บทสัมภาษณ์พิเศษกับ gCircuit
จากปาร์ตี้เล็กๆ ที่มีคนมาร่วมงานเพียงประมาณ 1,500 คนในปี 2007 เป็นเวลามากกว่า 10 ปี มาแล้วที่ gCircuit ค่อยๆ เติบโตขึ้นมา จนกลายเป็นงานปาร์ตี้เกย์ระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโซนเอเชียไปแล้วในปัจจุบัน ระหว่างช่วงวันหยุดสงกรานต์ของทุกๆ ปี มีเกย์จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมากกว่า 50 ประเทศหลั่งไหลมาสู่เมืองกรุงเทพเพื่อร่วมงาน gCircuit ทำให้งานนี้กลายเป็นปาร์ตี้ฟอร์มยักษ์ประจำปีของชาวเกย์ไปแล้ว วันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับสองผู้ก่อตั้ง คุณทอมและคุณอุ้ย หลังจากเพิ่งปิดฉากงาน gCircuit ครั้งที่ 12 ไปด้วยความสำเร็จแบบท้วมท้น
ก่อนอื่นเลยช่วยเล่าประวัติให้กับเราสักนิด คุณสองคนไปเจอกันได้ยังไง? gCircuit นั้นมีความเป็นมายังไง? แล้วคอนเซ็ปต์ของ gCircuit นั้นเริ่มต้นมาจากอะไร?
ทอม: เริ่มจากเรื่องของพวกเราก่อนละกัน เราพบกันครั้งแรกประมาณ 19 ปี ที่แล้ว ตอนนั้นผมอายุ 22 ปี ส่วนอุ้ยก็ 32 ปี ช่วงนั้นเป็นช่วงวันหยุดพักร้อนระหว่างที่ผมกำลังศึกษาอยู่ที่ NYU และเป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางมาเมืองไทย ในคืนวันสุดท้ายก่อนกลับผมก็ได้พบกับอุ้ย วันต่อมาเราได้มีโอกาสไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน เรียกว่าเป็นเดทครั้งเดียวและครั้งแรกของเราก็ได้ หลังจากนั้นผมต้องบินกลับบ้านที่สิงคโปร์และกลับไปเรียนต่อ อุ้ยก็บินตามไปอยู่ด้วยกัน 1 เดือนที่นิวยอร์ก แล้วอุ้ยก็ตัดสินใจที่จะอยู่ต่อไปตลอดเลย ผมจำได้ตอนนั้นมีคลับเกย์ที่ดังๆ เพียงสองร้านชื่อว่า Roxy และ Limelight เราไปด้วยกันตลอดทุกสุดสัปดาห์ มันทำให้ผมได้สัมผัสและคุ้ยเคยกับวงการไนท์ไลฟ์ของชาวเกย์มากขึ้น ประเทศสิงค์โปร์ในตอนนั้นยังไม่ค่อยเปิดรับเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ ถึงในตอนนั้นเราสองคนยังไม่ได้คิดเรื่องจัดงานปาร์ตี้หรืออะไร แต่ช่วงเวลาในนิวยอร์กก็ช่วยเปิดโลกเรามากขึ้น และทำให้เราเข้าใจความชอบด้านการจัดงาน ดนตรี และโปรดักชั่นของกลุ่มเกย์เป็นอย่างดี
มันไม่ง่ายเลยนะครับกว่าจะถึงวันนี้ มีแต่อุปสรรคเลยก็ว่าได้ เราเคยถึงกับลองเปิดร้านอาหารแต่มันก็ไม่เวิร์ค จริงๆ แล้ว gCircuit เพิ่งเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ทีมผู้จัดงานเกย์เจ้าแรกของเอเชียจากประเทศสิงคโปร์อย่าง Nation ปิดตัวลงไป และเรารู้สึกว่าอยากจัดปาร์ตี้ที่มีขนาดและคุณภาพเทียบเท่ากับสิ่งที่เราเจอมาในอเมริกา เราสองคนเลยตัดสินใจทำเองซะเลย
ตอนที่เราเริ่มทำใหม่ๆ เราไม่ได้คิดไปไกลถึงระดับโลก เราเพียงแต่ยึดถือความคิดที่อยากให้ปาร์ตี้ของ gCircuit เกิดขึ้นในสถานที่จัดงานที่พร้อมเพียงและดูยิ่งใหญ่อลังการเท่านั้นเอง ผมยังคิดอยู่เลยว่าอยากจะลองเอาสิ่งที่ Nation ไม่ได้ทำในสิงคโปร์มาทำให้สำเร็จที่นี่ให้ได้
พวกคุณเริ่มก่อตั้งบริษัทนี้ในปี 2007 ตั้งแต่นั้นมาเหล่างานอีเว้นท์ที่พวกคุณจัดก็ได้เติบโตขึ้นและได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างรวดเร็วมาโดยตลอด มองย้อนกลับไปสู่เส้นทางแห่งการเติบโตที่ผ่านมา มีความทรงจำอะไรกับ gCiruit ที่พวกคุณชอบเป็นพิเศษไหม?
ยังไงก็ต้องยกให้งานครั้งแรกที่พวกเราจัด เพราะเราไม่คิดเลยว่าจะมีคนมามากขนาดนั้นและทุกคนก็บอกว่าชอบมันมากๆอีกด้วย ในตอนนั้นมีแต่คนคิดว่าเราเป็นบริษัทใหญ่ที่มีพนักงานกว่า 50 คน แต่จริงๆแล้วมีแต่ผมกับอุ้ยเท่านั้นเลย เรานึกไม่ถึงจริงๆว่าพวกเราจะเติบโตมาได้ขนาดนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมายในเมืองไทยไม่ว่าจะเรื่องการประท้วง หรือ นํ้าท่วม แต่มีเหตุการหนึ่งที่พวกเราจะไม่มีวันลืมเลย ในปีนึงเราได้ Zen เป็นสถานที่จัดงาน แต่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่นั้นเพียง 1 อาทิตย์ก่อนวันงาน เราจึงต้องออกหาที่จัดงานใหม่ทันทีภายในเพียงหนึ่งอาทิตย์ เรารู้สึกโชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากคนรอบข้างเสมอเวลาที่ลำบาก เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ผมเครียดเกือบที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ แต่ก็ผ่านพ้นไปได้เพราะเพื่อนๆที่ไม่เคยทิ้งกัน จำได้เลยว่ามีเพื่อนคนหนึ่งพูดตลกๆว่า “ไม่มีอะไรในโลกนี้จะหยุดเกย์จากการปาร์ตี้ได้หรอก!”
สิ่งหนึ่งที่ทำให้งานของพวกคุณแตกต่างจากงานอื่นๆ นั้นต้องยกให้ความใส่ใจในรายละเอียดที่พวกคุณใส่เข้าไปในเรื่องของแฟชั่นและแสงสีที่สวยงาม และเหมาะกับคอนเซ็ปต์มากที่สุด อะไรคือแรงบัลดาลใจที่อยู่เบื้องหลังเหล่าไลฟ์โชว์ที่เกิดขึ้นภายในอีเว้นท์ต่างๆ พวกคุณมีส่วนในการคิดด้านครีเอทีฟทั้งคู่เลยหรือเปล่า?
ทอม: ผมเนี้ยแหละตัวครีเอทีฟเลย
อุ้ย: เราใช้เวลาไปกับการเลือกธีมสำหรับแต่ละงาน ตัวอย่างเช่น เรารู้ว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ชอบแต่งตัว เราก็จะเลือกธีมง่ายๆ เชิญชวนให้พวกเขาแต่งตัวกันเยอะๆ
ทอม: ผมชอบดูหนังมาก คงพูดได้ว่าแรงบัลดาลใจต่างก็ได้รับมาจากหนังพอสมควร ทั้งหนังระดับ Oscar และหนังที่ดังจนคนดูล้นโรงด้วย
อุ้ย: อย่าลืมพวกหนังเกาหลีกับซีรีย์เกาหลีด้วยละ…
ทอม: ผมจะชอบยกตัวอย่างอะไรสักอย่างที่ใหม่ๆ อินเทรนต์ แล้วทีมของผมก็จะแบบ “เอ๊ะ เขารู้ได้ยังไง?” ตกใจตลอดเวลาผมรู้เรื่องและอัพเดทในเรื่องวัฒนธรรมประชานิยมเสมอ มันช่วยด้านครีเอทีฟฝั่งการตลาดมาก เหมือนกับที่ผมเคยไปเห็นปาร์ตี้และไนท์คลับมามากมาย ผมเลยรู้ว่าอะไรที่ดีหรือไม่ดี ทั้งดนตรีที่ดีและสถานที่จัดงานที่ดี
คุณต้องการขยาย gCiruit ให้ไปไกลถึงต่างประเทศในอนาคตไหม?
ทอม: มีคนเคยมาเสนอเราด้วยนะ เราไม่เคยปิดกั้นตัวเองจากความคิดนั้นเลย เพียงแต่เราต้องการหาคนที่เข้ากับเราได้และสามารถเชื่อใจได้ในระดับหนึ่ง หากขยายแล้วเราต้องเปลี่ยนรูปแบบตามพวกงานที่ยุโรปหรืออเมริกาเราก็ยินดีทำ แต่ไม่ได้เป็นถึงเป้าหมายที่ตายตัวหรืออะไรแบบนั้น ผมอยากทำให้งานของพวกเราออกมาได้ดีที่สุดก่อน ผมชอบไอเดียที่งานเราจัดขึ้นเป็นพิเศษตอนช่วงสงกรานต์และความที่เราไม่ได้เป็นแบรนด์ที่ชื้อมาจากที่อื่น ผมภูมิใจที่เราสร้างมันขึ้นมาจากศูนย์และสร้างฐานให้มันมั่นคงมาตลอด ผมดีใจมากจริงๆ
การแต่งงานเพศเดียวกันยังถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศไทย พวกคุณมีความเห็นอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้ และมีเหตุการณ์อะไรที่คุณพบกับตัวเองในอดีตที่อยากจะแบ่งปันไหม?
ทอม: ในตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากนะครับ ผมคิดว่าถ้าเวลาคนสองคนรักกันอยากอยู่ด้วยกันแล้ว เรื่องการแต่งงานไม่น่าจะเป็นเรื่องที่สำคัญขนาดนั้นแล้ว แต่เวลาต้องสร้างชีวิตด้วยกัน ทั้งชื้อคอนโด บ้าน รถ ด้วยกัน มันจะมีปัญหาเรื่องทางกฎหมายเข้ามา เพราะพอไม่ได้แต่งงานเขาก็จะไม่ใช้คู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย เราชื้อคอนโดด้วยกันไม่ได้ เพราะเราแต่งงานกันไม่ได้ และนั่นก็เป็นเพราะเราเป็นคู่เกย์ ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ทุกวันนี้ผมกล้าที่จะพูดถึงมันมากขึ้นและเริ่มยอมรับว่าเป็นปัญหามากกว่าแต่ก่อน มันคงมีวิธีในการหลีกเลี่ยงกฎหมายแหละครับ แต่ทำไมเราต้องทำแบบนั้นล่ะ ปัญหาทั้งหมดจะหมดไปถ้าเราแต่งงานกันได้ แต่หลายคนกลับยังมองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงกัน ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่หากผมเป็นอะไรไป ก็อยากให้คนที่รัก (อุ้ย) ได้รับทั้งเงินและของทั้งหมดที่ผมสร้างขึ้นมาไปและได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ผมไม่ได้อยากแต่งเพียงเพราะอยากแต่งงาน ผมอยากมีสิทธ์ในการปกป้องคนที่รักเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ครับ
เหล่าสาวกของ gCiruit คงรอกันไม่ไหวแล้วสำหรับงาน SK2019 พวกคุณมีอะไรที่พอจะบอกเราเกี่ยวกับงานของ gCiruit ในปีหน้าได้ไหม?
ทอม: ผมตั้งใจทำอะไรใหม่ๆ กับงานที่เราจัดเสมอ ผมอยากให้มันเกิดขึ้นในสถานที่แห่งใหม่และต้องการที่จะนำเสนอคอนเซ็ปต์ใหม่ๆให้แฟนๆ ของเราในทุกปี อย่างหนึ่งที่ผมยังไม่ค่อยแน่ใจว่าจะยกระดับขึ้นอีกยังไงคือเรื่องของโปรดักชั่น ทีมงานของผมมักจะบอกผมเสมอว่าผมชอบทำโปรดักชั่นเกินตัวไปมาก มากจนเริ่มจะขาดทุนเลยทีเดียว ผมจะชอบถามว่า “พอแล้วจริงๆเหรอ?” ทีมงานก็จะตะโกนกลับมาเลยว่า “พอแล้ว!” สำหรับ SK2019 ผมบอกได้เพียงว่ามันจะไม่เหมือน SK12 อย่างแน่นอนและจะต้องเป็นอะไรที่พวกเราไม่เคยทำมาก่อนด้วย อย่าลืมติดตามนะครับ
และนี่คือเรื่องราวของ gCircuit จากสองผู้ก่อตั้ง คุณทอมและคุณอุ้ย ซึ่งปาร์ตี้ในปีหน้าจะยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ถ้าคุณกำลังมองหาอะไรทำในช่วงสงกรานต์อยู่ gCircuit มีทุกอย่างที่คุณต้องการ ทั้งผู้คน การแสดง โปรดักชั่น ระบบแสง และปาร์ตี้ อย่าพลาดปาร์ตี้ที่เรียกได้ว่าฮอตสุดๆ ของปีที่สามารถมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้คุณได้ ติดตาม gCircuit ผ่านช่องทางด้านล่างนี้ เพื่อรับข้อมูลข่าวสารและประกาศต่างๆ เกี่ยวกับอีเว้นท์ครั้งต่อไป!
อย่าลืมติดตาม gCircuit ผ่านทางช่องทางด้านล่าง สำหรับข่าวคราว และอัพเดทล่าสุดเกี่ยวกับงานครั้งต่อไป!