Vespa ผลิตอิเล็กทริกสกู๊ตเตอร์รุ่นแรก ให้เราได้ขี่รถคลาสสิกแบบรักษ์โลก
สกู๊ตเตอร์เป็นยานพาหนะที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก เพราะตัวรถที่มีขนาดเล็กแต่มีสมรรถนะเทียบเท่ารถจักรยานยนต์ใหญ่ๆ รวมถึงดีไซน์ที่ทันสมัย ทำให้สกู๊ตเตอร์ครองใจผู้ขับขี่ได้ไม่ยาก โดยแบรนด์สกู๊ตเตอร์ที่มีชื่อเสียงมากสุดเจ้าหนึ่งจากอิตาลีอย่างเวสป้า (Vespa) ผลิตเอ็กซ์คลูซีฟอิเล็กทริกสกู๊ตเตอร์เป็นครั้งแรก หลังจากวางแผนและพัฒนามาเป็นระยะเวลากว่าสองปี ตอนนี้เรากำลังจะได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปทั่วเมืองกันแล้ว
อิเล็กทริกสกู๊ตเตอร์จากเวสป้ามีชื่อรุ่นว่า Elettrica มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ บรอนซ์เงิน-เหลือง,เขียว,ฟ้า โดยจะมีสมรรถนะเทียบเท่าสกู๊ตเตอร์ขนาด 50 ซีซี เป็นมอเตอร์แบบไร้แปรงถ่านไฟกระแสตรง (Brushless DC Motor) ขนาด 2.7 แรงม้า โดยสามารถเร่งได้สูงสุดถึง 4 แรงม้า วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 100 กิโลเมตร จากการชาร์ตแบตเตอรี่ 4 ชั่วโมง ซึ่งทางบริษัทผู้ผลิต Piaggio บอกว่าตัวแบตเตอรี่สามารถชาร์จได้ถึงหนึ่งพันครั้ง (หรือประมาณ 10 ปี) จากนั้นความจุจะลดลงเหลือ 80 เปอร์เซ็นต์
ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการถึงความเร็วสูงสุดที่ Elettrica จะวิ่งได้ แต่จะมีโหมด ‘Eco’ เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ ที่จำกัดความเร็วไว้ 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีฟีเจอร์ที่ใช้เทคโนโลยี AI ตรวจจับคนเดินบนถนนและยานพาหนะในระยะใกล้ๆ รวมถึงตัวช่วยเลือกเส้นทางในกรณีที่การจราจรติดขัดมากๆ ข้อดีคือสกู๊ตเตอร์คันนี้ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เลยแม้แต่น้อย
ราคาขายของอิเล็กทริกสกู๊ตเตอร์รุ่น Elettrica ไม่แตกต่างจากรุ่นอื่นมากนัก โดยมีราคาอยู่ที่ 6,390 ยูโร หรือประมาณ 240,063 บาท ซึ่งเปิดให้จองอย่างเป็นทางการแล้วในทวีปยุโรป ผ่านทางเว็บไซต์ของเวสป้าโดยตรง ส่วนอเมริกาและเอเชียก็ต้องรอกันต่อไปอีกสักเล็กน้อย เพราะทางแบรนด์วางแผนจะหน่ายในสองทวีปนี้ช่วงต้นปีค.ศ. 2019
สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า หากเราครอบครองยานพาหนะไฟฟ้าแล้ว จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ที่ไหนได้บ้าง จะสะดวกสบายเท่ารถยนต์ปกติ ที่เติมน้ำมันได้จากปั๊มน้ำมันกว่า 896 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ หรือไม่ (อ้างอิงข้อมูลจากรายงานปีพ.ศ. 2558 โดยกรมพลังงาน) ต้องบอกก่อนว่ายานพาหนะไฟฟ้าค่อนข้างเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย แต่ภาครัฐและเอกชนหลายส่วนก็ให้การสนับสนุนเทคโนโลยีอย่างแพร่หลาย ร่วมกันก่อตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าทั่วประเทศไทย (ถึงแม้จะยังมีไม่มากก็ตาม)
โดยปัจจุบันมีสถานีของ ChargeNow จำนวน 14 สถานี ตามสถานที่ต่างๆ เช่น เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลอีสวิล, เทอร์มินอล 21, อาคาร All Seasons Place, โรงแรม So Sofitel, โรงแรม Mandarin Oriental, ปั๊ม ฯลฯ สถานีของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคระบบ PEA Volta Platform มีจำนวน 11 สถานี โดยสถานีในกรุงเทพฯ จะอยู่ที่สำนักงานใหญ่ กฟภ. 1 สถานี และสถานีของ EA Anywhere กว่า 100 แห่งทั่วประเทศไทย เช่น ศูนย์การค้า Habito Mall, โรงพยาบาลสมิติเวช, สยามพารากอน, โรงแรม The River, สวนลุมไนท์บาซาร์รัชดาภิเษก ฯลฯ นอกจากนี้ที่สถานีบริการน้ำมันบางสาขาก็มีตู้ชาร์จรถไฟฟ้าให้บริการ และในอนาคตจะเปิดสถานีเพิ่มเติมอีกนับพันแห่ง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสถานีชาร์จรถไฟฟ้าไม่เพียงพออีกต่อไป (เตรียมเงินซื้อ Vespa Elettrica ต้นปีหน้าได้เลย!)