ที่สุดแห่งวงการเกมเรโทร: NES Classic ปะทะ Sega Mega Drive Classic
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในวงการเกมมาเป็นสิบปีแล้วล่ะก็ คงคุ้นเคยกับ เครื่องเกม 8-bit NES จากค่าย Nintendo และ 16-bit Mega Drive จากค่าย Sega เป็นอย่างดี เพราะในสมัยนั้น สองค่ายนี้ถือได้ว่าเป็นมวยคู่ใหญ่ระดับต้นแห่งวงการเกมเลยทีเดียว
สำหรับหลายๆคนที่กำลังโหยหาถึงความรู้สึกของวันเก่าๆ กับเกม 2 มิติที่ดูผิวเผินแล้วภาพก็ไม่ได้สวยนัก แต่เรียบง่ายและเต็มไปด้วยความสนุกของเกม วันนี้ทั้งสองนักชกแห่งอดีตได้กลับสู่สังเวียนอีกครั้งให้แฟนๆได้หายคิดถึง ในรูปแบบที่เหมือนเดิม แต่ลดขนาดลง
NES Classic Edition
NES Classic Edition เป็นเวอร์ชั่นจิ๋วของเครื่อง NES รุ่นพ่อของมันที่ออกวางจำหน่ายในปี 1985 ตัว Classic Edition นี้มีขนาดเล็กกว่า 1 ใน 4 เมื่อเทียบกับ NES รุ่นแรก และกินพื้นที่น้อยกว่าเกมๆเดียวของรุ่นแรกเช่นกัน
ตัวเครื่องได้ฝังเกมสุดคลาสสิค 30 เกมมาด้วย เช่น Super Mario, Zelda, Donkey Kong, Castlevania, Final Fantasy และ Mega Man (ไม่สามารถใช้ตลับเกมจากเครื่อง NES ได้)
ตัวเครื่องใช้พลังงานผ่านสาย MicroUSB และให้ภาพที่ความละเอียด 1080p ผ่านระบบ HDMI ถึงแม้ว่า NES Classic มีจุดยืนที่ความคลาสสิค แต่ตัวเครื่องก็ยังได้รับการพัฒนาในบางส่วนเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้เล่น เช่น การเลือกปรับโหมดหน้าจอได้ 3 โหมด หรือ ความสามารถในการเซฟเกมได้ถึง 4 สล็อตต่อเกม
ตัวเครื่องมาพร้อมกับคอนโทรลเลอร์ หรือที่เราเรียกกันว่าจอยเกม แบบมีสาย 1 จอย สาย HDMI และอะแดปเตอร์
Sega Mega Drive Classic
ตัวเครื่อง Sega Mega Drive รุ่นดั้งเดิมนั้นมีวางจำหน่ายออกมาเมื่อปี 1988 สำหรับรุ่น Classic นี้สร้างขึ้นโดย ATGames ซึ่งเป็นผู้ผลิตที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง และเช่นเดียวกับตัว NES คือได้มีการลดขนาดของตัวเครื่องลง และปรับปรุงหน้าตาเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความทันสมัยเข้าไป
ตัวเครื่องมาพร้อมกับเกมที่ฝังลงไปแล้ว 40 เกม เช่น Sonic, Mortal Kombat, Golden Axe และ Shinobi นอกจากนี้ยังมี โบนัสเกมให้อีกถึง 40 เกมด้วยกัน สำหรับความพิเศษของเจ้ารุ่น Classic นี้คือมันสามารถใช้งานร่วมกับตลับของ Sega Mega Drive หรือตัวเครื่องรุ่นดั้งเดิมได้นั่นเอง
ตัวเครื่องมาพร้อมกับคอนโทรลเลอร์ หรือจอยเกม แบบไร้สาย 2 จอย สาย AV และสายพาวเวอร์