#SundayWellSpent ซอยสวนพลู-สาทร ย่านที่มีอะไรมากกว่าตลาดสด คอนโด และโรงแรม!
ใกล้ถึงวันอาทิตย์ทีไร เราก็ต้องเตรียมตัวหาสถานที่ต่างๆในกรุงเทพฯ อย่างคาเฟ่ ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ สวนสนุก สตูดิโอโยคะ หรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อไปใช้เวลาดีๆร่วมกันกับคนใกล้ชิด เติมพลังให้กันและกันก่อนเริ่มต้นสัปดาห์แห่งการทำงานในวันรุ่งขึ้น หากใครยังนึกไม่ออกว่าจะลองไปเดินเล่นที่ไหนดี เรามีซอยหนึ่งที่หลายๆคนเคยได้ยินมาบ้างแล้ว แต่อาจยังไม่มีโอกาสได้แวะไปสักที อย่างซอย ‘สวนพลู’ ซึ่งคราวนี้เราจะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจออกเดินทางง่ายขึ้น
ซอยสวนพลู หรือ สาทร 3 เป็นซอยที่มีบ้านเรือนและผู้คนอาศัยอยู่อย่างพลุกพล่าน ถึงแม้จะตั้งอยู่บริเวณย่านเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพฯ อย่างสาทร ซอยสวนพลูกลับมีบรรยากาศที่แตกต่างออกไป ด้วยความที่เป็นชุมชนเก่าแก่ แฝงอยู่ในย่านที่เติบโตอย่างรวดเร็ว จึงผสานสเน่ห์ของความเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน เมื่อมาเดินเล่นที่นี่จึงเห็นวิถีชีวิตของคนทั่วไป และคนทำงานได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีร้านรวงน่าสนใจซ่อนตัวอยู่มากมายตลอดซอยสวนพลูทั้ง 9 ซอย
เราจึงรวบรวม 10 สถานที่น่าสนใจในซอยสวนพลูมาไว้ที่นี่ กับ ซีรีส์ #SundayWellSpent ถ้าพบร้านที่อยากไปแล้วล่ะก็…อย่าลืมชวนคนใกล้ชิดไปใช้เวลาดีๆตลอดทั้งวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ด้วยกันเลย
บ้าน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช (บ้านซอยสวนพลู)
ห่างจากซอยสวนพลูไปประมาณเกือบ 1 กิโลเมตร ณ ซอย นราธิวาสราชนครินทร์ 7 จะพบกับบ้านซอยสวนพลู เรือนไทยหลังใหญ่ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช บุคคลที่เป็นทั้งศิลปินแห่งชาติและอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ประเภทบ้านบุคคลสำคัญ บ้านหลังนี้จึงแสดงศิลปะของเรือนเครื่องสับภาคกลางแท้ได้อย่างชัดเจน เมื่อเดินเข้าไปภายในบริเวณบ้านจะพบกับศาลาไทยขนาดใหญ่ ที่ใช้เป็นสถานที่รับรองกิจกรรมต่างๆในอดีต มีสวนเขมรคั่นกลางระหว่างศาลาและเรือนไทย เรือนในบริเวณบ้านมีทั้งหมด 5 หลัง รวมหอชมนก ซึ่งเป็นเรือนไม้สักที่ซื้อมาจากที่ต่างๆ แล้วนำมาซ่อมแซม ตกแต่งใหม่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดก็เป็นเรื่องไม้และหวายทั้งหมด ภายในมีของสะสมของม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมชหลายชนิดเช่น หนังสือ เครื่องลายคราม รูปเขียน ฯลฯ ด้านหลังบ้านมีสนามและสระบัวขนาดใหญ่ที่งดงามซ่อนตัวอยู่
บ้านซอยสวนพลูแห่งนี้เหมาะกับการใช้เวลามาซึบซับบรรยากาศอันเงียบสงบและซึมซับศิลปะและวัฒนธรรมแบบไทยๆ ค่าบัตรเข้าชมบ้านมีราคา 50 บาทเท่านั้น ซึ่งรับรองว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์
Holey Bakery Kitchen
เดินเลยซอยสวนพลู 2 มาไม่ไกล จะพบร้านเบเกอรี่ที่มีลูกค้าเดินเข้าไม่ขาดสายอย่าง Holey Bakery Kitchen การตกแต่งภายในร้านค่อนข้างเรียบง่าย ไม่หวือหวา ใช้โทนสีขาว-น้ำตาลเป็นหลัก จึงมีบรรยากาศสบายๆ และเป็นกันเอง หากต้องการทานขนมปังสไตล์ยุโรปแท้ๆ ร้านนี้มีให้เลือกนับสี่สิบชนิดในแต่ละวัน เช่น ครัวซอง มัฟฟิน โดนัทแบบมีไส้ (Berliner) บาแก็ต พาย ทาร์ต สโคน ฯลฯ รวมถึงเค้กนานาชนิด เมนูแนะนำของร้านคือ Death by Chocolate (150 บาท) เค้กช็อคโกแลตจากเบลเยี่ยม 3 เลเยอร์ ท็อปด้วยช็อคโกแลตกานาช (Ganache) ที่เข้มข้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีแซนวิช ซุป สลัด และเครื่องดื่มหลากหลายชนิดให้เลือก เหมาะกับการมีบรันช์ดีๆในช่วงสายวันอาทิตย์เป็นอย่างมาก
Fathom Bookspace
ปากซอยสวนพลู 3 มีร้านหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นสเปซให้คนได้รู้จักตัวเองและผู้อื่นผ่านหนังสือ ศิลปะ และกระบวนการเรียนรู้ นั่นคือ Fathom Bookspace บริเวณชั้นหนึ่งมีหนังสือหลากหลายหมวดวางขาย เมื่อสังเกตจะเห็นกระดาษใบเล็กๆเสียบไว้ตามหน้าหนังสือ นั่นคือข้อความที่คนอ่านหนังสือเล่มนั้นเขียนบอกว่าเขาได้อะไรกลับไปและอยากแบ่งปันอะไรกับเราบ้าง ซึ่งเป็นความน่ารักเล็กๆน้อยๆที่ทำให้เราอยากอ่านหนังสือขึ้นมา บนโต๊ะหน้าร้านจัดวางหนังสือตามธีมของนิทรรศการที่เปลี่ยนไปทุกๆสองเดือน ซึ่งจะหยิบประเด็นทางสังคมต่างๆขึ้นมา ชวนคนตั้งคำถามและสำรวจตัวเอง เดือนกรกฎาคม-สิงหาคมเป็นหัวข้อ ‘ที่เธอทำมันแรงเกินไป’ มีการจัดบอร์ดให้คนแบ่งปันเรื่องราวความรุนแรงที่เคยพบเจอ ส่วนบริเวณชั้นสองเป็นพื้นที่โล่งที่เราสามารถสั่งชา กาแฟขึ้นไปอ่านหนังสือได้อย่างสบายๆ ซึ่งหากเป็นสมากชิกก็สามารถเช่ากลับไปอ่านที่บ้านได้อีกด้วย ร้านมักจัดกิจกรรมน่าสนใจ เช่น ศิลปะบำบัด วงคุยเรื่องหนังสือ การแสดง กิจกรรมสำหรับครอบครัว ฯลฯ หากคุณเป็นหนอนหนังสือ เราเชื่อว่าสามารถใช้เวลาในสถานที่แห่งนี้ได้เกินครึ่งวันเลยทีเดียว
Kad Kokoa
ท้ายซอยสวนพลู เมื่อเดินไปอีกเล็กน้อยทางซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 17 จะพบกับร้านโกโก้เปิดใหม่สไตล์ Bean to Bar คราฟต์ช็อคโกแลตที่ทำเองทั้งหมดตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดโกโก้ไปหมัก คั่ว ขึ้นรูปเป็นแท่ง(บาร์) จนกระทั่งนำมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่มและขนมหวานในร้าน โดยเมล็ดโกโก้ที่ใช้ได้จากแหล่งปลูกในประเทศไทยทั้งหมด เช่น เชียงใหม่ ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ จันบุรี การตกแต่งร้านมีลักษณะเป็นบ้านไม้กึ่งลอฟต์รัสติกที่ดูเท่ไม่น้อย บริเวณร้านแบ่งเป็นสามส่วน ได้แก่ ห้องผลิตช็อคโกแลต คาเฟ่สองชั้น และช็อคโกแลตบาร์ ที่ Kad Kokoa เสิร์ฟชา กาแฟ ช็อคโกแลต และเบเกอรี่ เมื่อถามถึงเมนูแนะนำ เราได้ Vanilla Mousse (150 บาท) ช็อคโกแลตเย็นที่ทำจากเมล็ดโกโก้ปลูกในจังหวัดชุมพร ไม่ขมหรือหวานจนเกินไป
El Mercado Grocery & Wine
ร้านอาหารเมดิเตอร์เรเนียนย่านคลองเคยที่เสิร์ฟอาหารทะเล โคลด์คัทส์ และไวน์รสเลิศอย่าง El Mercado เปิดมินิมาร์ทหลังใหม่เน้นขายไวน์ อาหารแห้ง และวัตถุดิบพรีเมี่ยมในราคาสมเหตุสมผล ที่ได้รับความนิยมจากเมนูต่างๆของร้าน รวมถึงผลิตภัณฑ์นำเข้าหายาก เช่น ชีส โคลด์คัทส์ เนื้อ น้ำมัน ไวน์ ผักและผลไม้ต่างๆ บริเวณเคาน์เตอร์มีมุมขนมปังอบสดใหม่ทุกวัน นอกจากนี้ หากซื้อสินค้าประเภท น้ำมันมะกอกหรือน้ำส้มสายชูจากร้าน สามารถนำขวดเปล่ามารีฟิลได้ในราคาพิเศษ เช่น Red Wine Vinegar หรือน้ำส้มสายชูหมักจากองุ่นแดงปริมาณ 250 มิลลิลิตร ราคาปกติ 99 บาทต่อขวด แต่สามารถรีฟิลได้ในราคาเพียง 40 บาทเท่านั้น
Arno’s
ร้าน Arno’s สาขานี้เป็นสาขาที่ 7 ในประเทศไทย ตั้งอยู่ใกล้กับซอยสวนพลู 1 โดยแบ่งเป็นสองห้องที่เชื่อมต่อกัน ฝั่งซ้ายเป็น Arno’s Wine Bar ส่วนด้านขวาเป็น Arno’s Steaks and Burgers บริเวณร้านทั้งสองชั้นตกแต่งในสไตล์ร้านอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมที่เน้นโทนสีเหลือง-ส้ม-แดง จากเฟอร์นิเจอร์ไม้และผนังอิฐ ทำให้ร้านมีบรรยากาศอบอุ่นสบายๆเหมือนบ้าน สิ่งที่ทำให้สาขานี้แตกต่างจากที่อื่นนอกจากเป็นไวน์บาร์ที่มีไวน์ให้เลือกดื่มคู่กับสเต็กเนื้ออร่อยๆอย่างนับไม่ถ้วนแล้ว ยังมีบุฟเฟต์ที่สามารถเลือกทานพรีเมี่ยมเมนูได้คนละ 1 อย่าง พร้อมอาหารเมนูอื่นได้ไม่อั้นในราคา 750 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่ม) เช่น เนื้อสันนอก 75 วัน หอยแมลงภู่ฝรั่งเศสผัดโหระพา เนื้อสันใน เป็นเมนคอร์ส ตามด้วยเบอร์เกอร์ สลัด พาสต้า อาหารทานเล่น และของหวาน ที่ค่อนข้างคุ้มค่าคุ้มราคากับคุณภาพอาหารที่เราได้รับเลยทีเดียว
Junker & Bar
แคชวลไดน์นิ่งที่เสิร์ฟจังก์ฟู้ดคุณภาพและบาร์จินแห่งนี้เป็นสถานที่ที่คุณสามารถมีมื้ออาหารดีๆและคืนที่เพลิดเพลินได้ บริเวณร้านมีทั้งหมด 2 ห้อง แบ่งเป็นโซนบาร์และร้านอาหารที่ตกแต่งในสไตล์รัสติกดิบๆแต่อบอุ่นและเป็นกันเอง ทุกโต๊ะจะมีเกมวางไว้ให้เราได้เล่นสนุกกับเพื่อนระหว่างดื่มได้ เช่น ตึกถล่ม เสียบถังโจรสลัด อูโน่ โอเอ็กซ์ไม้ ฯลฯ หากต้องการทานจังก์ฟู้ดวัตถุดิบคุณภาพดีในราคาไม่แพง ที่ร้านพร้อมเสิร์ฟทั้งเบอร์เกอร์ แซนวิช บันหมี่ เคซาดีญา สลัด พาสต้า อาหารทานเล่นต่างๆ ที่สร้างสรรค์และปรุงให้ทานคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆอย่างลงตัว โดยเมนูเครื่องดื่มเน้นจินเป็นหลัก จึงมีให้เลือกกว่าร้อยชนิด นอกจากนี้ยังมีค็อกเทล ม็อกเทล เบียร์สดจากแท็ป ซอฟต์ดริงก์ ให้เลือกจิบเพลินๆตามความชอบระหว่างฟังดนตรีสด โดยเพลงที่เล่นในร้านจะเป็นเฮ้าส์ ฟังก์ และบลูส์
Smalls
บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่ตรงหัวมุมซอยสวนพลู 1 สเน่ห์ของบรรยากาศในร้านจะเชิญชวนให้คุณอยากกลับมาที่นี่อีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตั้งแต่การตกแต่งร้านที่ได้สองเจ้าของ ช่างภาพชาวอเมริกันและศิลปินชาวฝรั่งเศส ช่วยกันสร้างสรรค์และคัดเลือกงานศิลปะหลากหลายประเภทและภาพถ่ายเจ๋งๆมาติดที่ร้านจำนวนนับไม่ถ้วน ไม่เพียงแต่ของตกแต่งร้านเท่านั้น เพราะเฟอร์นิเจอร์ บาร์ ผ้าม่าน ล้วนแล้วแต่มีที่มาที่ไปและเรื่องราวน่าสนใจแฝงไว้ทั้งสิ้น อีกสิ่งที่ทำให้บาร์แห่งนี้น่าสนใจคือ ความตั้งใจที่อยากให้เพลงในร้านมีสไตล์แตกต่างจากที่อื่น ในแต่ละวันจะมีดีเจ วงดนตรีสด ศิลปิน มาเล่นเพลงเพราะๆให้ฟังอย่างเพลิดเพลินโดยไม่ซ้ำกันเลยก็ว่าได้ โดย พุธ-เพลงแจ๊ส พฤหัสบดี-อิเล็กทรอนิกส์ฟังก์ ศุกร์-แจ๊ส ฟังก์ บรรเลงแซ็กโซโฟนและทรัมเป็ต เสาร์-อิเล็กทรอนิกส์ฟังก์ โอลด์สคูลร็อก ฮิปฮอป อาทิตย์-ดีเจพิเศษ และจันทร์-ฟังกี้ สำหรับอาหารที่ร้านเน้นกับแกล้มและอาหารทานเล่นคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์มากกว่า ส่วนเครื่องดื่มมีให้เลือกทุกประเภทตามความชอบ เช่น วิสกี้ ค็อกเทล เบียร์ ไซเดอร์ แอบแซ็งธ์ หรือไวน์
Hare Barber & Grooming
ถ้าหนุ่มๆกำลังหาร้านตัดผมและกรูมมิ่งครบวงจรอยู่ ฝั่งตรงข้ามซอยสวนพลู 2 มีร้านที่พร้อมให้บริการ Hare Barber & Grooming ตกแต่งในสไตล์เรียบง่าย เมื่อเข้าไปจะเห็นรถมอเตอไซค์คันโตสีแดง-ดำสุดเท่ และภาพวาดบนฝาผนังรูปกระต่ายกล้ามโตทำให้ร้านดูเป็นกันเอง บริการที่มีทั้งหมดได้แก่ ตัดผม ออกแบบหนวดเครา ตัด-โกนขนบนใบหน้า นวดตัว ดูแลเล็บมือ-เท้า และแว็กซ์ขน โดยมีราคาตั้งแต่ 200-25,000 บาท นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมที่ร้านผลิตเองอีกด้วย หากลูกค้าคนไหนกำลังเข้ารับบริการแล้วกระหายน้ำ ก็มีเครื่องดื่มประเภทซอฟต์ดริงก์เย็นๆ รวมถึงคราฟต์เบียร์หลายยี่ห้อให้บริการ
Kutai
ต้องบอกก่อนว่าร้าน Kutai ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยสวนพลู 1 แห่งนี้ ปิดให้บริการในวันอาทิตย์ แต่อยากให้ทุกคนได้ลองสัมผัสบรรยากาศสบายๆที่ไม่เหมือนใคร ร้านโดดเด่นด้วยการตกแต่งในสไตล์บีชบาร์ แฝงกลิ่นอายรัสติกเล็กน้อย ภายในร้านมีทั้งหมด 2 ชั้น 3 โซน บริเวณชั้นหนึ่งตกแต่งในโทนสีฟ้า-ขาว ตกแต่งด้วยม่านหอย ภาพวาด ป้ายวินเทจ และต้นไม้ล้อมรอบ ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก มีทั้งส่วนเอาท์ดอร์และอินดอร์ บริเวณชั้นสองเน้นโทนสีส้ม-แดง ดูสนุกสนานมากขึ้น มีทั้งโซฟาและเก้าอี้บีนแบ็กที่สามารถนั่งดื่มและกินได้อย่างสบายๆ เมนูอาหารเป็นฝรั่งเศส-ไทยฟิวชัน วัตถุดิบหลักที่ใช้เป็นอาหารทะเลทั้งหมด โดยเฉพาะหอยแมลงภู่ ที่นำมาปรุงหลากหลายรูปแบบ เช่น หอบแมลงภู่ในไวน์ขาว ครีมซอส ต้มยำ เบียร์ หรือมะเขือเทศ (399 บาท/หม้อ) นอกจากนี้ยังมีสลัด พาสต้า และสเต็กให้เลือกทาน สามารถตบท้ายด้วยของหวานและเครื่องดื่มเย็นๆอย่างค็อกเทล เบียร์สด หรือไวน์ ก็เป็นการจบมื้ออาหารที่ลงตัว
ไปสำรวจร้านรวงน่าสนใจที่แฝงตัวอยู่ตามตรอกซอยต่างๆ ในกรุงเทพฯ กันต่อวันอาทิตย์หน้า ณ ย่านสุดโปรดของเราตามลิงก์บทความของ Siam2nite ด้านล่างนี้ได้เลย!
- เที่ยวครบจบซอยใน 1 วันกับ #SundayWellSpent ซอยงามดูพลี!
- #SundayWellSpent ซอยร่วมฤดี ย่านเพลินจิตมีอะไรให้ทำภายใน 1 วันบ้าง?
- #SundayWellSpent ชวนเพื่อนไปตระเวนหาอะไรทำที่ซอยสวัสดี (สุขุมวิท 31) ในวันอาทิตย์กันดีกว่า!
- #SundayWellSpent โกยความสุข 12 ชั่วโมงในวันอาทิตย์ ณ ซอย สุขุมวิท 49
- ซอกแซกย่านญี่ปุ่น ตุนความสุข ณ ซอยสุขุมวิท 33 กับ #SundayWellSpent
- #SundayWellSpent เดินเล่นซอยนานา ย่านเยาวราช ตั้งแต่เช้าจรดค่ำกัน!
- #SundayWellSpent ย่านธุรกิจ ‘สาทร’ ซอย 10, 11 และ 12 มีอะไรให้ทำในวันอาทิตย์บ้าง?
- #SundayWellSpent ตะลอนย่านฮิปที่ซอยอารีย์
- #SundayWellSpent พักผ่อนร้านโน้น…นั่งชิลร้านนี้ ที่ซอยหลังสวน