บทสัมภาษณ์พิเศษ Yves V
Epic Entertainment เตรียมนำท่านมาพบกับ Yves V โดยเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังผลงานเพลงของศิลปินดัง เช่น Ian Carey, Timbaland และ Missy Elliot รวมทั้งเขายังเป็น Resident DJ ที่ TOMORROWLAND และเคยเล่นที่ Sensation และ Mysteryland โดยขณะนี้เขาอยู่ที่อันดับ 55 ของนิตยสาร DJ MAG อีกด้วย เตรียมตัวให้พร้อมกับค่ำคืนสุดมันส์กับดนตรีสไตล์ Electro และ Progressive House
สยามทูไนท์มีบทสัมภาษณ์สุดพิเศษจาก Yves V มาฝากแฟนๆ ชาวไทย ก่อนที่เขาจะมาทำการแสดงที่ร้าน ไลฟ์ อาร์ซีเอ ในวันที่ 26 มิถุนายนที่จะถึงนี้
คุณเป็นดีเจและโปรดิวเซอร์จากประเทศเบลเยียม และในปี 2008 คุณได้ติดอันดับ 55 ในการจัดอันดับของนิตยสาร DJ MAG และในฐานะ Resident DJ ประจำเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง TOMORROWLAND คุณยังเป็น Resident DJ สำหรับ TomorrowWorld รวมทั้งทำรีมิกซ์ให้กับอีกหลายศิลปิน ทั้ง Timbaland, Missy Elliot และ Genuwine อีกด้วย คุณเริ่มมาข้องเกี่ยวกับดนตรีอิเล็คทรอนิคส์ได้อย่างไร และคุณเริ่มงานดีเจและโปรดิวเซอร์ได้อย่างไร?
มีไม่มีกี่คนที่รู้ว่าผมเคยเป็นครูสอนวิชาฟิสิกส์มาก่อนที่ผมจะมาเริ่มทำงานในวงการดนตรี แต่ผมเป็นแฟนเพลงแนวอิเล็คทรอนิคส์มาตลอด ผมมักจะฟังเพลงสไตล์ Rave-y , Techno และมันก็เริ่มพัฒนามาเป็นดนตรีแนวของผม และผลงาน Cloundbreaker ก็เป็นผลงานแรกที่นับว่าจุดเริ่มต้นงานของผมในวงการนี้ครับ
แนวเพลงของคุณจะเป็นสไตล์ Electro House, Progressive House และ Dutch House และคุณช่วยนิยามสไตล์เพลงของคุณให้เราฟังหน่อย?
ท่วงทำนอง, ความคิดบวก และความกระปรี้กระเปร่า
คุณเป็นที่รู้จักดีจากผลงานเพลง “Madagascar” (กับ Dimitri Vegas & Like Mike และ Angger Dimas), “Couldbreaker” (กับ Basto), “Sonica” (กับ Paul Widen), “Oldschool Sound” (กับ Chuckie), “Direct Dizko” (กับ Sander Van Doorn), “Wait Till Tomorrow” (กับ Regi & Mitch Crown) และ Magic (กับ Sydney Samson) มีผลงานเพลงอื่นที่คุณอยากจะแนะนำให้คนที่ยังไม่เคยฟังผลงานของคุณได้ลองฟังดูบ้าง?
อย่างที่คุณรู้ว่าผมเป็น Resident DJ ที่ Tomorrowland เพราะฉะนั้นผมคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำความรู้จักกับดนตรีของผมให้มากขึ้น ก็น่าจะเป็นการดูเซ็ทการแสดงของผมที่นั่น ผมชอบที่จะเล่นแทร็กที่มาเป็นคนละแนวเพลงกัน ไม่ใช่แค่ดนตรีอิเล็คทรอนิคส์ ผมมักจะเล่นแทร็กของผมเอง แล้วก็ผลงานคลาสสิคจากศิลปินอย่าง Daft Punk และ Fatboy Slim
หากมองย้อนกลับไป ตลอดเวลาหลายๆ งานที่ผ่านมา คุณคิดว่าการแสดงใดที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด และมีเหตุการณ์ตลกๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการแสดงบ้างมั้ย?
โชว์ที่ดีที่สุดสำหรับผม: S2O เฟสติวัลที่กรุงเทพ, Guaba Beach ที่ไซปรัส, Tomorrowland บราซิล ส่วนเหตุการณ์ที่ตลกคือ ตอนที่ผมเล่นที่เบลเยี่ยมระหว่างช่วงฟุตบอลโลก แล้วทีมชาติเบลเยี่ยมกำลังแข่งขันอยู่พอดี วันนั้นเลยไม่มีสนใจผมเลย ไม่มีใครเต้นเลย ทุกคนมัวแต่มองที่จอทีวีและดูบอล ส่วนที่แย่ที่สุด - ไม่มีเลยครับ!!/p>
ตอนนี้คุณกำลังโฟกัสไปที่ผลงานอะไร และเป้าหมายของคุณในอนาคตคืออะไร?
ผมกำลังเตรียมเซ็ทที่จะเล่นที่งาน Tomorrowland ในเดือนหน้าและกำลังทำผลงานเพลงที่ผมตื่นเต้นมากร่วมกับศิลปินอื่นอยู่ถึง 3 ผลงาน แต่ผมยังบอกไม่ได้จริงๆ ว่าพวกเขาเป็นใคร!
คุณเคยมาแสดงในประเทศไทยหลายต่อหลายครั้ง เช่น ในปี 2014 ที่ Levels ถึง 2 ครั้ง และ S2O เฟสติวัล เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คุณมีความทรงจำอะไรดีๆ เกี่ยวกับการแสดงในไทยบ้าง? และคุณมีอะไรจะฝากถึงแฟนๆ ที่ตั้งตารอชมการแสดงของคุณในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ที่ร้าน ไลฟ์ อาร์ซีเอบ้าง?
ใช่เลย ผมชอบการทัวร์ในเอเชียมาก กรุงเทพเป็นเมืองที่สวยงามมากและคนดูที่นี่ก็บ้ามากๆ พวกเขาเต็มที่กับดนตรีและปาร์ตี้มาก ผมดีใจมากที่จะได้กลับไปเล่นที่นั่น เร็วๆ นี้ครับ