#SundayWellSpent ซอยร่วมฤดี ย่านเพลินจิตมีอะไรให้ทำภายใน 1 วันบ้าง?
ตลอดเส้นทางบนถนนสุขุมวิทมีซอยเล็กใหญ่แฝงตัวอยู่มากมาย รอให้เราเข้าไปสำรวจอยู่นับไม่ถ้วน ซึ่งซอยร่วมฤดี ย่านเพลินจิต เป็นหนึ่งสถานที่ที่น่าเจียดเวลายามว่างของเราไปเดินเล่นอยู่ไม่น้อย เพราะในซอยนั้นไม่ได้มีเพียงแค่โรงแรม คอนโดที่พักอาศัย หรือสำนักงานเท่านั้น แต่เต็มไปด้วยร้านรวงที่ทุกคนสามารถไปตักตวงความสุขได้ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะร้านอาหารหลากสัญชาติที่รอต้อนรับทุกคนอยู่เรียงรายตลอดทั้งซอย
ในซีรีส์ #SundayWellSpent ครั้งนี้ จึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักซอยร่วมฤดีให้มากขึ้น ซึ่งเราเชื่อว่าที่แห่งนี้กำลังจะเป็นจุดหมายที่คุณอยากชวนคนใกล้ชิดไปใช้เวลายามว่างในช่วงสายวันอาทิตย์นี้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น ไปดูกันดีกว่าว่า 9 สถานที่ ณ ซอยเก่าแก่ย่านเพลินจิตที่เราเลือกมานั้น มีร้านใดดึงดูดคุณได้บ้าง
Cafe Tartine
ชั้นแรกของคอนโดแอทธินี เรสซิเด้นซ์ (Athenee Residence) บริเวณต้นซอยร่วมฤดี เป็นที่ตั้งของคาเฟ่และร้านอาหารฝรั่งเศสต้นตำรับในบรรยากาศสบายๆ อย่าง Cafe Tartine ซึ่งเต็มไปด้วยลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่ทยอยเข้าร้านมามีมื้ออาหารง่ายๆ เช่น สลัด ซุป แซนวิช เบอร์เกอร์ ออมเล็ต เอ้กเบเนดิก สเต็ก และเมนูจากขนมปังบาแก็ต เป็นต้น แต่ที่พลาดไม่ได้คือ Poulet Roti (ควอเตอร์ 180 บาท/ครึ่งตัว 350 บาท/เต็มตัว 600 บาท) ไก่ย่างซอสกระเทียม เสิร์ฟคู่เฟรนช์ฟรายส์ สลัดผัก หรือมันบด ซึ่งไก่ย่างไม่แห้งจนเกินไป โรยเกลือและพริกไทยเล็กน้อย ทานคู่กับซอสกระเทียมเข้ากันเป็นอย่างดี
เมื่อทานของคาวแล้วก็ต้องตามด้วยของหวานโฮมเมด มีทั้งแครมบรูเล่ พานาคอตต้ามะพร้าว พายเลมอนเมอแรงก์ ช็อกโกแลตมูส ทาร์ต และไอศกรีมหลากรส (55-120 บาท) สำหรับเครื่องดื่ม หลากหลายมากที่สุดคือไวน์ เช่นไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์คกลิ้งไวน์ และไวน์โรเซ่ ที่สำคัญคือ Cafe Tartine แห่งนี้ พยายามเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยลดการใช้พลาสติกประเภทครั้งเดียวทิ้ง จึงเสิร์ฟน้ำโดยปราศจากหลอด แต่หากลูกค้าต้องการก็ยังสามารถขอเพิ่มได้เช่นเดิม
Yoga Aum
บนชั้น 6 อาคารคิวเฮาส์ เพลินจิต บริเวณปากซอยร่วมฤดี เป็นที่ตั้งของร้านขายสินค้าพรีเมี่ยมเกี่ยวกับโยคะอย่าง Yoga Aum (โยคะโอม) ซึ่งก่อตั้งจากความต้องการให้ผู้ที่ชอบเล่นโยคะในเมืองไทยมีเสื่อโยคะดีๆ ใช้อย่างแพร่หลาย สินค้าภายในร้านจึงเน้นไปที่เสื่อคุณภาพสูง แต่ก็มีเสื้อผ้า ถุงมือ-ถุงเท้าพิลาทิส บล็อกโยคะ อุปกรณ์ทำความสะอาดเสื่อ กระเป๋า และอื่นๆ ไว้เป็นตัวเลือกให้ช็อปอีกหลายชนิด ทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Manduka, easyyoga, Miss Runner, Vaken, YokaAum, Pointe Studio และ Yokitoes โดยช่วงราคาของสินค้าอยู่ที่ 280-18,800 บาท นอกจากนี้ยังมีจัดคลาสเวิร์กช็อป สั้นๆ ซึ่งมักเชิญครูจากต่างประเทศมาสอนเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี
YogaAum เป็นตัวแทนจำหน่ายเดียวของแบรนด์ Manduka ในประเทศไทย มีทั้งหมด 8 สาขา ได้แก่ คิวเฮาส์ เพลินจิต, คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์, เดอะวอล์ค ราชพฤกษ์, ตลาดบองมาร์เช ประชาชื่น, เมกาบางนา, อมรินทร์ พลาซ่า, เอ็กซ์เชนจ์ ทาวเวอร์, เดอะคริสตัล วีรันด้า ซึ่งสาขาเพลินจิตนี้ เป็นสาขาแรกและสาขาหลักที่รวบรวมสินค้าไว้มากที่สุด หากต้องการอุปกรณ์เล่นโยคะคุณภาพสูง ร้านโยคะโอมแห่งนี้คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
Lenzi Tuscan Kitchen
ร้านอาหารเฟรนด์ลี่ไฟน์ไดน์นิ่งในบรรยากาศสบายๆ โทนสีแดง-ดำ-น้ำตาลอย่าง Lenzi Tuscan Kitchen แห่งนี้ ตั้งอยู่ในซอยร่วมฤดี 2 อันเงียบสงบ ซึ่งพลุกพล่านด้วยลูกค้าที่จองเข้ามามีมื้ออาหารดีๆ เป็นประจำ ซึ่งการันตีคุณภาพด้วยการติดอันดับร้านอาหารแนะนำโดย Michelin Guide 2018-2019 ซึ่งครอบครัวของเชฟฟรานเชสโก เลนซี (Francesco Lenzi) ผู้ก่อตั้ง มีฟาร์มหมูในทัสคานี ประเทศอิตาลี จึงสามารถนำเข้าหมูแฮม (เป็นร้านเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มี) และวัตถุดิบอื่นได้โดยตรงเป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารอิตาเลียน สไตล์ทอสคาน่า เช่น โคลด์คัทส์ พาสต้า สลัด ซุป อาหารทานเล่น สเต็ก ฯลฯ พร้อมกับโอเพ่นคิทเช่นหลังกระจกใสขนาดใหญ่ ที่สามารถมองดูเชฟและผู้ช่วยปรุงอาหารอย่างเต็มตา นอกจากนี้ยังรวบรวมไวน์อิตาลีที่คัดสรรอย่างพิถีพิถันไว้มากกว่า 230 ชนิด ให้ทุกคนได้ดื่มคู่กับอาหารแต่ละเมนูที่เข้ากันอย่างลงตัว
ที่น่าลองคือ Tagliere Del Lenzi (ขนาดกลาง 890 บาท) โคลด์คัทส์ที่ชีสและแฮมทั้ง 7 ชนิดล้วนแล้วแต่มาจากฟาร์มของ Lenzi ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีเมนูเซ็ตอาหารกลางวันง่ายๆ ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ที่มีราคาไม่แพงจนเกินไป สำหรับใครที่อยากลองทานอาหารอิตาเลียนแบบทอสคาน่าต้นตำรับ ลองแวะเวียนไปดูสักครั้ง เพราะร้านนี้สามารถมอบประสบการณ์การมีมื้ออาหารสุดพิเศษให้ทุกคนได้
MYTH
ฝั่งตรงข้ามโรงแรมดิเอทัส มีทาวน์เฮาส์อิฐส้มที่ถูกแปลงเป็นเรือนนวดแผนไทยโบราณตั้งอยู่ โดย Myth ได้แรงบันดาลใจในการก่อตั้งและสร้างสรรค์บริการ จากภาพจิตรกรรมฝาผนัง และจารึกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนวดแผนโบราณและยาสมุนไพรที่พบเจอในวัดโพธิ์ แล้วนำเสนอออกมาเป็นบริการนวดที่สามารถเลือกระยะเวลาการเข้ารับทรีตเมนต์ได้ตั้งแต่ 25-50-80-110 นาที ซึ่งแตกต่างจากร้านนวดอื่นที่เราคุ้นชิน ภายในร้านมีบรรยากาศแบบไทยประยุกต์ และแต่ละห้องจะตกแต่งแตกต่างกันไป
บริการที่มีได้แก่ นวดเท้า นวดคอ-บ่า-ไหล่ นวดศีรษะ นวดแผนไทย นวดบำบัด นวดอโรมา นวดน้ำมัน และนวดประคบ (ราคาตั้งแต่ 250 บาทขึ้นไป) หากไม่สะดวกที่จะเข้ารับการนวดที่ร้าน ก็มีบริการนวดนอกสถานที่เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า นอกจากนี้ยังมีวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ Myth วิจัย คิดค้น และผลิตขึ้นเองจากว่านและสมุนไพรต่างๆ เช่น สบู่ โลชั่น น้ำมันนวด ลูกประคบ เทียนหอม เป็นต้น ซึ่งจะมีอะไรสบายกายไปกว่าการใช้เวลาว่างยามบ่ายวันอาทิตย์ไปนวดตัวสักชั่วโมงสองชั่วโมง เพื่อเตรียมร่างกายสำหรับการทำงานในวันรุ่งขึ้นเช่นนี้
Yoka Yoka
Yoka Yoka (โยกะ โยกะ) จากร้านอาหารญี่ปุ่นครัวเย็นที่ขายซูชิและซาชิมิ เมื่อได้พบกับเชฟชาวญี่ปุ่นจากเมืองฟุกุโอกะบนเกาะคิวชู จึงนำสูตรอาหารครัวร้อนสไตล์คิวชูที่ถนัดมาผสานเข้าด้วยกัน กลายเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีเมนูครอบคลุมมากที่สุดร้านหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยมีให้เลือกทานทั้งหม้อไฟ ชาบู อูด้ง ราเมง สลัด ข้าวหน้าต่างๆ และเซ็ตอาหารกลางวันง่ายๆ ราคาไม่สูงนัก ที่พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่เวลา 11.00 - 15.00 น. นอกจากเมนูหม้อไฟและราเมงสไตล์คิวชูที่น่าลอง ยังมี Matsu (1,850 บาท) ซาชิมิรวมชุดใหญ่ ที่มีปลาดิบรวม 7 ชนิด ได้แก่ ทูน่า คินเมะได มาได ฮามาจิ แซลมอน ซาบะ และกุ้งอะมาเอบิ ส่วนเครื่องดื่มแน่นอนว่ารวบรวมสุราญี่ปุ่นไว้มากมาย เช่น เบียร์ โชจู สาเก วิสกี้ และไฮบอล เป็นต้น
การตกแต่งภายในร้านเป็นแบบญี่ปุ่นโมเดิร์น เน้นความเรียบง่าย มีห้องส่วนตัวรับรอง ซึ่งเมื่อเดินขึ้นไปบริเวณชั้นสอง จะกลายเป็นสาเกบาร์ ที่ตกแต่งด้วยงานศิลปะเท่ๆ หลายชิ้น หากต้องการจัดงานเลี้ยงส่วนตัว หรือกำลังมองหาสถานที่จัดปาร์ตี้ใหญ่ ที่แห่งนี้ก็มีห้องรับรองหลายขนาดให้บริการ รวมถึงสามารถปิดร้านรับรองได้ถึง 80 คนเลยทีเดียว
Charming Flowers
Charming Flowers เป็นร้านดอกไม้เพียงหนึ่งเดียวในซอยร่วมฤดี ที่มีดอกไม้นานาพันธุ์นำเข้าจากต่างประเทศให้เราเลือกใส่ในช่อและแจกันตามใจชอบมากมาย หรือหากรู้สึกว่าดอกไม้สดไม่ยั่งยืน ทางร้านก็มีดอกไม้ประดิษฐ์ที่คัดสรรมาแล้วเช่นกัน โดยรับเปิดคลาสเวิร์กช็อปขนาดเล็กไม่เกิน 10 คน สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้การจัดดอกไม้เบื้องต้น ซึ่งทางร้านจะให้ทุกคนจัดในสไตล์ของตัวเองโดยปราศจากต้นแบบหรือแพทเทิร์นที่จะปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่กำลังหน่ายกับการอยู่บ้าน ก็สามารถชวนเพื่อนกลุ่มเล็กสักกลุ่มมาเรียนจัดดอกไม้ เพื่อจัดให้คนสำคัญในเทศกาลต่างๆ ก็เป็นความคิดที่ดีไม่น้อย
Diplomat Bar
บริเวณชั้นหนึ่งของโรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งของ Diplomat Bar ที่อออกแบบและตกแต่งแบบไทยร่วมสมัยได้อย่างคลาสสิก เฟอร์นิเจอร์และโครงสร้างจึงมีไม้สีเข้มเป็นส่วนประกอบ บรรยากาศสบายๆ ที่ไม่เหมือนใครแห่งนี้ เหมาะสำหรับการมานั่งจิบกาแฟยามเช้า ชาร้อนยามบ่าย หรือแม้กระทั่งจิบค็อกเทลเย็นๆ ยามดึก โดยเครื่องดื่มที่บาร์แห่งนี้มีพร้อมเสิร์ฟทุกชนิดทั้ง แชมเปญ จิน วอดก้า รัม เตกีล่า เบอร์เบิร์น ฯลฯ โดยเฉพาะไวน์ที่คัดสรรมาจากทั่วโลก เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี ออสเตรีย สเปน นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา อาร์เจนติน่า และอีกมากมาย สำหรับเมนูอาหารสามารถสั่งจากห้องอาหารอื่นภายในโรงแรมคอนราดมาทานได้ ส่วนที่ Diplomat เองก็จะมีเมนูอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบตามฤดูกาล ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
ที่น่าสนใจคือเราสามารถเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มคุณภาพ และดนตรีสดแนวแจ๊สที่เล่นเป็นประจำทุกวันจันทร์ถึงเสาร์ โดยวันจันทร์ - พฤหัสบดี แสดงเวลา 20.00 - 24.00 น. ส่วนวันศุกร์ - เสาร์ แสดงเวลา 20.30 - 24.30 น. ถึงแม้จะเป็นที่น่าเสียดายว่าในคืนวันอาทิตย์จะไม่มีวงดนตรีสดมาเล่นเพลงเพราะๆ ให้เราฟัง แต่ก็ยังมีดนตรีแจ๊สเปิดคลอสร้างบรรยากาศให้เราได้พักผ่อนและใช้เวลากับคนรอบข้างเช่นกัน
Dee Lounge and Bangkok Beer Garden
ชั้นล็อบบี้โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ เพลินจิต บริเวณปากซอยร่วมฤดี เป็นที่ตั้งของ Dee Lounge and Beer Garden โดยด้านในเป็น Dee Lounge ในสไตล์โมเดิร์นที่มีลูกเล่นเป็นแสงไฟหลากสีสัน มีจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ 2 จอ เหมาะสำหรับแฟนกีฬาที่อยากดูเกมการแข่งขันนัดต่างๆ มีโซน Co-Working Space เล็กๆ ที่สามารถมานั่งทำงานได้ทั้งวัน ส่วนบริเวณ Beer Garden ด้านนอกมีบรรยากาศสบายๆ เหมือนนั่งดื่มเบียร์อยู่กลางสวน ด้านหน้ามีเวทีสำหรับวงดนตรีสดที่จะมาเล่นเพลงป็อปและอะคูติกให้ฟังอย่างเพลิดเพลิน เป็นประจำทุกวันตั้งแต่เวลา 19.45 เป็นต้นไป ในวันอาทิตย์จะเป็นวงดนตรีสดสลับกับดีเจ ซึ่งให้สีสันที่แตกต่างไปอีกแบบหนึ่ง
อาหารที่เสิร์ฟจะเป็นเวสเทิร์นและไทยผสมกันไป เราได้ลอง Siam Thai Platter (300 บาท) ที่รวบรวมอาหารทานเล่นของไทยหลากหลายเมนูไว้ในจานเดียวเช่น ลาบไก่ เปาะเปี๊ยะ กุ้งพันอ้อย หมูและไก่สะเต๊ะ เสิร์ฟคู่ซอส 3 ชนิด Spicy Shrimp and Lemongrass Salad (220 บาท) ยำตะไคร้กุ้งสดที่มีรสชาติไม่จัดจ้านจนเกินไปนัก Sour Pork Sausage and Condiment (150 บาท) แหนมทรงเครื่องเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง Crispy Soft Shell Crab (220 บาท) ปูนิ่มทอดกรอบ และ Crispy Chicken Skin (120 บาท) หนังไก่ทอดกรอบพร้อมน้ำจิ้มไก่ นอกจากนี้ ที่ Dee Lounge and Beer Garden มักออกโปรโมชั่นสุดคุ้มเป็นประจำ สำหรับใครที่กำลังคิดะลองไปนั่งเล่นในวันอาทิตย์ ก็มี Happy Hour ตั้งแต่เที่ยงวันถึงหนึ่งทุ่มให้ดื่มเบียร์กันยาวๆ ไปเลยทีเดียว
Gourme Italia
ต้องบอกก่อนว่าร้าน Gourme Italia ปิดให้บริการในวันอาทิตย์ แต่ที่แห่งนี้มีความน่าสนใจเพราะเป็นทั้งช็อปที่ขายวัตถุดิบนำเข้าจากประเทศอิตาลี เช่น เห็ดทรัฟเฟิล ช็อกโกแลต ไส้กรอก ซอสเพสโต้ แฮม ฯลฯ และร้านอาหารขายอาหารอิตาเลียน ทาปาสและไวน์ หรือที่เรียกว่า Trattoria ซึ่งเป็นร้านสไตล์โฮมมี่ การตกแต่งร้านจึงเป็นการผสมผสานระหว่างแบบดั้งเดิมและโมเดิร์นเข้าด้วยกัน ภายในร้านมีทั้งหมด 2 ชั้น โดยบริเวณชั้นสองจะมีห้องเล็กๆ ที่รวบรวมไวน์ไว้มากกว่า 150 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นแฟนไวน์แดง ไวน์ขาว หรือ สปาร์กกลิ้งไวน์ ก็มีตัวเลือกให้เราหยิบมาจิบคู่กับโคลด์คัทหรือพาสต้ารสดีอย่างนับไม่ถ้วน
เมนูอาหารที่นี่จะแบ่งเป็นสองช่วง คือวันจันทร์-พุธ เป็นเมนูหนึ่ง และ วันพฤหัสบดี-เสาร์ เป็นอีกเมนูหนึ่ง เราจึงได้ทานอาหารที่แตกต่างกันไปในแต่ละครั้งที่มาเยือน มีทั้งสลัด เบอร์เกอร์ ซุป ลาซานญ่า แซนวิช โคลด์คัท เมนูจากขนมปังอบใหม่ และอีกมากมาย ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป โดยเริ่มต้นที่ 120 บาทเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทานอาหารอิตาเลียนแท้ๆ ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง
ไปสำรวจร้านรวงน่าสนใจที่แฝงตัวอยู่ตามตรอกซอยต่างๆ ในกรุงเทพฯ กันต่อวันอาทิตย์หน้า ณ ย่านสุดโปรดของเราตามลิงก์บทความของ Siam2nite ด้านล่างนี้ได้เลย!
- เที่ยวครบจบซอยใน 1 วันกับ #SundayWellSpent ซอยงามดูพลี!
- #SundayWellSpent ชวนเพื่อนไปตระเวนหาอะไรทำที่ซอยสวัสดี (สุขุมวิท 31) ในวันอาทิตย์กันดีกว่า!
- #SundayWellSpent ซอยสวนพลู-สาทร ย่านที่มีอะไรมากกว่าตลาดสด คอนโด และโรงแรม!
- #SundayWellSpent โกยความสุข 12 ชั่วโมงในวันอาทิตย์ ณ ซอย สุขุมวิท 49
- ซอกแซกย่านญี่ปุ่น ตุนความสุข ณ ซอยสุขุมวิท 33 กับ #SundayWellSpent
- #SundayWellSpent เดินเล่นซอยนานา ย่านเยาวราช ตั้งแต่เช้าจรดค่ำกัน!
- #SundayWellSpent ย่านธุรกิจ ‘สาทร’ ซอย 10, 11 และ 12 มีอะไรให้ทำในวันอาทิตย์บ้าง?
- #SundayWellSpent ตะลอนย่านฮิปที่ซอยอารีย์
- #SundayWellSpent พักผ่อนร้านโน้น…นั่งชิลร้านนี้ ที่ซอยหลังสวน