บทสัมภาษณ์พิเศษ DJ Sarasa
DJ Sarasa ได้รับรางวัลนานาชาติในฐานะ เทิร์นเทเบิลลิสต์, ดีเจ และโปรดิวเซอร์ เธอเกิดในประเทศญี่ปุ่น แต่เติบโตในนิวยอร์ค เธอยังเคยมีผลงานร่วมกับ The Roots, Talib Kweli, Pete Rock, DJ Premier, Boys Noize, Showtek, Above & Beyond และเธอยังอยู่ในมิวสิควีดีโอของ Ghostface Killah และ Talib Kweli อีกด้วย โดยสไตล์ของเธอจะเป็นการเล่นมิกซ์แนว Funk, Disco, Soul, Breakbeats และ House
สยามทูไนท์มีบทสัมภาษณ์สุดพิเศษจาก DJ Sarasa มาฝากสาวกปาร์ตี้ชาวไทย ก่อนที่เขาจะมาทำการแสดงที่ Wine Bibber Sangria ในวันที่ 26 กันยายนที่จะถึงนี้
คุณอยู่ที่ไหน ขณะที่กำลังตอบบทสัมภาษณ์นี้?
ชิบูย่า โตเกียวค่ะ ฉันเพิ่งตื่นจากการงีบหลับไปเมื่อช่วงหัวค่ำค่ะ ตอนนี้ก็เป็นเวลาตี 1 ของที่นี่แล้ว
คุณได้ชื่อว่าเป็นดีเจและโปรดิวเซอร์ที่เชี่ยวชาญด้าน Turntablistโดยคุณเกิดที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ไปโตที่อเมริกา และยังได้ทำการแสดงเคียงคู่กับศิลปินอย่าง The Roots, Talib Kweli, Pete Rock, DJ Premier, Boys Noize, Showtek, Above & Beyond และยังได้ปรากฎตัวในมิวสิควิดีโอ "Rise of the Ghostface Killah" โดย Ghostface Killah และ "Turnt Up" โดย Talib Kweli คุณเริ่มมาข้องเกี่ยวกับดนตรีอิเล็คทรอนิคส์ได้อย่างไร และคุณเริ่มงานดีเจและโปรดิวเซอร์ได้อย่างไร?
มันเริ่มก่อนที่ฉันจะรู้ว่า ฉันสามารถทำมันเป็นอาชีพได้ซะอีก ในช่วงวัยรุ่น ฉันค่อนข้างจะหมกมุ่นกับดนตรีสไตล์ฮิปฮอปมาก ๆ ฉันเคยเต้นมาก่อน กับสไตล์เบรกแดนซ์ (break dancing) และมันก็นำพาผู้คนที่ชอบอะไรคล้าย ๆ กันมารวมกัน ซึ่งเป็นจุดที่ฉันรู้ตัวว่า เพื่อนแท้สำคัญต่อฉันแค่ไหน และฉันก็ได้โอกาสนำเสนอผลงานเพลงให้กับกลุ่มของฉัน ในตอนนั้น ฉันแค่รวบรวมผลงานเพลงลงในเทปเพื่อจะเอาไว้ใช้เวลาที่เรามีปาร์ตี้กัน ปีต่อมา ฉันก็เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย และที่นั่นก็มีสถานีวิทยุที่ฉันสามารถเป็นดีเจได้ และฉันก็เริ่มเล่นเพลงสไตล์อันเดอร์กราวน์ที่หลาย ๆ คนไม่ค่อยรู้จัก
ความหลงใหลของฉันคือการแนะนำดนตรีต่อผู้คนและทำให้พวกเขาเปิดใจกับแนวดนตรีใหม่ ๆ มันเลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันกลายมาเป็นดีเจค่ะ
ดนตรีของคุณเป็นสไตล์ที่ผสมผสานกันระหว่าง แนว Funk, Disco, Soul, Breakbeats และ House music คุณช่วยนิยามสไตล์เพลงของคุณให้เราฟังหน่อย?
เพราะว่าฉันเองมีภูมิหลังเริ่มมาจากดนตรีฮิปฮอป ทุกเพลงที่ฉันเล่นก็จะมีกลิ่นอายของสไตล์ที่คล้าย ๆ กัน ฉันชอบที่จะทำอะไรที่เป็นออริจินัลและค่อนข้างที่จะหนักแน่น และฉันยังเชื่อมั่นว่าการคิดในแง่บวก จะทำให้ดนตรีออกมาดี และทำให้เนื้อร้องออกมาดีด้วย
เพราะฉะนั้น ถ้าให้ฉันนิยามผลงานของฉันสั้น ๆ ก็คงเป็น GROOVY, TRUE และ ACTIVISTIC.
มีผลงานเพลงอื่นที่คุณอยากจะแนะนำให้คนที่ยังไม่เคยฟังผลงานของคุณได้ลองฟังดูบ้าง?
ค่ะ ฉันมีมิกซ์บน soundcloud คุณสามารถไปเช็คดูได้ที่ www.soundcloud.com/djsarasa
นอกจากนี้ ฉันยังมีผลงานซีดีมิกซ์ที่เพิ่งปล่อยออกมาบน Salsoul Records อีกด้วย สามารถไปฟังและดาวน์โหลดกันได้ที่ www.mynorityclassics.com
ตอนนี้คุณกำลังโฟกัสไปที่ผลงานอะไร และเป้าหมายของคุณในอนาคตคืออะไร?
เมื่อถึงเวลาที่ฉันต้องไปกรุงเทพ ฉันคงจะเพิ่งเสร็จจากการจัดรูฟท็อปปาร์ตี้กับ DJ SCRATCH แห่ง EPMD ที่โตเกียว และก็คงเสร็จสิ้นจากการแสดงที่ ULTRA JAPAN ด้วยค่ะ
ดนตรีเป็นอะไรที่สำคัญมากสำหรับฉัน แต่อีกสิ่งที่สำคัญคือการที่ฉันได้ผ่อนคลายและเรียนรู้ไปกับมัน ได้ทำงานที่รัก และได้ใช้เวลาร่วมกับเพื่อนและครอบครัวด้วยค่ะ
คุณรู้สึกอย่างไรบ้างกับการเป็นที่จับตามองในฐานะดีเจหญิงที่หน้าตาดี ในวงการที่เต็มไปด้วยดีเจผู้ชาย?
ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ แต่ฉันมักจะเตือนตัวเองเสมอว่า เพศไม่สำคัญและไม่ใช่ตัวกำหนดว่าฉันควรทำอะไร และควรเป็นอะไร ฉันเชื่อว่า เราควรจะฝึกซ้อมเพื่อให้ผลออกมาได้ตามที่ต้องการค่ะ
ฉันจะไม่ยอมรับการได้อะไรมาง่าย ๆ เพียงเพราะว่า ฉันเป็นผู้หญิง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่การยอมรับทางสังคมก็เถอะ ตัอย่างก็เช่น อย่าให้ผู้ชายถือของอะไรให้คุณ หรือเปิดประตูให้เพียงเพราะคุณเป็นผู้หญิง แต่ยอมได้บ้างในบางโอกาส อย่างเช่น เปิดประตูไม่ได้ เพราะถือของเต็มไม้เต็มมือ หรือ ไม่สามารถถือกระเป๋าเองได้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นงานที่มีรายได้ดี ฉันปฏิเสธข้อเสนอที่ "มองหาดีเจผู้หญิง" การใช้ชีวิตแบบผู้หญิงมาก่อน มันก็ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นนะคะ แต่ถ้าเรายอมรับมันก็แปลว่า เรายอมรับการเหยียดเพศเองค่ะ
นอกจากนี้ เวลาที่มีคนปฏิบัติกับคุณแบบไม่สุภาพหรือไม่ได้รับการนับถือ ฉันก็ไม่เคยคิดว่ามันเป็นเพราะเพศของฉัน อาจจะเป็นเพราะการขาดประสบการณ์ของฉันเองก็ได้ เมื่อเปรียบเทียบกับพวกเขา หรือ บุคลิกของฉัน มันง่ายมากที่เราจะโทษทุกอย่างๆปที่เพศของเรา แต่มันก็ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นหรอก เพราะฉะนั้นสำหรับฉัน มันไม่ต่างเลยค่ะ ที่ฉันเป็นผู้หญิงในวงการนี้ที่เต็มไปด้วยดีเจผู้ชาย
คุณได้ทำการแสดงมาแล้วทั่วโลก รวมทั้ง ประเทศญี่ปุ่น, แคนาดา, อเมริกา, ออสเตรเลีย, เยอรมัน, ดูไบ, เกาหลี, จีน, สิงคโปร์, ประเทศไทย, อินเดีย และอีกหลาย ๆ ประเทศ คุณคิดว่าการแสดงใดที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด และมีเหตุการณ์ตลกๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการแสดงบ้างมั้ย?
การแสดงที่แย่ที่สุด คือตอนที่ฉันถูกจองให้ไปเล่น แต่กลับถูกยกเลิกในเวลาต่อมา เพียงเพราะทางผู้จัดงานเพิ่งจะรู้ตัวว่า จองศิลปินเกิน ฉันโมโหมากเพราะ มันเป็นคืนสุดท้ายที่ฉันอยู่ในประเทศนั้น เพราะฉันก็สามารถทำอย่างอื่นได้หลาย ๆ อย่าง ท้ายทีสุด ฉันก็ต้องบังคับเขาให้จ่ายค่าจ้างฉัน และมันยากมากที่จะเข้าใจว่า ทำไมคนพวกนี้ถึงรอดชีวิตในวงการนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่มีความคิดแค่นี้
การแสดงที่ดีที่สุด คือ เวลาที่ผู้ชมสนุกและมันส์กับโชว์จนพวกเขาเริ่มถอดเสื้อผ้าออก มีผู้ชายคนนึงที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเขารวยมาก และมักจะเลี้ยงเหล้าทุกคนเสมอ เริ่มต้นถอดเสื้อออก เพราะมันร้อนมาก ตลอดการแสดงของฉัน ฉันมองไปที่เขาและผู้คนก็พากันเอาปากกาเมจิค เขียนไปที่หน้าผากของเขา ระหว่างที่เขากำลังเต้นอย่างเมามันส์เลยค่ะ
คุณอาศัยอยู่ที่โตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่นและเมืองยอดนิยมของโลก คุณช่วยเล่าถึงการปาร์ตี้และไนท์ไลฟ์ของที่นั่นให้เราฟังหน่อยได้มั้ย? มีคำแนะนำให้คนที่จะไปลองสนุกกับการเที่ยวที่นั่นเป็นครั้งแรกบ้างมั้ย?
ชีวิตกลางคืนของโตเกียวค่อนข้างจะแตกต่าง มันมีไม่กี่ผับที่คุณสามารถไปเที่ยวและหวังอะไรแบบเดิม ๆ ที่ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ๆ ได้ ถ้าคุณออกไปเที่ยวเพื่อฟังเพลงดี ๆ ฉันก็ขอแนะนำให้มองหาดีเจที่คุณชอบ และจากนั้นก็เช็คตารางว่าเขาจะเล่นที่ไหน ดีกว่าจะเลือกดูตารางงานของผับว่ามีใครเล่น
ในวันที่ 26 กันยายนที่จะถึงนี้ คุณจะมาทำการแสดงในกรุงเทพ ที่ร้าน Wine Bibber Sangria คุณเองเคยมาประเทศไทยหลายต่อหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดคือที่งาน Flavor Food Fest at K Village เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ คุณมีความทรงจำดีเกี่ยวกับการแสดงที่ไทยบ้างมั้ย และคุณมีอะไรจะฝากถึงแฟนๆชาวไทยที่จะไปชมคุณแสดงในวันนั้นบ้าง?
ใช่ค่ะ! มันดีทุกครั้งที่ได้ไปกรุงเทพ งาน Flavor Food Fest เจ๋งมาก ฉันไม่เคยได้ไปเล่นงานที่มีโชว์สุนัขที่หน้าตาเหมือนเจ้าของมากที่สุดมาก่อน ฉันตื่นเต้นมากที่จะได้ไปเล่นที่ Wine Bibber Sangria โดยฉันจะเล่นเพลงแนว disco และ funk และอาจจะเล่น Hip Hop ด้วย มาพบกันนะคะ!