ไปไหนมาไหนคนเดียวอันตราย ให้แอพ Companion ตามไปส่งดีกว่า
ทุกคนต้องเคยมีประสบการณ์การกลับบ้านดึกๆคนเดียว หลังจากเพิ่งผ่านปาร์ตี้หนักๆมาใช่มั้ย โดยเฉพาะผู้หญิงนี่ ไหนจะมืด จะเปลี่ยว อะไรๆก็ดูน่ากลัวไปหมด ยิ่งสมัยนี้มีข่าวคนเมา คนขับรถโดยสารทำร้ายร่างกายกันตอนกลางคืนให้เห็นอยู่บ่อยๆด้วย น่าเป็นห่วงจริงๆ
มีหลายครั้งที่เราห่วงคนที่เรารักมากกว่าเรา บางทีก็รออย่างใจจดใจจ่อ ต้องมานั่งลุ้นว่าเพื่อนถึงบ้านรึยัง ระหว่างทางเป็นอะไรมั้ย บางทีก็โทรตามแล้วตามอีก จนถูกอีกฝ่ายมองว่าเป็นคนน่ารำคาญก็ต้องยอม ทำไงได้ ก็โลกนี้มันอยู่ยาก!
ข่าวดีก็คือ เรามีแอพพลิเคชั่นที่ช่วยในการติดตามความปลอดภัยของคนที่เรารักได้เกือบทุกฝีก้าว โดยที่ไม่ต้องทำตัวเป็นคนน่ารำคาญอีกต่อไป โดยวิธีนี้ ทั้งคุณและคู่หูของคุณสามารถดูแลความปลอดภัยของกันและกันได้ตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง ไปจนถึงจุดหมายได้โดยที่ไม่ต้องตัวติดกันตลอดเวลา แอพพลิเคชั่นนี้มีชื่อว่า Companion นั่นเอง
Companion เป็นแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานง่าย และได้ผลจริง โดยเริ่มจากการเลือกใครก็ได้ที่เราอยากจะให้แอพนี้ช่วยตาม (จะเลือกแค่หนึ่งคน หรือทีละหลายๆคนก็ได้) ซึ่งแอพพลิเคชั่นจะเรียกคนที่เราเลือกนี้ว่า เป็น companion ของเรา หรือก็คือผู้ร่วมทางนั่นเอง หลังจากนั้นก็เลือกจุดหมายของเพื่อนร่วมทางของเราว่า เค้าจะต้องเดินทางไปที่ไหนเช่น บ้าน หรือที่พักต่างๆ สุดท้ายก็เลือกวิธีการเดินทาง เช่น รถยนต์ จักรยาน หรือรถโดยสารประจำทาง แค่นี้ก็เรียบร้อย
คนที่มีชื่ออยู่ในสมุดโทรศัพท์ของเราทุกคนสามารถเป็น companion หรือผู้ร่วมทางของเราได้ทั้งหมดโดยที่คนๆนั้นไม่จำเป็นต้องมีแอพพลิเคชั่น Companion ในมือถือเลย ซึ่งถ้าคนที่เราเลือกไม่ได้ลงแอพพลิเคชั่นไว้ ทาง Companion ก็จะส่งลิงค์แผนที่การเดินทางให้ ผ่านทางข้อความมือถือ แต่ถ้ามีแอพพลิเคชั่น ก็จะได้รับการแจ้งเตือนขึ้นมาแบบปกติ เหมือนการแจ้งเตือนของ Facebook หรือ Twitter นั่นเอง
Companion จะตามดูการเคลื่อนไหวของคุณแบบตลอดเวลา ทำให้เราสามารถดูได้ตลอดว่าตอนนี้ผู้ร่วมทางของเราถึงตรงไหนแล้ว และยังสามารถกดปุ่มจากในแอพพลิเคชั่น เพื่อโทรศัพท์หาผู้ร่วมทางได้ทันทีอีกด้วย
อ้าว แบบนี้เวลาใครอยากรู้ว่าเราอยู่ที่ไหนก็กดดูได้ตลอดเวลาเลยสิ หลายคนอาจจะคิดแบบนี้ แต่เรื่องนี้ตัวแอพพลิเคชั่นได้ออกแบบมาอย่างดี โดยทุกๆครั้งที่เราจะเริ่มการใช้งาน Companion นั้น ผู้ใช้งานจะต้องกดเพื่ออนุญาตก่อนเสมอ เป็นการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และเช่นเดียวกัน ถ้าผู้ใช้งานอยากจะยกเลิกการติดตามเมื่อไหร่ล่ะก็ สามารถกดยกเลิกได้ตลอดเวลาเช่นกัน
ในขณะที่ผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่น Companion กำลังเดินทางอยู่ จะมีปุ่มให้กดอยู่สองปุ่มด้วยกัน โดยปุ่มแรกคือ “I Feel Nervous” (ฉันรู้สึกกังวล) ซึ่งเมื่อกดปุ่มนี้แล้วตัวแอพพลิเคชั่นจะเก็บข้อมูลพื้นที่โดยรอบไว้ เพื่อส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่นั้นๆทราบ ว่ามีคนที่เดินทางผ่านพื้นที่นี้แล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย ควรมีการพัฒนาหรือเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยด้วย ปุ่มที่สองคือปุ่ม “Call Police” (เรียกตำรวจ) ปุ่มนี้จะทำการเรียกไปยังตำรวจว่ามีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่น “SafeCheck” ซึ่งจะให้ผู้ใช้งานยืนยันว่าตอนนี้ได้เดินทางมาถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้ว ซึ่งถ้าจะกดปุ่มนี้ต้องใส่รหัสเข้าไปด้วย ปลอดภัยสุดๆ
นอกจากความปลอดภัยพื้นฐานทั้งหลายที่เราได้พูดถึงไปแล้ว ตัวแอพพลิเคชั่นยังมีระบบความปลอดภัยอื่นๆที่จะถือว่า ผู้ใช้งานกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายอีกด้วย เช่น เวลาผ่านมานานแล้วแต่เรายังไม่ถึงบ้าน เราเปลี่ยนทิศทางไปจากที่หมายที่ตั้งไว้ เราเดินทางในลักษณะที่วนไปวนมา หรือถ้าเราเสียบหูฟังอยู่แล้วหูฟังมีการถูกกระชากออกในระหว่างที่ใช้งาน เป็นต้น เมื่อแอพพลิเคชั่นพบเหตุการณ์ดังกล่าว มันจะแจ้งเตือนมาที่ผู้ใช้งานก่อน เพื่อให้ผู้ใช้งานกดยืนยันว่าตนเองปลอดภัยดี โดยจะต้องกดปุ่มยืนยันนี้ภายใน 15 วินาที ถ้าหากผู้ใช้งานไม่กดยืนยัน มันก็จะแจ้งเตือนไปยัง ผู้ร่วมทางของผู้ใช้งานทันที เพื่อให้อีกฝ่ายทราบว่าตอนนี้เพื่อนของเราอาจกำลังพบกับอันตราย
นอกจากนี้ยังมีโหมดที่ชื่อว่า “Wander Mode” ในกรณีที่ผู้ใช้งานไม่มีจุดหมายที่แน่นอน เช่น วิ่งออกกำลังกายเป็นต้น ผู้ใช้งานสามารถเลือกให้แอพพลิเคชั่นเริ่มทำงานเองเมื่อเราเคลื่อนไหว หรือเริ่มเฉพาะหลังเวลาที่กำหนดก็ได้
ข้อดีอีกข้อของเจ้าแอพลลิเคชั่นนี้ คือมันกินแบตเตอรี่โทรศัพท์ไม่มาก สามารถใช้งานได้จริง โดยจะใช้แบตเตอรี่เท่าๆกับแอพพลิเคชั่นทั่วไปเช่น Facebook, Twitter, Instagram หรือ Snapchat นั่นเอง