เซลฟี่ล้ำๆไม่ซ้ำใครกับ Hover - กล้องที่จะบินตามไปเซลฟี่คุณได้ทุกที่
ยุคสมัยแห่งการเซลฟี่ได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงปี 2000 พร้อมๆกับ MySpace และตามมาด้วยนวัตกรรมกล้องหน้าของโทรศัพท์มือถือในช่วงปี 2010 ที่ทำให้การเซลฟี่ยิ่งได้รับความนิยมขึ้นไปอีก ถึงขั้นที่ว่าในปี 2013 ดิกชันนารีชื่อดังอย่าง Oxford English Dictionary ต้องยกให้คำว่า “selfie” เป็นคำแห่งปีเลย ตามมาด้วยสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ “ไม้เซลฟี่” ที่ได้รับการยกย่องจากนิตยาสาร Time เป็น หนึ่งใน 25 สุดยอดสิ่งประดิษฐ์แห่งปี 2014
ถ้าคุณกำลังคิดว่าประวัติศาสตร์แห่งการเซลฟี่ คงสุดทางแค่ที่ไม้เซลฟี่แล้วล่ะก็ ผิดเลย! เตรียมบอกลาความลำบากของการถือไม้เซลฟี่ไปได้เลย เพราะต่อไปนี้ มันจะบิน!
Hover Camera Passport คือกล้องเซลฟี่ที่บินได้ตัวแรกของโลก ที่ใช้งานได้จริงโดยกลุ่มลูกค้าทั่วๆไปหรือพวกเราๆนี่แหละ ตัวกล้องใช้งานง่าย พกพาสะดวก และปลอดภัย โดยเจ้า Hover นี้เมื่อพับแล้วจะมีขนาดประมาณม้วนวิดีโอเทป และมีนำ้หนักรวมแบตเตอรี่แล้ว เพียง 242 กรัมเท่านั้น!
ภายนอกทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ ที่ทนทาน และยังมีกรอบล้อมรอบตัวใบพัด เพื่อให้เราสามารถใช้มือเปล่าจับมันได้กลางอากาศ โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าใบพัดจะบาดมือเราด้วย ความเร็วสูงสุดที่เจ้าโดรนตัวนี้ทำได้อยู่ที่ 8 เมตร/วินาที หรือประมาณ 27 กิโลเมตร/ชั่วโมง
สำหรับตัวกล้องนั้น มาพร้อมกับไฟแฟลชในตัวสำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย และเมมโมรี่ความจุ 32GB ที่ติดมากับตัวกล้อง ความละเอียดของภาพถ่ายอยู่ที่ 13MP และ 4k UltraHD สำหรับสาวกวิดีโอ ซึ่งถือว่าคมกริบๆ สำหรับโหมดต่างๆของกล้องก็ล้ำไม่แพ้ใคร เช่น “360 spin” ที่จะถ่ายวิดีโอคุณและบรรยากาศรอบๆตัวไปด้วย หรือโหมด “Orbit” ที่ตัว Hover จะบินไปรอบๆคุณพร้อมกับถ่ายวิดีโอไปด้วย เรียกว่าพอปล่อยมันบินปุ๊บ คุณก็เผลอปั๊บได้เลย
นอกจากโหมดอัตโนมัติต่างๆแล้ว เรายังสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือของเรากับตัวกล้องผ่านระบบ Wi-Fi เพื่อควบคุมเองได้ด้วย โดยจะทำงานร่วมกับแอพพลิเคชันระบบ IOS ซึ่งจะทำให้คุณสามารถควบคุมทิศทางการบินของกล้องได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะบินสูง ต่ำ ซ้าย ขวา หน้า หลัง หรือแม้กระทั่งการปรับมุมมองของกล้อง การควบคุมผ่าน Wi-Fi นี้มีระยะจำกัดอยู่ที่ 20 เมตร และนอกจากการเชื่อมต่อแบบไร้สายแล้ว จะใช้งาน USB 3.0 ที่มีหัว micro-USB เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ก็สามารถทำได้เช่นกัน
โดรน Hover นี้จะมีเซ็นเซอร์อยู่ที่ด้านล่าง รวมทั้งระบบโซนาร์ เพื่อใช้ตรวจวัดระดับการบิน ระยะห่างระหว่างตัวโดรนกับพื้น ทำให้ปลอดภัยหายห่วงที่จะใช้งานโดรนในที่ร่ม อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าเพื่อกำหนดความสูงของระดับการบิน หรือตั้งค่าให้บินติดตามคนก็ทำได้ ด้วยระบบจดจำใบหน้าและร่างกายของกล้อง ล้ำไปอีก! มาถึงเรื่องสำคัญคือแบตเตอรี่ สำหรับเจ้าโดรนจิ๋วนี้ถ้าหากชาร์จเต็มที่จะสามารถบินได้ประมาณ 8 นาที หรือ ประมาณ 10 นาทีถ้าไม่มีลม โดยตัวแบตเตอรี่สามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วจากด้านบนของโดรน
ภายในชุด ผู้ซื้อจะได้รับตัวโดรน แบตเตอรี่ 2 ก้อน ที่ชาร์จที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้พร้อมกับ 2 ก้อน ถุงผ้ากันรอยขีดข่วน กระเป๋ากันกระแทกพร้อมสายห้อยสำหรับพกพา ใบพัดสำรอง และอุปกรณ์ช่วยในการถอดชิ้นส่วนต่างๆ
แน่นอนว่า โปรเจคโดรนเซลฟี่จิ๋วสุดล้ำนี้ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี โดยมียอดร่วมลงทุนถึง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และมีการเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในราคา 599 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 21,000 บาท ใครสนใจสามารถสั่งซื้อได้แล้วผ่านเว็บไซต์โดยตรงเท่านั้น สำหรับชาวเซลฟี่บ้านเรา มีค่าจัดส่งมาที่ประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 40 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 1,500 บาท