‘Brooks’ กับความสำเร็จบนเส้นทางดนตรีอีดีเอ็มในวัย 23 ปี

พูดคุยกับดีเจและโปรดิวเซอร์ชาวดัทช์ ‘Brooks’ เจ้าของผลงานเพลง Byte ที่ทำร่วมกับดีเจอันดับ 1 ของโลกอย่าง Martin Garrix

‘Brooks’ กับความสำเร็จบนเส้นทางดนตรีอีดีเอ็มในวัย 23 ปี
© Siam2nite

หากพูดถึงดีเจที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วด้วยวัยเพียง 23 ปี ชื่อของ ‘Brooks’ หรือชื่อจริง Thijs Westbroek จากประเทศเนเธอแลนด์ คงเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง

ซึ่งสไตล์เพลงอันโดดเด่นของเขาอย่าง Rhythmic Electro House และ Melodic Future House ทำให้เขาได้เดินทางไปแสดงบนหลากหลายเวทีในหลายทั่วโลกมาแล้ว ตั้งแต่ยุโรป อเมริกา เอเชีย และแอฟริกา

ฝีมือและความสามารถของเขา ทำให้ Brooks ได้มีโอกาสร่วมงานกับดีเจแถวหน้าของโลกกับ Martin Garrix ในเพลง Byte ที่กวาดยอดชมบนยูทูปไปได้มากกว่า 100 ล้านครั้ง และกลายเป็นศิลปินในสังกัด STMPD RCRDS ค่ายเพลงของ Martin อีกด้วย

Play Icon

นอกจากนี้ เขายังได้ร่วมงานกับ David Guetta ในเพลง Like I Do ที่กลายเป็นเพลงโปรดของสาวกอีดีเอ็มทั่วโลก ซึ่งได้รับยอดชมบนยูทูปถึง 96 ล้านครั้งเลยทีเดียว

และในวันที่ 19 - 20 เมษายน 2562 เฟสติวัลโกเออร์จะได้สนุกไปกับเซ็ตของเขาเต็มๆ ในงาน Songkranzonic 2019 ณ สวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์ค เมืองพัทยา เพราะฉะนั้น ไปพูดคุยทำความรู้จักดีเจชาวดัทช์คนนี้ให้มากขึ้นกันเลยดีกว่า!

บอกหน่อยได้ไหมว่าตอนนี้คุณกำลังตอบคำถามจากที่ไหน

ตอนนี้ผมอยู่ที่สตูดิโอของผมที่ไอนด์โฮเวน เนเธอร์แลนด์ครับ

ซาวด์ของ Brooks มีจุดเด่นอย่างไร และถ้าให้เลือกเพลงเพื่อแนะนำคนฟังให้รู้จักคุณ คุณจะเลือกเพลงไหนบ้าง

เอกลักษณ์ของซาวด์ผมคือมันมีความล้ำสมัย เอาไปเปิดที่มิวสิกเฟสติวัลก็ได้ เปิดตามวิทยุก็โดน ผมว่าพอสองอย่างนี้มารวมกันมันก็ทำให้ผมมีสไตล์ที่โดดเด่น และแฟนๆ ก็น่าจะชอบผลงานผมเพราะเรื่องนี้ด้วย

ลองฟังผลงานของเขาผ่าน Spotify ได้เลย

ผลงานล่าสุดของคุณ “Better When You’re Gone” เกิดจากการร่วมมือกับตัวเก๋าของวงการอย่าง David Guetta เล่าบรรยากาศในการทำงานกับเขาให้เราฟังหน่อยได้ไหม กระบวนการสร้างสรรค์งานชิ้นนี้เป็นอย่างไรบ้าง

สุดยอดเลยล่ะครับ! คนอาจจะคิดว่าทำงานกับศิลปินชื่อดังขนาดนี้คงต้องกดดันมากแน่ๆ แต่ความจริงไม่ใช่แบบนั้น David เป็นคนนิสัยดีที่สุดคนหนึ่งในวงการที่ผมเคยร่วมงานด้วย

เราไปแสดงด้วยกันที่ Ibiza นิดหน่อย แล้วกลับมาทุ่มเททำเพลงที่สตูดิโอเขาในช่วงกลางวัน จนในที่สุดก็ได้ออกมาเป็นเวอร์ชั่นแรกของ “Better When You’re Gone”

แม้จะเพิ่งอายุเพียง 23 ปี คุณก็ได้ร่วมงานกับศิลปินระดับ DJ Mag Top 5 มาแล้วทั้ง David Guetta และ Martin Garrix คุณมองว่าการประสบความสำเร็จถึงขั้นนี้ทั้งที่อายุน้อยเป็นเรื่องดีหรือไม่ ได้มีโอกาสสนุกกับชีวิตวัยรุ่นแบบ ‘ปกติ’ ไหม หรือว่าชีวิตการทำงานบีบให้คุณต้องรีบโตเป็นผู้ใหญ่

ตอนแรกผมรู้สึกเหมือนฝันไปที่มีโอกาสร่วมงานกับดีเจระดับท็อปๆ ของโลก แต่ถ้าได้ไปนั่งทำงานด้วยกันจริงๆ ในสตูดิโอ ไม่นานก็จะเห็นว่าพวกเขาเป็นแค่คนธรรมดาเหมือนกับคนอื่นนั่นแหละ

พอเราอยู่ในสตูดิโอ โฟกัสมันจะไปอยู่กับกระบวนการสร้างสรรค์มากกว่าพวกความสำเร็จที่สั่งสมมา ผมก็ตอบไม่ได้หรอกนะว่า “ความสำเร็จ” ของผมเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี แต่ว่าผมได้ทำในสิ่งที่ผมรัก ถ้างั้นผมว่ามันคงเป็นเรื่องดีล่ะมั้ง เพราะผมมีโอกาสได้ร่วมงานกับศิลปินอย่าง David กับ Martin

เมื่อปีค.ศ. 2018 คุณได้เข้าชิงตำแหน่ง Best Talent 2018 ของ SLAM! ด้วย คุณมองหาแรงบันดาลใจจากที่ไหนบ้าง และมีแนวทางสร้างสรรค์งานเพลงออกมาอย่างไร

ส่วนใหญ่มันจะมาตอนผมกำลังทัวร์อยู่นะ! ผมว่าคงเพราะผมได้ไอเดียทั้งจากวัฒนธรรมหรือโชว์ในหลายๆ ที่ หรือแม้กระทั่งการได้เจอผู้คนใหม่ๆ บวกกับที่ผมยังเข้าไปทำงานที่สตูดิโอไม่ได้จนกว่าจะกลับจากทัวร์

ตอนผมกลับมาสตูดิโอหลังจากไปทัวร์มาหลายอาทิตย์นั่นแหละครับ คือตอนที่ผมสร้างงานได้ดีที่สุด!

คุณมีแผนอะไรบ้างสำหรับปี 2019 มีผลงานอะไรใหม่ๆ ที่เล่าให้เราฟังได้บ้างไหม

มีแผนหลายอย่างเลย ผมจะไปแสดงที่ Ultra Music Festival, Tomorrowland, Parookaville แล้วก็ยังมีโชว์ที่ KAOS ในลาสเวกัส โดยผมได้เป็น Resident DJ เป็นครั้งแรกด้วย

ส่วนเรื่องผลงานเพลง ตอนนี้ผมโหมงานหนักอยู่เพื่อทำเพลงให้เสร็จก่อนถึงซัมเมอร์ ผมยังพูดอะไรไม่ได้เรื่องเพลงที่กำลังจะออก แต่ถ้าได้ดูเซ็ตแสดงสดของผมก็อาจได้ยินเพลงใหม่ๆ ผ่านหูกันอยู่บ้าง

จากที่ได้ไปเล่นเพลงมาแล้วทั่วโลก คุณรู้สึกประทับใจกับประเทศไหนที่สุด มีการแสดงครั้งไหนที่คุณที่คิดว่าเยี่ยมที่สุด แย่ที่สุด หรือว่าน่าจดจำที่สุดบ้าง

คงต้องยกให้พวกครั้งแรกที่ผมได้มาเยือนประเทศในเอเชียทุกครั้งเลยครับ คือผมทึ่งจริงๆ ที่ได้เห็นว่าแต่ละประเทศมีความหลากหลายขนาดไหน ทั้งในแง่วัฒนธรรม อาหาร แล้วก็อื่นๆ

อีกอย่างคือขาเที่ยวในแถบนี้ก็ปาร์ตี้กันได้สุดเหวี่ยงถึงใจ! ปีที่แล้วผมไปแสดงที่พม่า มีคนมางานประมาณ 10,000 คน ผมไม่เคยเห็นกลุ่มคนในงานไหนคึกคักขนาดนั้นเลย ผมรักงานครั้งนั้นสุดๆ และจะจดจำมันตลอดไปแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์

คุณกลับมาเยือนไทยครั้งนี้ในฐานะ Headliner ของงาน Songkranzonic ร่วมกับ Nicky Romero และ Thomas Newson รู้สึกประทับใจกับการมาแสดงในไทยเมื่อปีค.ศ 2017 หรือเปล่า และตื่นเต้นไหมที่จะได้กลับมาอีกครั้ง

ผมรอไม่ไหวแล้วที่จะได้กลับไปที่ไทย! ครั้งที่แล้วที่ไปแสดงผมก็อยู่ที่นั่นหลายวัน เพราะงั้นผมก็ตื่นเต้นที่จะได้พบทุกๆ คนที่เจอกันในครั้งที่แล้วด้วย ครั้งก่อนผมไปแสดงในคลับที่เจ๋งสุดๆ ฉะนั้นผมก็อยากเห็นเต็มทีแล้วว่างานเฟสติวัลที่ไทยจะออกมาเป็นแบบไหนกันแน่

ติดตามผลงานของ Brooks ได้เลยตามช่องทางด้านล่างนี้!

Klook.com

บทความอื่น

รวมบทความน่าสนใจ โดยทีม Siam2nite

  1. พูดคุยกับ 'EDX' ดีเจชาวสวิสผู้คร่ำหวอดในวงการเพลงมานานกว่า 20 ปี

    พูดคุยกับ 'EDX' ดีเจชาวสวิสผู้คร่ำหวอดในวงการเพลงมานานกว่า 20 ปี

    Maurizio Colella หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ ‘EDX’ ดีเจและโปรดิวเซอร์ชาวสวิสผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการเพลงมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี เจ้าของผลงานเพลงซิงเกิลแ...

    ดนตรี · 12 เมษายน 2019
  2. 8 มิกซ์ที่คุณควรจะลองฟังตอนนี้

    8 มิกซ์ที่คุณควรจะลองฟังตอนนี้

    ไม่ว่าคุณกำลังมองหาเพลงสำหรับบิ้วอารมณ์ในการอ่านหนังสือ ไว้ใช้สำหรับเวลาเข้ายิม ฟังเพื่อผ่อนคลายความเครียด หรือจะหาเพลงฟังเวลาขับรถ - เรามีทางเลือก...

    ดนตรี · 12 เมษายน 2019
  3. Jaden Bojsen จากนักแสดง-นักร้อง สู่การเป็น DJ เต็มตัวในวัย 18 ปี

    Jaden Bojsen จากนักแสดง-นักร้อง สู่การเป็น DJ เต็มตัวในวัย 18 ปี

    Jaden Nicolas Bojsen เด็กหนุ่มจากเยอรมันวัย 18 ปี ที่ฉายแววศิลปินตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบจากการเข้าร่วมแสดงในละครเพลง ก่อนพัฒนาความสนใจด้านดนตรีอย่าง...

    ดนตรี · 11 เมษายน 2019
  4. สาดความสนุกไปกับ 42 เพลงสุดมันใน SIAM Songkran Music Festival

    สาดความสนุกไปกับ 42 เพลงสุดมันใน SIAM Songkran Music Festival

    SIAM Songkran Music Festival มหกรรมดนตรีสุดมันต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ ที่พร้อมสาดความสนุกกันแบบจัดหนักจัดเต็ม 4 วันรวด ตั้งแต่วันที่ 12-15 เมษายน 201...

    ดนตรี · 5 เมษายน 2019

ซีรีส์บทความ

เรื่องราวดีๆ ที่เราเลือกสรรมาอัพเดทให้คุณเป็นประจำ