว่าเป็นยังไง? แล้วมีอะไรจะแนะนำให้กับคนที่ไปที่นั่นครั้งแรกเกี่ยวกับไนท์ไลฟ์บ้างไหม?
นิวยอร์กสุดยอด! ฉันหลงรักที่นี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาเลยค่ะ นิวยอร์กเป็นที่ๆวุ่นวายและไม่ค่อยมีพื้นที่ไหนกว้างพอสำหรับการสร้างไนท์คลับใหญ่ๆ ก็จะมีบางที่ที่ใหญ่เช่น Pier หรือ Websterhall นอกจากนี้ก็ยังมีที่เล็กๆหลายที่ ที่เป็นแบบ VIP เช่น Marquee ซึ่งถ้าไปที่นี่ก็มีโอกาสได้เจอดีเจดังๆหลายคนเลย ส่วนอีเว้นท์พิเศษ หรือเทศกาลดนตรีต่างๆก็มีขึ้นอยู่เรื่อยๆเช่น E Zoo หรือ EDC NY ค่ะ
คุณกำลังจะมาทำการแสดงครั้งแรกในประเทศไทย ที่ร้าน Levels คุณเคยมาเมืองไทยมาก่อนหรือเปล่า และมีอะไรจะฝากถึงแฟน ๆ ของคุณที่จะมาชมการแสดงในวันนั้นบ้าง?
ฉันมีโอกาสได้มาประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว และก็มีโอกาสได้พักผ่อนกับอากาศและอาหารของที่นี่อยู่วันสองวันค่ะ ฉันได้ยินหลายคนพูดถึงเรื่องน่าสนใจมากมายของประเทศไทย และก็ตื่นเต้นมากๆค่ะที่จะได้กลับมาอีกครั้ง ฉันมีเพื่อนคนนึงที่เป็นนักสู้ UFC เขาก็มาฝึกฝนที่นี่ DJ หลายๆคนก็ชอบ และพูดถึงที่นี่อยู่บ่อยๆค่ะ ยังไงก็ตาม ฉันก็ตื่นเต้นและก็พร้อมที่จะได้เต้นและสนุกไปกับทุกคนเสมอค่ะ!