บทสัมภาษณ์พิเศษ Artificial Intelligence
Artificial Intelligence เป็นคู่หูดีเจและโปรดิวเซอร์สไตล์ Drum & Bass จากประเทศอังกฤษ ซึ่งผลงานของพวกเขาที่เป็นที่รู้จัก ก็คงจะหนีไม่พ้นผลงานเพลงอย่าง Desperado ที่ถือเป็นผลงานที่สามารถขึ้นไปครองอันดับ 1 ของ Drum & Bass Tune of The Year จาก BBC Radio ได้สำเร็จ นอกจากนี้พวกเขายังมีผลงานร่วมกับค่ายเพลงชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Metalheadz, Full Cycle, Good Looking, CIA, Innerground และ Exit อีกทั้งยังเคยรีมิกซ์เพลงให้กับศิลปินอย่าง Missy Elliot, Eric Prydz, Kelis, DJ Hype และอีกมากมาย
Siam2nite ได้มีโอกาสสัมภาษณ์สุดพิเศษกับ Artificial Intelligence ก่อนที่เขาจะมาทำการแสดงที่ Glow ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้
พวกคุณเป็นคู่หูดีเจและโปรดิวเซอร์สไตล์ Drum & Bass จากประเทศอังกฤษ หากมองย้อนกลับไป พวกคุณรู้จักกับดนตรีสไตล์ Drum & Bass ได้อย่างไร? อีกทั้งยังมารู้จักกันและร่วมทีมกันตอนไหน? และเริ่มงานดีเจและโปรดิวเซอร์ได้อย่างไร?
พวกเราทำความรู้จักกับดนตรี Drum & Bass ผ่านทางดนตรีสไตล์ Hardcore และ Jungle ในช่วงกลางยุค 90s ซึ่งพวกเราซื้ออัลบั้มเพลงมาเยอะมาก รวมไปถึงยังบันทึกเพลงจากรายการวิทยุไว้ฟังอีกด้วย ซึ่งพวกเราเจอกันได้ก็เพราะ Zula ขอบไปที่ร้าน Paradise Club อยู่บ่อยๆ พวกเราโตขึ้นในระแวกเดียวกัน และทำความรู้จักกันผ่านทางเพื่อนที่โรงเรียน โดยพวกเรามีความชอบที่หนักแน่นทางดนตรีเหมือนกัน ซึ่ง Zula เริ่มเขียนเพลงไปแล้วภายใต้ Gambit ผมก็เลยตัดเพลงของเขาบางส่วนไปลงในแอพ dubplate ที่ Music House หลังจากนั้นก็เอาไปทดสอบให้พวกนักเที่ยวกลางคืนในเมืองลีดส์ได้ลองฟัง ผ่านทาง Marcus Intalex แล้วผมก็กลับไปที่ลอนดอนอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน พวกเราก็เริ่มเขียนเพลงด้วยกัน และ Al ก็ถือกำเนิดขึ้น โดยได้ Marcus มาเซ็นสัญญาเพลงแรกของเราให้กับ Soulr
พวกคุณเพิ่งจะปล่อยอัลบั้มที่มีชื่อว่า Timeline ออกมา และสามารถครองอันดับ 1 ยอดขายของ Juno Album เป็นเวลา 2 เดือนติดต่อกัน ช่วยแนะนำอัลบั้มนี้ให้เรารู้จักกันหน่อย?
อัลบั้มนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งประกอบไปด้วย การเดินทางผ่านดนตรีสไตล์ Drum & Bass ที่หลากหลาย และได้แรงบันดาลใจมาจากยุค Metalheadz และมาปรับให้เข้ากับยุคปัจจุบัน ถือเป็นอัลบั้มที่เราได้ทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์และนักร้องอย่างใกล้ชิด ทั้ง Dawn Wall, Scar, DRS, Terri Walker, Steo และ Sense
พวกคุณได้ก่อตั้งค่ายเพลงของตัวเองในชื่อ Integral Records เมื่อ 10 ปีก่อน, ปี 2006 อีกทั้งยังมีผลงานเพลงอย่าง Desperado ที่ถือเป็นผลงานที่สามารถขึ้นไปครองอันดับ 1 ของ Drum & Bass Tune of The Year จาก BBC Radio หากมองย้อนกลับไปในความสำเร็จกว่าทศวรรษ พวกคุณคิดว่าการแสดงใดที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด และมีเหตุการณ์ตลกๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการแสดงบ้างมั้ย?
มันเป็นเรื่องยากที่จะจำการแสดงที่แย่ๆ จากความทรงจำที่สะสมมาอย่างยาวนาน แต่การแสดงที่ดีของเราเกิดขึ้นที่ Sao Paulo ซึ่งเป็นแสดงร่วมกับ Marky ดีเจที่เพิ่งจะเลิกทำเพลงไปเมื่อเร็วๆ แต่มันเป็นสิ่งเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นจริงทั้งบรรยากาศและกลิ่นอายและเรายังจำมันได้ นอกจากนี้การทัวร์ญี่ปุ่นของเราหลายครั้งกว่าทศวรรษมันทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดและเข้าถึงวัฒนธรรมของที่นั่นไปแล้ว อีกทั้งยังมีที่นิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เราชอบไปแสดงมากที่สุด รวมไปถึงงานเทศกาลดนตรีอย่าง Outlook/Dimensions เป็นความทรงจำล่าสุดที่ถูกเก็บเอาไว้อย่างดี แต่หากให้พูดถึงเรื่องตลกของเราก็คงจะเป็นงานเฟสติวัลเอาท์ดอร์ที่ใกล้กับรัฐแอริโซนา มันเป็นเหตุการณ์ที่ประหลาดมาก เมื่อพวกบอดี้การ์ดรีบพาพวกเราลงจากเวที เพราะไม่รู้ว่ามีงูขึ้นไปอยู่บนเวทีได้ยังไง
นอกจากเพลง Desperado แล้ว ยังมีผลงานเพลงอื่นที่พวกคุณอยากจะแนะนำให้คนที่ยังไม่เคยฟังผลงานของพวกคุณ ได้ลองฟังดูบ้าง?
อยากจะให้ไปฟังเพลงในอัลบั้ม Timeline ที่เพิ่งปล่อยออกมา มันเป็นเพลงที่มีรูปร่างจับต้องได้ ซึ่งทำให้เรารู้สึกมีความสุขจริงๆ ถ้าจะให้พูดก็คงจะเป็นเพลง Switch On, Shinkansen, Bloodlines, Uprising, Won't Give Up
ตอนนี้คุณกำลังโฟกัสไปที่ผลงานอะไร และเป้าหมายของคุณในอนาคตคืออะไร?
พวกเรากำลังจะปล่อยมินิอัลบั้มออกมากับ Metalheadz ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นอะไรที่เรารู้สึกตื่นเต้นมาก ซึ่งเราได้ทำงานร่วมกับ Dawn Wall ชายผู้ซึ่งจะตามพวกเรามาในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้พวกเราก็เตรียมตัวเองให้พร้อม สำหรับการทำอัลบั้มต่อไป
คุณอาศัยอยู่ที่ลอนดอน ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองชื่อดังของอังกฤษ คุณช่วยแนะนำคลับและไนท์ไลฟ์ของที่นั่น ให้กับคนที่จะไปครั้งแรกได้รู้จักหน่อย?
ลอนดอนเป็นแหล่งของค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมมาหลายปี ทั้งความเร็ว การหักเลี้ยว และการขยับเคลื่อนที่นำไปสู่ Metalheadz
ในทุกวันนี้และยุคนี้ หากจะหาที่ที่ดีที่สุดเพื่อสังสรรค์ ก็ต้องเป็นที่ Soul In Motion ที่โรงแรม Shoreditich ซึ่งเป็นอะไรที่เหมาะสมสำหรับนักท่องเที่ยว และเป็นสถานที่ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในสองสามปีหลัง
พวกคุณจะมาทำการแสดงครั้งแรกในกรุงเทพ ที่ร้าน Glow ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ร่วมกับทีมดีเจ The Phatfunk พวกคุณเคยมาเมืองไทยมั้ย? และคุณมีอะไรพูดฝากถึงแฟน ๆ ชาวไทยที่ไปชมคุณแสดงในวันนั้นบ้าง?
นี่เป็นครั้งแรกที่เราจะไปเมืองไทย ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเราตั้งตารอที่จะได้ไปเยือน
อยากจะให้ทุกคนเตรียมตัว แล้วพบกับดนตรีหลากหลายที่เราอยากจะนำเสนอในรูปแบบที่แตกต่างออกไป จากประสบการณ์ที่เปี่ยมล้นจากการทำงานของ Al และ ค่ายเพลง Integral Records