KSHMR เล่าเรื่องราวการทำงานและการสร้างสรรค์ซาวด์เฉพาะตัว
ทำความรู้จัก KSHMR ดีเจแนวบิ๊กรูม ชาวอเมริกัน-อินเดีย ผู้ครองอันดับ 15 บนโพล DJ Mag Top 100 DJs ในปีนี้กันเลยดีกว่า!
หากพูดถึงดีเจและโปรดิวเซอร์เพลงแนวบิ๊กรูม-เฮาส์มากฝีมือ ชื่อของ Niles Hollowell-Dhar (ไนล์ส โฮลโลเวล-เดียร์) หรือที่เรารู้จักกันในนาม ‘KSHMR (แคชเมียร์)’ คงเด้งเข้ามาในความคิดเป็นอันดับต้นๆ
ด้วยสไตล์การทำเพลงที่สดใหม่และมีเอกลักษณ์ ที่ผสานซาวด์แบบอินเดียเข้าไปในผลงาน จึงทำให้เขาสามารถครองใจแฟนอีดีเอ็มได้ทั่วโลก และก้าวขึ้นมาเป็นดีเจระดับท็อป 15 ได้ในระยะเวลาไม่นาน (การันดีด้วยการครองอันดับ 15 บนโพล DJ Mag Top 100 DJs ในปีนี้)
ตลอด 5 ปีที่เขาเดบิวต์ในฐานะดีเจ KSHMR ได้ร่วมงานกับศิลปินและดีเจชื่อดังนับไม่ถ้วน ผลิตผลงานเพลงฮิตติดหู ที่เราเชื่อว่าคุณจะต้องเคยได้ยินมาก่อนอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเพลง Secrets ที่โปรดิวซ์กับ Tiësto และกวาดยอดชมบนยูทูปไปกว่า 206 ล้านครั้ง, เพลง Karate ที่สร้างสรรค์ร่วมกับ R3HAB, เพลง Toca ร่วมกับ Carnage & Timmy Trumpet และอีกมากมาย
ความสามารถอันโดดเด่นของชายหนุ่มผู้นี้ ทำให้เขาได้ไปเยือนเวทีเฟสติวัลยักษ์ใหญ่ทั่วโลก อย่าง Ultra Music Festival, EDC Las Vegas, Tomorrowland และ Coachella มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
Siam2nite ได้มีโอกาสพูดคุยกับ KSHMR ถึงเรื่องราวการทำงานและผลงานต่างๆ อย่างเอ็กซ์คลูซีฟ เพราะฉะนั้นเรารีบไปทำความรู้จักดีเจชาวอเมริกัน-อินเดีย วัย 31 ปี ผู้นี้กันเลยดีกว่า!
บอกหน่อยได้มั้ยว่าตอนนี้คุณกำลังตอบคำถามจากที่ไหน
ตอนนี้ผมอยู่ที่เมืองบอสตัน ซึ่งเป็นที่ๆ คุณพ่อของผมอยู่ปัจจุบัน เรากำลังฉลองวันหยุดช่วงวันขอบคุณพระเจ้ากับครอบครัวครับ
อะไรคือสิ่งที่จุดประกายความสนใจในด้านดนตรีของคุณ
ตอนเด็กๆ ผมเป็นเด็กเนิร์ดที่ติดคอมพิวเตอร์มาก ผมเป็นคนที่ชอบฟังเพลงอยู่แล้ว และวันนึงผมก็ไปเจอโปรแกรมที่ช่วยให้ผมสามารถทำเพลงของตัวเองได้ซึ่งผมคิดว่าเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพผมทุกวันนี้
คุณเติบโตที่แคลิฟอร์เนีย ซึ่งดนตรีและวัฒนธรรมอเมริกันต้องมีอิทธิพลกับคุณเยอะอย่างแน่นอนอยู่แล้ว แต่เราอยากรู้ว่าอีกครึ่งหนึ่งของคุณที่เป็นอินเดียนี้ มีอิทธิพลกับคุณทางด้านดนตรีบ้างมั้ย ยังไงบ้าง
จริงๆ แล้วต้องขอบคุณคุณพ่อของผมเลยนะ ที่ผมได้โตขึ้นมากับเพลงและหนังแนวอินเดีย ตอนแรกๆ ผมก็ไม่ได้รู้สึกอยากเอาความเป็นอินเดียมาใส่ในงานเพลงของผมสักเท่าไหร่ แต่พอผ่านไปสักพัก เราโตขึ้น ก็เริ่มกลับมาเข้าใจและเห็นคุณค่าของประเพณีและวัฒนธรรมอินเดียมากขึ้น
ตอนนั้นเองที่ผมเริ่มต้นใช้ชื่อว่า KSHMR เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อคุณพ่อและครอบครัวผมที่มาจากแถบ Kashmir (แคชเมียร์) ครับ
คุณเคยทำเพลงในแนวฮิปฮอป-ป็อปในฐานะดูโอ้ The Cataracs มาก่อน จากตรงนั้นมาสู่การเป็น DJ/Producer เต็มตัวในชื่อ KSHMR มันมีความยากง่ายยังไงบ้าง
ต้องบอกว่าความยากของเพลงแนว EDM นั้นคือการที่มันจะออกมาสนุกและสามารถสร้างความบันเทิงได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ในขณะที่เพลงแร็ป มีนักร้องเป็นตัวหลักและดนตรีเป็นเพียงสิ่งประกอบเท่านั้น ซึ่งมันต่างกันโดยสิ้นเชิง
ตอนที่ผมทำเพลงฮิปฮอปและป๊อป มันยากสำหรับผมในการทำสิ่งที่ตัวเองตั้งใจไว้ เพราะผมต้องพึ่งพาความสามารถของคนอื่นมากในการทำเพลง พอมาเป็นเพลง EDM ก็เป็นเหมือนดาบสองคมอีก เพราะถึงผมจะทำได้ตามใจตัวเอง แต่บางทีผมก็ไม่รู้ว่าตัวผมเองต้องการอะไร ทำให้การทำงานคนเดียวก็ยากเหมือนกันครับ
ชื่อ KSHMR มีที่มาจากไหน
ง่ายมากเลยครับ คุณพ่อและคุณปู่คุณย่าของมาจากแถบแคชเมียร์ (Kashmir) ซึ่งผมเองก็เป็นลูกครึ่งชาวแคชเมียร์ครับ
คุณคิดว่าเสน่ห์หรือเอกลักษณ์ทางดนตรีของ KSHMR คืออะไร อะไรที่ทำให้คุณสามารถกระโดดขึ้นสู่ดีเจอันดับที่ 23 ในโพล Top 100 DJs ปี 2015 ได้อย่างรวดเร็วหลังจากเดบิวต์ได้เพียง 1 ปี
ผมคิดว่าวิสัยทัศน์ของผมที่มีต่อเพลงแนวอินเดียและซาวด์ต่าง ๆจากทั่วโลกทำให้ผมสามารถผลิตผลงานที่แปลกใหม่ และแตกต่างสำหรับวงการ EDM ได้ อีกรวมถึงผมเลือกที่จะไม่ออกทัวร์ทันทีในปีแรกหลังเดบิวต์ ทำให้ผมมีเวลาสร้างผลงานค่อนข้างมาก ผมเลยสามารถปล่อยออกมาได้เรื่อยๆ นั่นน่าจะมีส่วนในการทำให้ก้าวกระโดดได้เร็วกว่าที่คิดไว้ครับ
เพลงไหนของคุณที่นำเสนอความเป็น KSHMR ได้อย่างชัดเจนที่สุด เพราะอะไร
ผมว่าเพลง Jammu เป็นตัวแทนที่ดีของ KSHMR ครับ เพราะมันเป็นเพลงแรกที่ผมเริ่มนำเอาซาวนด์แนวอินเดียมาผสมผสานอย่างจริงจัง อีกทั้งตัวมิวสิกวีดีโอยังทำออกมาได้ดีมาก ทั้งในเรื่องของคอนเซ็ปต์และการถ่ายทำ ผมชอบเรื่องราวและข้อความที่มันสื่อสารออกมามากและภูมิใจในผลลัพธ์ที่ออกมาจริงๆ
คุณคิดว่าตลอดระยะเวลา 5 ปีในฐานะ DJ/Producer เพลง EDM แนวเพลงของคุณได้เปลี่ยนแปลงหรือแตกต่างออกไปจากเดิมบ้างมั้ย ยังไงบ้าง
ผมคิดว่าตอนผมเริ่มทำ KSHMR ใหม่ๆ ผมเน้นใช้ซาวด์แบบ Cinematic เป็นส่วนมาก จากนั้นผมก็เริ่มเอาดนตรีแนวอินเดียและซาวด์จากทั่วโลกมาผสมผสาน ซึ่งผลงานส่วนมากที่ออกมาจะอยู่ที่ 128 BPM (หรือที่เรารู้จักในแนว Big Room หรือเฮาส์)
ผมก็เป็นเหมือนศิลปินคนอื่นๆแหละครับ ชอบทดลองกับเทมโปและแนวเพลงอื่นๆ เพราะฉะนั้นจากวันแรกจนถึงวันนี้ ผมบอกได้เลยว่าแนวเพลงของ KSHMR นั้นเปลี่ยนไปในทางที่พลิกแพลงและยืดหยุ่นมากขึ้น ตราบใดที่ผมยังมีความ Cinematic และองค์ประกอบของซาวนด์จากทั่วโลกอยู่ ผมว่ามันก็สามารถออกมาเป็นแนวเพลงของ KSHMR ได้ ผมจึงสามารถเริ่มทดลองกับดนตรีแนวอื่นๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้
เล่าเรื่องราวการทำงานในอัลบั้มล่าสุดของคุณอย่าง Dharma: Sounds of Summer ให้เราฟังได้มั้ย และการทำเพลงกับ Timmy Trumpet, B3RROR, Luciana และคนอื่นๆ เป็นยังไงบ้าง
พอคุณทำงานกับคนที่มีความสามารถอะไรมันก็มันก็ราบรื่น โดยเฉพาะเวลาที่เราได้แบ่งปันไอเดียกัน และการทำงานกับ Timmy, B3RROR และ Luciana ครั้งนี้ก็เหมือนกันครับ ส่วนของผลงานที่ออกมานั้น ผมว่ามันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของศิลปินดาวรุ่งใหม่ๆ มากมาย รวมถึงศิลปินที่อยู่ในค่าย Dharma ด้วยครับ
คุณได้แสดงบนเวทีมิวสิกเฟสติวัลใหญ่ๆ มาแล้วนับไม่ถ้วน ที่ไหนที่คุณประทับใจมากที่สุด เพราะอะไร
ผมชอบทุกครั้งที่ได้มีโอกาสแสดงสดในอินเดียและในเมืองบูดาเปสต์ประเทศฮังการี ผมมีความทรงจำที่ดีกับการแสดงที่งาน Balaton Sound Festival บรรยากาศมันดีมากๆ และผมรู้สึกว่าเมืองบูดาเปสต์เป็นอีกเมืองที่สวยงามที่หลายคนมักมองข้าม
สำหรับเวที 808 Festival ปีนี้ คุณเตรียมอะไรเป็นพิเศษสำหรับแฟนเพลงชาวไทยบ้าง
ก่อนอื่นเลยผมต้องบอกว่าผมรักเมืองไทยมาก มันเป็นสถานที่ที่วิเศษสุดๆและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่สวยงามและพลังงานที่ดีมาก ผมได้เตรียมการแสดงที่คู่ควรกับการรอคอยของแฟนๆไว้แล้ว มันจะมีเรื่องราวที่ผมได้ทำเป็นแอนิเมชั่นไว้และมันจะถูกแสดงในภาษาไทยตลอดทั้งโชว์ของผม อีกทั้งยังเซอร์ไพรซ์อีกมากมายให้กับแฟนๆชาวไทยโดยเฉพาะอีกด้วย
ในปี 2020 ที่กำลังเข้ามานี้ คุณจะมีผลงานหรือโปรเจคอะไรให้แฟนเพลงได้ตื่นเต้นกันบ้างไหม
ผมกำลังมีแผนที่จะสร้างวงใหม่ในเร็วๆนี้ และกำลังเร่งมือกับ EP ใหม่ที่ผมทำมาสักพักแล้ว บอกเลยว่า EP นี้ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากหลายแนวเพลงมาก ผมตื่นเต้นกับมันสุดๆเลย
สุดท้ายนี้ ฝากอะไรถึงแฟนเพลงชาวไทยที่กำลังตั้งตารอการแสดงของ KSHMR สักเล็กน้อย
ผมตื่นเต้นมากที่จะได้พบกับทุกคนเร็วๆนี้และได้กลับไปเที่ยวในประเทศที่สวยงามอย่างประเทศไทยอีกครั้ง มันเป็นสถานที่ที่วิเศษมากจริงๆ พวกคุณทุกคนควรภูมิใจนะครับ
สามารถไปดูเซ็ตสุดมันของ KSHMR พร้อมกันได้ในเทศกาลดนตรี 808 Festival 2019 และอย่าลืมติดตามโซเชียลมีเดียต่างๆ ของเขาเพื่อทำความรู้จักดีเจหนุ่มคนนี้ให้มากขึ้น!