บทสัมภาษณ์พิเศษ Eskei83

สยามทูไนท์มีบทสัมภาษณ์สุดพิเศษจาก Eskei83 มาฝากสาวกปาร์ตี้ชาวไทย ก่อนที่เขาจะมาทำการแสดงในงาน Red Bull Thre3Style ที่ร้านรูท 66 อาร์ซีเอ ในวันที่ 4 กรกฏาคมที่จะถึงนี้

คุณอยู่ที่ไหน ขณะที่กำลังตอบบทสัมภาษณ์นี้?

ผมอยู่บนเครื่องบิน กำลังเดินทางกลับบ้านครับ โดยเพิ่งออกจากอาเซอร์ไบจานที่ผมมาโชว์ในงาน Red Bull Thre3Style รอบชิงชนะเลิศ ที่นี่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง มันเป็นงานที่สุดยอดมาก และก็รู้สึกเยี่ยมมากๆ เลยที่ได้กลับมายังการแข่งขันที่ผมเองคว้าแชมป์โลกมาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วนี่เอง

คุณเป็นดีเจและโปรดิวเซอร์จากเยอรมัน และเมื่อปี 2014 คุณก็คว้าแชมป์โลกของการแข่งขัน Red Bull Thre3Style คุณช่วยเล่าถึงเบื้องหลังความเป็นมาของการก้าวเข้ามาเป็นดีเจของคุณให้เราฟังหน่อยว่า อะไรที่เป็นจุดสำคัญที่นำพาคุณให้ก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์โลกในปี 2014ที่ผ่านมา?

ผมเล่นดีเจมากว่า 15 ปีเแล้วครับ ผมรักมันและบวกกับการที่ผมต้องไปทัวร์บ่อยๆ ทำให้ผมได้ฝึกทำเซ็ทใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อให้มันดีขึ้นเรื่อยๆวิธีของผมคือ ผมจะไม่ได้แค่ทำบีทของเพลงให้สมบูรณ์แบบเท่านั้น แต่ผมพยายามทำทั้งเซ็ทให้สมบูรณ์แบบ ผมเริ่มเล่นสไตล์ routines หลังจากเป็นดีเจ Resident ได้ 5-6 ปี และจากนั้นผมก็เริ่มเข้าแข่งขันดีเจตามผับบ้าง จนวันนึงผมรู้ตัวว่าผมสามารถเล่น routines ในเซ็ทของผมตามผับได้ด้วย ผมจึงเล่นสไตล์นั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมชนะการแข่งขันถึง 4 ใน 5 ครั้งจากการแข่งขันดีเจ แบทเทิล และเริ่มที่จะออกทัวร์ และถูกจองตัวไปเล่นในหลายๆที่ ทั่วประเทศเยอรมัน จนปี 2013 การแข่งขัน Red Bull Thre3Style มาจัดการแข่งขันที่เยอรมัน ผมก็ชนะการแข่งขัน โดยคว้าตำแหน่งแชมป์เยอรมัน, ที่ 3 ของโลก, คว้าแชมป์เยอรมันอีกครั้งในปี 2014 และในที่สุดก็คว้าแชมป์โลกในปี 2014 ที่จัดที่ Baku 5 ถ้าสรุปสั้นๆ คือ ผมโฟกัสและตั้งใจมากที่จะทำงานตรงนี้และเป็นที่รู้จัก ซึ่ง Thre3style ก็เป็นรูปแบบที่สมบูรณ์แบบของการทำให้ผมมาอยู่ตรงจุดนี้ครับ

นอกจากวิดีโอของเซ็ทที่คุณเล่นที่ Red Bull Thre3Style ในรอบชิงชนะเลิศ, มีวิดีโออื่น, มิกซ์เซ็ท, แทร็ก หรือรีมิกซ์ที่คุณอยากแนะนำให้คนที่ยังไม่เคยรู้จักผลงานของคุณได้ลองฟังดูบ้างมั้ย?

ผมเริ่มทำมิกซ์ตั้งแต่ผมเริ่มงานดีเจ เพราะฉะนั้นในช่อง Soundcloud ของผมก็จะเต็มไปด้วยมิกซ์เยอะแยะ คุณสามารถฟังได้เป็นชั่วโมงเลยครับ ส่วนมิกซ์ที่ผมภูมิใจที่สุดคือ มิกซ์ที่ผมทำสำหรับ Serato เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ในช่อง Podcast ของผม แล้วก็มีออริจินัลแทร็กของผมด้วย ซึ่งแทร็กที่ผมคิดว่าดีที่สุดของผม "Get Down" ซึ่งปล่อยออกมาเมื่อต้นปี 2015 และติดใน TOP 10 ของ Beatport และก็มีดีเจหลายๆ ท่านเอาไปรีมิกซ์อีกด้วยครับ

การได้แชมป์ Red Bull Thre3Style ส่งผลอย่างไรต่อการเป็นดีเจของคุณบ้าง? และอะไรที่เป็นจุดสำคัญในวงการนี้ รวมถึงอะไรที่เป็นจุดไฮไลท์ในชีวิตการเป็นดีเจของคุณ, การแสดงไหนที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด รวมถึงการแสดงไหนที่ตลกที่สุดของคุณ?

มันเป็นการเพิ่มโอกาสสำหรับผมมากกว่า ที่ผมสามารถโชว์ฝีมือของผม ผมเพิ่งรู้ตัวหลังจากผมเข้าแข่งขันชิงแชมป์โลกในปี 2013 ว่าเริ่มมีคนที่สนใจในตัวผมมากขึ้นเรื่อยๆ จนหลังจากแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ Toronto ผมได้ปล่อยมิกซ์ที่มีชื่อว่า "Thanks 10K" เพื่อเป็นการขอบคุณแฟนๆที่เข้ามาติดตามผมถึง 10,000 คนในตอนนั้น ผ่านมา 1 ปี ตอนนี้ผมมีจำนวนคนติดตามกว่า 100,000 คนในช่องโซเชียลต่างๆ รวมไปถึงยอดวิวใน Youtube อีกกว่า 1 ล้านวิว และมีคนเข้าไปฟังมิกซ์ของผมบน Soundcloud อีกกว่า 1.5 ล้านครั้ง ทุกอย่างมันเริ่มตั้งแต่ปี 2013 ผมเริ่มได้ไปเล่นตามต่างประเทศด้วย ส่วนการเป็นแชมป์ Red Bull 3Style qualifiers ก็ทำให้ผมได้ไปเล่นในต่างประเทศเยอะขึ้น และยังได้ไปดูและเป็นกรรมการในการแข่ง Red Bull 3Style ตามประเทศต่างๆ ทั่วโลกอีกด้วย

ตอนนี้ตารางงานของคุณเป็นอย่างไรบ้าง? ส่วนใหญ่คุณจะเป็นเล่นที่ไหนและสไตล์อะไร? และตอนนี้คุณกำลังโฟกัสไปที่ผลงานอะไร และเป้าหมายของคุณในอนาคตคืออะไร?

ผมกำลังเน้นไปที่ทำผลงานเพลงใหม่ก่อน โดยการทำงานโปรดิวซ์เองด้วย แทร็กใหม่กำลังจะถูกปล่อยเร็วๆนี้ ผมภูมิใจกับผลงานชิ้นนี้มาก มันเป็นแทร็กที่เน้นเสียงเบส และผมจะปล่อยแทร็กนี้ภายใต้ค่ายเพลงของผมเองที่มีชื่อว่า Crispy Crust ที่ผมร่วมก่อตั้งกับเพื่อนซี้ของผม Drunken Masters เมื่อปีที่แล้ว วิดีโอใหม่ก็กำลังจะเปิดตัวเช่นกัน มันยากมากที่จะทำให้ดีกว่าเพลง "Get Down"แต่ผมกำลังพยายามอยู่ นอกจากนี้ก็ยังมีมิกซ์อื่นๆ ที่จะถูกปล่อยออกมาในเดือนหน้าใน BBC1xtra, Podcast ของ DJ Rafik's Autobahn และ อืม.. ผมต้องการเวลาอีกนิดหน่อยครับ

ในเดือนมกราคม 2015 คุณได้ปล่อยแทร็ก “Get Down” ซึ่งเป็นแทร็กที่เด่นที่สุดในเซ็ทที่คุณเล่นในรอบชิงชนะเลิศ Red Bull Thre3Style คุณช่วยพูดอะไรถึงแทร็กนี้หน่อยและความรู้สึกของการที่คุณเป็นโปรดิวเซอร์เองเป็นอย่างไรบ้าง?

มันสำคัญมากสำหรับผมมาก เพราะอย่างที่รู้ ในยุคนี้มันง่ายมากที่จะทำเพลงสักเพลง เพราะฉะนั้นคุณต้องทำมันให้ดีและโดดเด่นที่สุด ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปจากตอนที่ผมเริ่มดีเจไปเยอะมาก สมัยก่อนนั้นคุณต้องเป็นดีเจที่เก่งและมีฝีมือกับการเล่นแผ่นและเก่งเรื่องการเลือกเพลงหรือมิกซ์ แต่สมัยนี้มันค่อนข้างจะสำคัญตรงการทำมิกซ์และมีเพลงออริจินัลที่ดัง ผมทำทั้งหมดนี้ได้ ผมทำมิกซ์และทำแทร็กของตัวเอง และผมจะพยายามทำแทร็กออริจินัลของตัวเอง แต่ข้อดีคือผมคิดว่าผมเป็นดีเจที่ดีและผมสามารถให้ความสนุกกับผู้คนที่มีดูโชว์ของผมได้สนุกกับการดูดีเจและสนุกไปกับเพลงด้วย นั่นเป็นสิ่งที่โปรดิวเซอร์เพลงดังหลายๆคน ที่ตอนนี้เรียกตัวเองว่า ดีเจ ยังทำกันไม่ค่อยได้ครับ

นวันที่ 4 กรกฏาคมที่จะถึงนี้ คุณจะมาทำการแสดงครั้งแรกในการแข่งขัน Red Bull Thre3Style ประเทศไทย 2015 ที่ร้านรูท 66 อาร์ซีเอ คุณเคยมาประเทศไทยหรือเปล่า? และคุณมีอะไรจะฝากถึงแฟนๆ ชาวไทยที่จะไปชมคุณแสดงในวันนั้นบ้าง?

ผมเคยไปประเทศไทยมาแล้วครับ แต่มันเป็นแค่การไปต่อเครื่องเพื่อไปยังประเทศอื่น ตอนผมไปทัวร์เอเชีย ผมเลยอยู่ในประเทศไทยแค่ที่สนามบิน ผมดีใจมากที่จะได้ไปเล่นที่ร้านรูท 66 อาร์ซีเอ แล้วก็เป็นครั้งแรกของ Red Bull Thre3Style ประเทศไทยอีกด้วย ผมอาจจะตื่นเต้นกับผู้คนใหม่ๆ ที่จะได้โชว์ความเป็น Red Bull Thre3Style และตัวผมเองด้วย มันจะต้องเป็นปาร์ตี้ที่มันส์สุดๆ แน่นอน กับเพลงดีๆ และดีเจฝีมือเยี่ยมอีกหลายๆ คนด้วยครับ

การแข่งขัน Red Bull Thre3Style กำลังจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก คุณช่วยเล่าถึงคอนเซปท์ของการแข่งขันให้คนที่ยังไม่ทราบรายละเอียดได้รู้จักการแข่งขันมากขึ้นหน่อย และคุณมีคำแนะนำอะไรจะบอกกับเหล่าดีเจที่จะเข้าแข่งขันในปีนี้บ้าง?

มันง่ายมากๆ ดีเจแต่ละคนมีเวลา 15 นาที โดยพวกเขาต้องเล่นทั้งหมด 3 สไตล์เพลง และต้องโชว์ทักษะในด้านดีเจและการผสมผสานสไตล์เหล่านั้นให้เข้ากัน โดยเป้าหมายหลักคือ การทำให้คนดูและกรรมการสนุกไปกับเซ็ทเหล่านั้น การเลือกเพลง การมิกซ์ การสแครช นั่นหมายความ คุณไม่สามารถที่จะเล่นเฉพาะเพลงฮิตๆ ตลอด 15 นาทีได้ มันจะเป็นการทำลายความสนุกของโชว์ พยายามหาแทร็กใหม่มาปรับใช้ เซอร์ไพรส์คนดู เซอร์ไพรส์กรรมการ ทำอะไรตลกๆ โชว์ทักษะของคุณในการมิกซ์ การสแครช มิกซ์สดๆ หรือเล่นเพลงออริจินัลของคุณเองแสงดความเป็นตัวคุณให้ได้ภายใน 15 นาทีครับ!