บทสัมภาษณ์พิเศษ Borgeous
Epic Entertainment นำคุณมาพบกับดีเจและโปรดิวเซอร์แนวอิเล็คโทรเฮ้าส์ชาวอเมริกัน Borgeous ที่ร้าน ไลฟ์ อาร์ซีเอ โดยแทร็กดังของเขาอย่าง “TSUNAMI” ที่เปิดตัวในปี 2013 ได้ถล่มชาร์ท Beatport ที่อันดับ 1 และยังได้รับรางวัลแทร็กแห่งปีของเวที EMPO อวอร์ดส์และถูกเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัล Juno อวอร์ดส์ สาขา เพลงแดนซ์ยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วย
สยามทูไนท์มีบทสัมภาษณ์สุดพิเศษจาก Borgeous มาฝากสาวกปาร์ตี้ชาวไทย ก่อนที่เขาจะมาทำการแสดงที่ร้านไลฟ์ อาร์ซีเอ ในวันที่ 5 สิงหาคมที่จะถึงนี้
คุณอยู่ที่ไหน ขณะที่กำลังตอบบทสัมภาษณ์นี้?
ผมอยู่ที่อเมริกาครับ เพิ่งเสร็จจากโชว์ที่ตั๋วขายหมดเกลี้ยงที่ Milwaukee และตอนนี้กำลังเตรียมเซ็ทที่จะเล่นในงาน Electric Forest ครับ
คุณก้าวเข้าสู่การจัดอันดับของ DJ Mag’s Top 100 DJs ในปี 2014 ที่อันดับ 87 คุณเริ่มมาข้องเกี่ยวกับดนตรีอิเล็คทรอนิคส์ได้อย่างไร และคุณเริ่มงานดีเจและโปรดิวเซอร์ได้อย่างไร?
ผมเองหลงไหลในดนตรีมานานแล้ว และก็ชอบหลายๆ สไตล์ด้วย พอผมเริ่มอายุเยอะขึ้น ก็ได้มาเกาะกลุ่มกับ Fruity Loops และ Reason และผมเริ่มทำเพลงสไตล์ urban beats มันก็เป็นแบบนั้นมาเรื่อย และก็ทำให้ผมตกหลุมรักเสียงดนตรีมาตลอดเลยครับ
คุณเล่นและโปรดิวซ์ดนตรีสไตล์ Electro และ Big Room คุณช่วยนิยามสไตล์เพลงของคุณให้เราฟังหน่อย?
ผมบอกได้ในคำเดียวเลย คือ ความหลากหลายครับ ผมพยายามที่ทำผลงานให้เป็นมากกว่า Electro และ Big-room house การได้ไปแสดงโชว์ในหลายๆ โชว์ ทำให้ผมได้เล่นและฟังดนตรีหลายๆ สไตล์ ซึ่งผมค่อนข้างแฮปปี้มาก ‘Invincible’, ‘Wildfire’, and ‘This Could Be Love’ ต่างก็เป็นแทร็กที่มีความแตกต่าง
แทร็กดังของเขาอย่าง “TSUNAMI” ที่เปิดตัวในปี 2013 ได้ถล่มชาร์ท Beatport โดยเปิดตัวที่อันดับ 8 และพุ่งไปติดอันดับ 1 อย่างรวดเร็วภายในเวลาแค่ 48 ชั่วโมง จากนั้นก็เป็นคิวของเพลง “Stampede” (กับ Dimitri Vegas & Like Mike และ DVBBS) ซึ่งก็ติดอันดับ 1 เช่นกัน มีผลงานเพลงอื่นที่คุณอยากจะแนะนำให้คนที่ยังไม่เคยฟังผลงานของคุณได้ลองฟังดูบ้างมั้ย?
ผมคิดว่า ทุกคนน่าจะลองฟังหลายๆ แทร็กของผมก่อน จะได้รู้ว่าคุณชอบสไตล์แบบนี้หรือเปล่า และผมก็เพิ่งจะปล่อยเพลงใหม่ไปวันนี้ ชื่อว่า ‘Zero Gravity’ featuring Lights ซึ่งเป็นผลงานที่ผมค่อนข้างแฮปปี้กับมันมาก เราทำออกได้ดีสุดๆ ไปเลย!
ตอนนี้คุณกำลังโฟกัสไปที่ผลงานอะไร และเป้าหมายของคุณในอนาคตคืออะไร?
ผมเพิ่งจะทำแทร็กใหม่วันนี้ และผมก็ยังวุ่นๆ อยู่ในสตูดิโอ เพื่อหาวัตุดิบใหม่ๆ มาใส่ในแทร็กของผม แล้วยังมีทัวร์ในตลอดช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย เพราะฉะนั้น ช่วงนี้ ชีวิตผมมีการแสดงครับ
คุณได้ไปเล่นที่ผับดังๆ และเฟสติวัลมากมายทั่วโลก คุณคิดว่าการแสดงใดที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด และมีเหตุการณ์ตลกๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการแสดงบ้างมั้ย?
มันยากมากที่จะตอบคำถามนี้ ผมรักการแสดงในเฟสติวัลใหญ่ๆ และได้เล่นต่อหน้าคน 30,000 คน มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอดไปเลย แต่เวลาที่ผมได้เล่นในผับเล็กๆ ต่อหน้าคนดูแค่หลักร้อย มันก็เป็นอีกความรู้สึกนึงที่ยอดเยี่ยมมาก ซึ่งคนดูบางคนก็เป็นคนที่ผมรู้จัก ส่วนสิ่งที่แย่ที่สุดสำหรับผมคือ การที่แฟนเพลงของผมได้รับการปฏิบัติแย่ๆ เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้รับอีเมล์จากแฟนเพลงคนนึงของผม ว่าเขาไม่สามารถเข้าไปดูโชว์ของผมในผับได้ สาเหตุเพราะระบบของผู้จัดงานไม่ดี เรื่องพวกนี้ทำผมเซ็งสุดๆ ไปเลย
คุณเป็นดีเจ Residence ให้กับผับดังในลาส เวกัสถึง 2 ผับ อย่าง Drai’s และ Marquee แต่ตัวคุณเองอาศัยอยู่ที่ลอส แองเจลิส เมืองที่ดังเป็นอันดับ 2 รองจากนิวยอร์ก คุณช่วยเล่าถึงการปาร์ตี้และไนท์ไลฟ์ของที่นั่นให้เราฟังหน่อยได้มั้ย? มีคำแนะนำให้คนที่จะไปลองสนุกกับการเที่ยวที่นั่นเป็นครั้งแรกบ้างมั้ย?
ลาสเวกัส เป็นอะไรที่บ้ามากๆ ปาร์ตี้ที่นั่นเป็นอะไรที่ออกจะเกินขอบเขตไปซักนิด แต่นั่นก็ถือเป็นเรื่องดี ทุกคนจะออกมาปาร์ตี้และมีความสุขแบบเต็มที่ เพราะเวกัสก็ขึ้นชื่อเรื่องปาร์ตี้อยู่แล้ว ส่วนในแอลเอจะค่อนข้างต่างออกไป ที่นั่นจะค่อนข้างสงบนะ ผมว่า แต่มันก็ยังเป็นเมืองที่เหมาะจะปาร์ตี้แน่นอน แต่โอกาสที่จะเมาค้างอาจมีน้อยกว่าการปาร์ตี้ในเวกัสครับ but it’s less of a ‘The Hangover’ vibe that you get in Vegas.
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา คุณได้มีโอกาสมาแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ LEVELS. คุณมีความทรงจำอะไรดีๆ เกี่ยวกับการแสดงในไทยบ้าง? และคุณมีอะไรจะฝากถึงแฟนๆ ที่ตั้งตารอชมการแสดงของคุณในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ ที่ร้าน ไลฟ์ อาร์ซีเอบ้าง?
ใช่ครับ ผมชอบกรุงเทพมาก กรุงเทพเป็นเมืองที่ยอดเยี่ยมและผู้คนก็น่ารักและบรรดานักปาร์ตี้ก็จะค่อนข้างจะเป็นวัยรุ่นกว่าเมืองอื่นๆ ที่ผมเคยไปในเอเชีย สำหรับคนที่รอชมการแสดงของผม รับรองว่าเราต้องสนุกกันอย่างแน่นอนครับ แล้วพบกันครับ!