รักษ์โลกอย่างมีสไตล์ด้วย 3 ผลิตภัณฑ์ใช้แทนพลาสติกสุดเท่
ในปีพ.ศ. 2559 ประเทศไทยมีปริมาณขยะพลาสติกสูงถึง 3.2 ล้านตัน และครึ่งหนึ่งของจำนวนนั้นเป็นพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น หลอด ถุง ขวดน้ำ ช้อน-ส้อม และกล่องโฟม ที่น่าตกใจคือ เราเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศที่ปล่อยขยะพลาสติกในทะเลมากที่สุดในโลกร่วมกับจีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด!) โดยห้าประเทศรวมกันนี้ ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณขยะพลาสติกจากทั่วโลกจำนวน 8 ล้านตันที่ถูกปล่อยลงทะเลในแต่ละปี ถึงแม้ส่วนหนึ่งของปัญหามาจากระบบการจัดการขยะและรีไซเคิลในประเทศที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ แต่อีกส่วนหนึ่งก็มาจากพฤติกรรมการใช้พลาสติกของพวกเราเอง
ซึ่งภาครัฐและเอกชนเริ่มเห็นความสำคัญของปัญหา และช่วยกันหาทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น เลิกใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำ และออกกฎห้ามนำกล่องโฟม-ถุงพลาสติกเข้าอุทยานแห่งชาติ โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ก็พยายามรณรงค์เรื่องนี้ด้วยการกำหนดแนวคิด ‘Beat Plastic Polution: If you can’t reuse it, refuse it. ซึ่งหมายความว่าถ้าคุณไม่สามารถนำพลาสติกเหล่านั้นกลับมาใช้ใหม่ได้ ให้ปฏิเสธการใช้พลาสติกไปเลย ตอนนี้จึงเป็นเวลาของพวกเราที่จะหันมาช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมและลดขยะพลาสติกในประเทศ โดยเฉพาะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (ซึ่งใช้เวลาย่อยสลายถึง 450 ปี) ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนพลาสติกที่เราสามารถใช้ซ้ำหลายครั้งได้ เช่น ถุงผ้า ขวด-แก้วน้ำดื่ม หรือหลอดรียูส
ใครที่กำลังคิดจะเริ่มรักษ์โลกด้วยกัน เรามีวิธีที่สามารถลดขยะพลาสติกในชีวิตประจำวันแบบเท่ๆ ด้วยบรรดาถุงผ้า ขวด-แก้วน้ำดื่ม และหลอดใช้ซ้ำ ที่ไม่เพียงแต่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังดูดีมีสไตล์อีกด้วย!
ถุงผ้าพับได้
ปัจจุบันมีขยะพลาสติกลอยอยู่ในมหาสมุทรมากกว่า 5.25 ล้านล้านชิ้น ซึ่งเราทราบกันดีว่ามันส่งผลกระทบทางตรงต่อสัตว์ทะเลมากมาย มีรายงานว่าในประเทศไทยพบสัตว์ทะเลเช่น เต่า วาฬ และโลมาตายจากขยะพลาสติกเฉลี่ย 300 กว่าตัวต่อปี สาเหตุคือกินเข้าไป 60 เปอร์เซ็นต์ และพลาสติกพันตามลำตัว 40 เปอร์เซ็นต์ หากเราไม่ต้องการเป็นหนึ่งในสิบประเทศที่ปล่อยขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลก เพียงแค่ทุกคนลดขยะพลาสติกจำนวน 1.5 ชิ้นในทุกๆวัน ก็จะสำเร็จได้โดยง่าย
พกถุงผ้าเป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยลดถุงพลาสติกได้อย่างเห็นผลชัดเจน หลายแบรนด์ในปัจจุบันผลิตถุงผ้าดีไซน์สวยๆ ออกมาให้เราเลือกซื้อใช้อย่างนับไม่ถ้วน ซึ่งถุงผ้าพับได้เป็นหนึ่งแบบที่สะดวกต่อการใช้งานมากที่สุด โดย Baggu เป็นหนึ่งแบรนด์กระเป๋ารักษ์โลกจากสหรัฐอเมริกา ที่มีดีไซน์น่ารัก ใช้งานได้จริง และราคาไม่แพง โดยรุ่นยอดนิยมอย่าง Standard Baggu หรือ Reusable Bangs ทำจากไนลอน Ripstop ซึ่งเป็นการถักทอในลักษณะตารางเล็กๆ จึงทนทานและไม่ฉีกขาดง่าย เมื่อพับแล้วเหลือขนาดเพียงแค่ 5x5 นิ้วเท่านั้น มีสีและลวดลายให้เลือกถึง 35 แบบ โดยบนหน้าเว็บไซต์มีราคาเพียง 10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 331 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าทรงอื่นที่ทำจากวัสดุประเภทหนัง และผ้าคอตตอน ซึ่งทนทานและมีดีไซน์เรียบง่ายไม่แพ้รุ่น Standard Baggu เลยทีเดียว ซึ่งในประเทศไทยมีหลายร้านที่นำเข้ากระเป๋าผ้า Baggu จึงหาซื้อได้ไม่ยากนัก เช่น Aland (ขายราคาใบละ 490 บาท) หรือ Gloc (ขายราคาใบละ 380-590 บาท) หากรู้สึกว่าลายที่ร้านนำเข้ามายังไม่ถูกใจ ก็สามารถสั่งโดยตรงจากเว็บไซต์ Baggu แล้วส่งมายังประเทศไทย โดยค่าส่งเริ่มต้นที่ประมาณ 29 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 961 บาท จึงอาจจะต้องชวนเพื่อนสั่งซื้อพร้อมกันหลายใบสักหน่อยเพื่อความคุ้มค่า แต่แลกกับถุงผ้ารักษ์โลกที่อายุการใช้งานยืนยาว และสามารถหิ้วได้อย่างมีสไตล์ล่ะก็ น่าจับจองเป็นเจ้าของสักใบแล้ว
แก้วและกระบอกน้ำดื่ม
เมื่อเราซื้อชา-กาแฟหรือน้ำหวานดื่มหนึ่งครั้ง เราสร้างขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวอย่างน้อย 5 ชิ้น คือ แก้ว ฝาแก้ว หลอด พลาสติกหุ้มหลอด และถุงพลาสติกใส่แก้ว แต่ถ้าเราพกแก้วหรือกระบอกน้ำส่วนตัวไปใส่แทน เราสามารถลดขยะพลาสติกลงไปได้ถึงครั้งละ 5 ชิ้น นอกจากนี้บางร้านค้ามีส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าที่นำแก้วมาใส่น้ำเอง ไม่เพียงแต่โลกที่ได้ประโยชน์ เราเองก็ได้ประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย
เมื่อพูดถึงแก้วและกระบอกใส่น้ำเท่ๆ จะไม่เอ่ยถึง YETI ก็ไม่ได้ เพราะตอนนี้กำลังฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง ความพิเศษของแก้วและกระบอกน้ำจาก YETI คือ ความแข็งแรง ทนทาน และประสิทธิภาพในการเก็บความร้อนและเย็น (ขนาดที่ใส่กาแฟไว้ตอนเช้า กลับมาดื่มตอนเย็นก็ยังอุ่นอยู่) ผลิตจากสแตนเลส สตีลกันสนิม มีฉนวนกันความร้อนสองชั้น และไม่ทำให้เกิดหยดน้ำรอบแก้ว มีหลากหลายดีไซน์ให้เลือก มีความจุตั้งแต่ 14-64 ออนซ์ ไปจนถึงเหยือกที่สามารถจุได้ถึง 1 แกลลอน (ประมาณ 128 ออนซ์) โดยแก้วและกระบอกน้ำมีราคาตั้งแต่ 705 - 1,764 บาท
น่าเสียดายตรงที่ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อสั่งโดยตรงจากเว็บไซต์ YETI จึงต้องเสียค่าส่งรวมภาษีในจำนวนที่สูงกว่าค่าแก้วก็ว่าได้ (แต่หากชวนเพื่อนสั่งซื้อพร้อมกันครั้งละหลายใบก็ถือว่าคุ้ม) นอกจากคุณภาพที่สูงโดยไม่ต้องสงสัยแล้ว ดีไซน์ของแก้วและกระบอกน้ำแต่ละรุ่นก็เรียบเท่อย่างมีสไตล์ ซื้อหนึ่งครั้งสามารถใช้ได้อีกไม่ต่ำกว่า 3 ปี ก็ถือว่าน่าลงทุนอยู่ไม่น้อย
หลอดใช้ซ้ำ
จากปริมาณขยะพลาสติกที่พบในทะเลทั้งหมด หลอดเครื่องดื่มเป็นประเภทขยะที่พบมากที่สุดเป็นอับดับ 2 หรือประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ โดยในแต่ละวันเราสร้างขยะพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งชนิดนี้ไม่ต่ำกว่า 2 ชิ้น เพราะทุกครั้งที่เราดื่มเครื่องดื่มจากร้านกาแฟในห้างสรรพสินค้า หรือตามสถานีบริการน้ำมันล้วนมีพลาสติกหุ้มหลอดอีกหนึ่งชั้นแทบทั้งสิ้น นอกจากนี้ หลอดยังเป็นพลาสติกที่มีอายุการใช้งานสั้น (แต่ส่งผลกระทบยืนยาว) เพราะเราใช้ดูดน้ำหวานหรือชา-กาแฟหนึ่งแก้วเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น หากเราลดใช้หลอดได้ก็ถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดมากที่สุด แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบการกระดกน้ำดื่ม จำเป็นต้องใช้หลอดจริงๆ หาซื้อหลอดรียูสอย่าง หลอดสแตนเลส หลอดไม้ หรือหลอดยางที่มีอายุการใช้งานยาวกว่าก็เป็นวิธีที่ดีเช่นกัน
Green Steel เป็นหนึ่งแบรนด์รักษ์โลกจากสหรัฐอเมริกาที่ตั้งใจผลิตผลิตภัณฑ์ทดแทนพลาสติกที่มีอายุการใช้งานยาว สินค้าทุกชนิดทั้งแก้ว ขวด และกระบอกน้ำจึงมีประกันตลอดอายุการใช้งาน โดยชุดหลอดสแตนเลส สตีล วัสดุที่ใช้ปราศจากโพลีคาร์บอเนต, พทาเลท, สารตะกั่ว รวมถึงสารพิษอื่นๆ และไม่เกิดสนิม ในแพ็กเกจประกอบไปด้วยหลอดจำนวน 4 ชิ้น แบบโค้งสำหรับดื่มกาแฟ น้ำผลไม้ ซอฟต์ดริ้ง ฯลฯ จำนวน 2 ชิ้น และแบบตรงที่มีขนาดใหญ่กว่าสำหรับดื่มสมูทตี้ 2 ชิ้น ปลายหลอดมนเพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่ริมฝีปากขณะดื่ม พร้อมแปรงทำความสะอาดอีก 1 ชิ้น
โดยหลอดสแตนเลส สตีลมี 2 ขนาดให้เลือก ได้แก่ กลาง - 2.05/2.15 เซนติเมตร และ สูง - 2.5/2.6 เซนติเมตร ชุดหลอดสแตนเลส สตีลนี้มีราคา 14.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 492 บาท (ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้กำลังอยู่ในช่วงลดราคาเหลือเพียง 9.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 328 บาทเท่านั้น) ซึ่งในอนาคตเราอาจจะสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ของ Green Steel ได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปสำหรับใครที่อยากได้เจ้าหลอดทางเลือกนี้จริงๆ เรามีอีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถหาซื้อได้ไม่ยาก
ร้านอาหารมังสวิรัติและอาหารเพื่อสุขภาพบริเวณปากซอยสุขุมวิท 49 อย่าง Broccoli Revolution พยายามผลักดันและสร้างจุดยืนด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยใช้หลอดจากวัสดุธรรมชาติอย่างผักบุ้ง แทนหลอดพลาสติก และผลิตหลอดทางเลือกที่ทำจากแก้ว เหล็ก และไม้ไผ่ วางจำหน่ายในราคาไม่แพง โดยหลอดแล้วและหลอดเหล็กขนาดเล็กราคา 40 บาท ขนาดใหญ่ราคา 60 บาท หลอดไม้ไผ่ขนาดเล็กราคา 25 บาท ขนาดใหญ่ราคา 30 บาท แปรงทำความสะอาดทั้งขนาดเล็กและใหญ่มีราคา 20 บาท ส่วนถุงใส่หลอดพกพามีราคา 40 บาท หากเราซื้อหลอดทางเลือกมาใช้หนึ่งชุด จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นเพียง 85 บาทเท่านั้น (หลอดไม้ไผ่เล็ก+แปรงทำความสะอาด+ถุงพกพา) ซึ่งสามารถหาซื้อได้ไม่ยากแม้จะไม่มีบริการส่งทางไปรษณีย์ เพียงเข้าไปที่ร้าน Broccoli Revolution สาขาซอยสุขุมวิท 49 หรือ สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ชั้น 6 เราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างง่ายดาย
หากทุกคนในประเทศช่วยกันลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเพียงวันละ 1-2 ชิ้น เราก็จะสามารถลดขยะพลาสติกได้วันละนับล้านชิ้น เมื่อทำต่อเนื่องจนเป็นกิจวัตร สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เราช่วยกันนี้เอง ที่จะสร้างผลกระทบอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศ และต่อโลกใบนี้ ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ เราอาจจะหลุดจากอันดับที่ 5 ของประเทศที่ปล่อยขยะลงทะเลมากที่สุดในโลกก็เป็นได้