Google Daydream VR Headset: โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้
Virtual Reality หรือโลกเสมือนจริง เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ออกสู่ตลาดมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ด้วยราคาที่ยังถือว่าค่อนข้างสูง และกินเสปคอุปกรณ์พอสมควร ทำให้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายสำหรับคนทั่วไปเท่าไหร่ เช่น “PlayStation VR” ที่มีราคา 399$ และต้องใช้งานคู่กับ PlayStation4 สำหรับชาว PC ก็จะเป็น “Oculus Rift” (โดย Facebook) ราคา 599$ หรือ “HTC Vive” ที่มีราคาถึง 799$ ทำให้จนถึงตอนนี้มีแค่ Gear VR จาก Samsung มีราคาที่เป็นมิตรที่สุดอยู่ที่ 100$ แต่สามารถใช้ได้เฉพาะกับสมาร์ทโฟนจาก Samsung บางรุ่นเท่านั้น
แพงไปหมด! มาทางนี้ดีกว่า Google Daydream ให้คุณพุ่งเข้าสู่โลกแห่ง VR ได้ในราคา 80$ เท่านั้น! การที่จะใช้งานเครื่อง Daydream นี้ ผู้ใช้จะต้องใช้โทรศัพท์มือถือที่รองรับกับตัว Daydream เท่านั้น ซึ่งตอนนี้มีเพียง “Google Pixel” สมาร์ทโฟนจาก Google ที่รองรับ แต่ยังไงก็ตามคาดว่าจะมีการปล่อยรายชื่อสมาร์ทโฟนที่รองรับออกมาเพิ่มเติมเร็วๆนี้
Google Daydream ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ มีน้ำหนักเบา ทำงานแบบไร้สาย ควบคุมผ่านที่ควบคุมแบบไร้สายซึ่งสามารถใช้สั่งงานต่างๆในโลก VR ได้
สวมใส่สบายเพราะทำขึ้นจากผ้าที่เบาและระบายอากาศได้ดี การใช้งานก็เพียงแค่เปิดด้านหน้าของตัวเครื่องออก และใส่มือถือเข้าไป จากนั้นก็สวมเข้าที่หัวได้เลย ไม่ต้องห่วงว่าเข้าไปในโลก VR แล้วจะงงว่าอะไรเป็นอะไร เพราะเมื่อเริ่มใช้งานจะมีระบบแนะนำการใช้งานให้เราทำความเข้าใจก่อนเป็นเวลา 5 นาที
สำหรับแอพพลิเคชันที่เห็นจะน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น YouTube VR เนื่องจากทุกวิดีโอที่อยู่ในนั้นสามารถชมแบบ VR 360 องศาได้ เรียกได้ว่าพุ่งเข้าไปอยู่ในวิดีโอกันเลย
นอกจากนั้น คุณยังสามารถไปชมพิพิธภัณฑ์ เมืองต่างๆ หรือแม้กระทั่งดาวเคราะห์ที่อยู่แสนไกลได้ผ่าน Google Street View, Google Arts & Culture VR และ Star Chart VR หรือจะดูหนังเหมือนดูผ่านจอยักษ์ด้วย Google Play Movies & TV และ Netflix
ในตอนนี้มีเกมที่เล่นผ่านระบบนี้ได้อยู่ 3 เกมด้วยกันคือ Hunters Gate (arcade shooter), Wonder Glade (carnival games) และ Mekorama (puzzle)
คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีเกม และแอพพลิเคชันเปิดัวตามมาอีกกว่า 40 เกม รวมถึงเกม arcade shooter อย่าง “Gunjack” เกมบาสเก็ตบอล “Baskhead” เกมรถแข่ง “Need For Speed” เกมแอ็คชัน/วางแผน “Underworld Overlord” และเกมยิงปืนแบบ first-person อย่าง “Unreal”