รวมแก้ว 6 แบบ และอุปกรณ์ค็อกเทลที่ต้องมีติดบ้านไว้
ดื่มที่บ้านก็ได้ฟีล ซื้อครั้งเดียวคือคุ้ม ใช้ได้นาน และได้หลายงานอีกด้วย จะมีแก้วสำหรับอะไรบ้าง ตามไปดูกันได้เลย!
การดื่มที่ดีจะต้องควบคู่ไปกับการมีแก้วที่เหมาะสมอีกด้วย แต่ละเครื่องดื่มก็จะมีแก้วเฉพาะ มีความแตกต่างกันไป เพื่อเพิ่มอรรถรสในการดื่ม สำหรับใครที่มีเวลา หรือมีไอเดียเตรียมของใหม่ ๆ เข้าบ้าน วันนี้เราเตรียมแก้ว และอุปกรณ์เริศ ๆ ไว้สำหรับรับแขก และเพื่อน ๆ ที่เจ้าบ้านอย่างเราต้องมีไว้
Champagne Glass (แก้วแชมเปญ)
แก้วแชมเปญ แก้วนี้มงลงงง ยืนหนึ่ง เพราะมีความดูหรู ดูแพง ใช้ได้ทุกงานฉลอง ส่วนใหญ่แล้วคุณผู้หญิงจะชอบเป็นพิเศษ ได้แก้วสวย ๆ ถือเป็นการเพิ่มออร่าขึ้นไปอีกขั้นนึงเลย
แก้วแชมเปญถือว่าเป็นแก้วทรงรีที่สุดในตระกูลแก้วไวน์ เรียกว่าทรง Flute ออกแบบมาเพื่อไม่ให้เสียรสชาติแชมเปญ และช่วยกักเก็บฟองแชมเปญได้ดีขึ้น ไม่ให้เสียรสชาติ ใช้กับ Sparkling Wine ได้เช่นกัน
Cocktail Glass (แก้วค็อกเทล)
แก้วค็อกเทล มีอยู่หลายรูปแบบ แตกต่างกันไปตามความคิดสร้างสรรค์ และความชอบส่วนบุคคล มีทั้งแบบหรูหรา เรียบง่าย ไปจนถึงแบบที่มีแค่เรากับเพื่อน ๆ ในกลุ่มเท่านั้นที่ใช้กัน
แก้วค็อกเทล (Cocktail Glass) แก้วนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะใช้งานได้ง่าย และบ่อย สามารถใช้ได้กับค็อกเทลส่วนใหญ่ ปากแก้วจะมีความกว้าง เพื่อให้ได้กลิ่นของค็อกเทลอย่างเต็มที่
แก้วมาร์ตินี่ (Martini Glass) ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับมาร์ตินี่ แต่ก็สามารถใช้กับค็อกเทลตัวอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน สามารถบรรจุปริมาณได้ที่ 3 - 6 ออนซ์ ใช้กับค็อกเทลที่ไม่ใส่น้ำแข็ง
แก้วคูป (Coupe Glass) เหมาะสำหรับเครื่องดื่มค็อกเทลแบบเย็น แต่จะไม่ใส่น้ำแข็งลงไป บางครั้งสามารถดื่มแบบ on the rock ได้ด้วย รูปทรงมนโค้ง ทำให้ดื่มได้สะดวกขึ้น ไม่ให้เครื่องดื่มหกง่าย
แก้วไฮบอล หรือ แก้วคอลลินส์ (Highball Glass or Collins Glass) เป็นแก้วทรงสูงมาตรฐาน สามารถบรรจุได้ 8 - 12 ออนซ์ เหมาะสำหรับเครื่องดื่มที่ไม่ซับซ้อน ความสูงของแก้วช่วยรักษาอุณหภูมิ และความสดชื่นของเครื่องดื่มไว้ สามารถใส่น้ำแข็งในแก้วได้ หากเป็นเครื่องดื่มที่ผสมหลายชนิดก็จะนิยมใช้แก้วนี้ในการเสิร์ฟ
Wine Glass (แก้วไวน์)
แก้วไวน์ มีติดบ้านไว้คุ้มค่าแน่นอน แต่ละแบบจะมีการใช้งานแตกต่างกันไป
แก้วไวน์ขาว (White Wine Glass) มีรูปทรงสูง และผอมกว่าแก้วไวน์แดง เพื่อไม่ให้ตัวไวน์มีการถ่ายเทอากาศที่เร็วเกินไป ใช้กับไวน์ขาวเบา ๆ เช่น Sauvignon Blanc
แก้วไวน์บอร์โดซ์ (Bordeaux Glass) รูปทรงสูงกว่าไวน์แดงทั่วไป แต่ตัวแก้วจะเล็กกว่าลงมาหน่อย ความสูงช่วยให้ได้รสที่เข้มข้น และรสชาติที่ดีขึ้นของตัวไวน์
แก้วไวน์เบอร์กันดี (Burgundy Glass) รูปทรงสั้นกว่า และตัวแก้วจะมีขนาดใหญ่กว่าแก้วไวน์บอร์โดซ์ นิยมใช้กับไวน์ไลท์บอดี้ ก็คือไวน์ที่มีแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 12.5%
Shot Glass (แก้วช็อต)
แก้วช็อต หรือที่เรียกกันว่า แก้วเป๊ก (Shot Glass) ด้านล่างแก้วจะมีขนาดที่หนา เพื่อรักษารสชาติของเครื่องดื่มเวลาที่ผู้ดื่มวางแก้วลง ส่วนใหญ่มักใช้กับแอลกอฮอล์ที่มีดีกรีสูง และไม่ค่อยแช่เย็น แก้วนี้ยังสามารถนำไปใช้ตวงในการผสมค็อกเทลได้อีกด้วย
Beer Glass (แก้วเบียร์)
แก้วเบียร์ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ
สำหรับไพนต์ (Pint) ขนาดยอดนิยมคือ 1 ไพนต์ และครึ่งไพนต์ สามารถใช้ได้กับเบียร์ทุกแบบ รูปทรงกว้างทำให้ล้างง่าย
แก้วพิลสเนอร์ (Pilsner Glass) มีรูปทรงยาว ด้านบนแก้วจะกว้างเหมาะสำหรับการเปิดฟองเบียร์ ส่วนใหญ่นิยมใช้กับเบียร์เอล
แก้วมัก (Mug Glass) เหมาะสำหรับเบียร์ที่มีปริมาณ 10 - 14 ออนซ์ ใช้ได้กับเบียร์ที่ต้องการรักษาความเย็น การจับตรงหูของแก้วจะช่วยให้ความร้อนของมือไม่ไปกระทบกับความเย็นของเบียร์
Whiskey Glass (แก้ววิสกี้)
แก้ววิสกี้ แก้วที่มีความพิเศษเฉพาะตัวที่น้ำหนักด้านล่างแก้ว ถือแล้วได้น้ำหนักพอดีมือ ควรเลือกแก้วที่เหมาะกับการชอบ และความถนัดของแต่ละคน
แก้ววิสกี้แบบมาตรฐาน (Lowball) สามารถบรรจุได้ 6 - 8 ออนซ์ ถือว่าเป็นปริมาณที่พอดีสำหรับการดื่มวิสกี้ ช่วยส่งกลิ่นที่ดีของวิสกี้ ให้ความรู้สึกแบบ Old Fashioned
แก้วนักลอง (Nosing Glass) ลักษณะเด่นคือด้านล่างของแก้วจะกว้าง และจะค่อย ๆ แคบลงไปจนถึงด้านบน บางครั้งขอบแก้วจะเปิดกว้างขึ้นหน่อย รูปทรงนี้ออกแบบมาเพื่อกักเก็บความหอมของวิสกี้ได้ดีขึ้น ให้ผู้ดื่มได้รับกลิ่นและรสชาติที่แท้จริงของวิสกี้
Cocktail Shaker Set (เซ็ททำค็อกเทล)
มาถึงอุปกรณ์ตัวเอก ที่คนชอบปรุงแต่งค็อกเทลเอง หรือชอบลองแบบใหม่ ๆ จะต้องมีไว้
กระบอกผสมเครื่องดื่ม (Mixing Glass) มีขนาดหนาและใหญ่ ใช้ผสมเครื่องดื่มต่าง ๆ
กระบอกเชกเกอร์ (Shaker) เป็นอุปกรณ์สำหรับเขย่าเครื่องดื่มที่ผสมกันยาก สำหรับรูปแบบของกระบอกเชกเกอร์ก็จะมีอยู่ 3 แบบให้เลือก Parisian Shaker, Boston Shaker และ Cobbler Shaker สามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบของแต่ละบุคคล
จิกเกอร์ (Jigger) มีไว้สำหรับตวงเหล้า 1 ตวง เรียกว่า จิก จะมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้
ถ้วยตวง (Liquid Measuring Cup) ใช้ตวงส่วนผสมต่าง ๆ เช่น น้ำผลไม้
ช้อนตวง (Table Spoon) ใช้กับส่วนผสมที่เป็นผงต่าง ๆ
แก้วช็อต (Shot Glass Cup) แก้วช็อตสำหรับตวงโดยเฉพาะ แตกต่างกับแก้วช็อตทั่วไปตรงที่จะมีขีดบอกสัดส่วนสำหรับการตวง
ช้อนบาร์ (Bar Spoon) อุปกรณ์สำหรับการคนเหล้า สามารถใช้ทำเลเยอร์เหล้าได้ และใช้ตีน้ำแข็ง ช้อนจะมีลักษณะก้านยาวเรียว มีหลายรูปแบบ สามารถเลือกใช้ตามความถนัดของแต่ละบุคคล
ที่กรอง (Strainer) ใช้กรองน้ำแข็งหรือส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อไม่ให้เศษหรือกาก ตกลงไปในเครื่องดื่มในตอนเท ที่กรองจะมี 3 ชนิด คือ Hawthorn Strainer, Julep Strainer และ Fine Strainer เลือกใช้ตามรูปแบบของเครื่องดื่มที่จะทำ
ที่รินเหล้า (Pourer) ช่วยให้การรินเหล้าสะดวก และบังคับการเทได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีปลายแหลม ทำให้รินเหล้าได้ตรงจุด มีหลากหลายรูปแบบ สามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบ
จุกขวด (Stopper or Bottle Cap) อุปกรณ์สำหรับปิดขวดเครื่องดื่มที่ยังใช้ไม่หมด หรือใช้ปิดขวดชั่วคราวได้ ช่วยคงความเข้มข้นของเครื่องดื่มไว้ชั่วคราว
กล่องแต่งขอบ (Saucer) มีไว้สำหรับการตกแต่งขอบแก้ว ส่วนใหญ่จะเป็นแก้วค็อกเทล นิยมใช้กับเกลือ
ที่คั้นน้ำผลไม้ (Fruit Juicer) สำหรับคั้นผลไม้ต่าง ๆ มีแบบใช้มือ และแบบไฟฟ้า
ขวดสเปรย์ใส่เหล้า (Atomiser) สเปรย์ที่ใส่เหล้า สำหรับการแต่งกลิ่นของเครื่องดื่มต่าง ๆ ก่อนจะเสิร์ฟ
ไม้ทุบน้ำแข็ง (Muddler or Wooden Hammer) ไว้สำหรับบดส่วนผสมต่าง ๆ เป็นน้ำแข็ง หรือผลไม้ก็ได้
ที่เปิดไวน์ (Corkscrew) ที่เปิดไวน์จะมีหลากหลายรูปแบบ สามารถเลือกได้ตามความชอบ
ที่ขูดเมล็ดลูกจันทร์ (Nutmeg Grater) สำหรับไว้ขูดเมล็ดลูกจันทร์ หรือจะใช้กับส่วนผสมอื่น ๆ ที่ต้องใช้วิธีขูดได้ด้วยเช่นกัน
ที่ขูดผิวมะนาว (Citrus Stripper) ใช้ขูดผิวมะนาว หรือผิวผลไม้อื่น ๆ เพื่อนำมาแต่งกลิ่นของเครื่องดื่ม เลือกใช้กับส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป ตามความเหมาะสมกับเครื่องดื่มที่ทำ