เก็บกระเป๋า! 12 ที่พักสไตล์บ้านต้นไม้ใกล้ชิดธรรมชาติทั่วไทย
จะขึ้นเหนือหรือล่องใต้ก็มีสถานที่ให้ไปพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมชมทัศนียภาพของภูเขาและทะเลในมุมสูง บนบ้านต้นไม้ดีไซน์น่ารัก
เชื่อว่าหลายคนที่ต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้านเป็นระยะเวลาหลายเดือนในช่วงที่ผ่านมา จะต้องคิดถึงการออกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ไม่ว่าจะขึ้นเหนือหรือล่องใต้ คิดถึงการเปิดแผนที่ดูเส้นทางที่ต้องมุ่งหน้าไป คิดถึงการหาโรงแรม ที่พัก ตั๋วเครื่องบินสุดคุ้มค่า และคิดถึงทัศยนีภาพอันสวยงามของภูเขา ทะเล น้ำตกในประเทศไทยอย่างแน่นอน
เพื่อบรรยากาศดีๆ และช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติของทุกคนที่กำลังใกล้เข้ามา เราจึงรวบรวมโรงแรมและที่พักสไตล์บ้านต้นไม้สุดน่าไปเยือน ตั้งแต่ระดับสองดาวถึงห้าดาว ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงามทั้งหมด 12 แห่งทั่วประเทศไทย
เลื่อนไปดูกันเลยดีกว่าว่า จุดหมายการท่องเที่ยวสถานที่ต่อไปของคุณจะเป็นที่ใด ระหว่างเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ระนอง นครราชสีมา ภูเก็ต ตราด พังงา หรือสุราษฎร์ธานี! (เรียงลำดับตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ)
Bangkok Tree House (แบงค็อกทรีเฮาส์)
ไม่ไกลจากใจกลางกรุงเทพฯ ที่คุ้งบางกะเจ้า มีโรงแรมสไตล์บ้านต้นไม้กลางป่า ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างแบงค็อกทรีเฮาส์ตั้งอยู่ เป็นที่พักแนว Eco-friendly ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นอย่างมาก โดยได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือเรื่อง Walden (1854) ของนักเขียนและนักธรรมชาติวิทยาชาวอเมริกัน Henry David Thoreau ที่กล่าวถึงแนวคิดการใช้ชีวิตสมถะ หวนคืนสู่ธรรมชาติและความเรียบง่าย
นำมาซึ่งการจัดการโรงแรมสุดรักษ์โลก อาทิ ใช้ไม้ไผ่เป็นวัสดุหลักในโครงสร้าง, ปลูกผักออร์แกนิกสำหรับบริโภค, ใช้พลังงานหมุนเวียน, เปลี่ยนขยะให้มีค่าด้วยวิธีการ Upcycling เป็นต้น
ห้องพักที่นี่ล้วนให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติและมอบวิวมุมสูงทั้งสิ้น แต่ที่น่าสนใจคือห้องพักโอเพ่นแอร์ประเภท View with a Room ที่สามารถนอนใต้แสงดาวท่ามกลางป่าไม้เขียวชอุ่มแบบไม่มีอะไรบังสายตาแม้แต่น้อย บนระเบียงไม้ไผ่ที่มีความสูงจากพื้นดิน 7 เมตร ซึ่งเชื่อมกับบ้านพักส่วนตัวดีไซน์สวยเพื่ออำนวยความสะดวกอย่างครบครัน
Bannaimong Tree House (บ้านในหมงทรีเฮาส์)
บ้านในหมงเป็นโฮมสเตย์ในบรรยากาศอันเป็นส่วนตัวกลางป่า ที่แวดล้อมไปด้วยสีเขียวธรรมชาติจากต้นไม้ ภูเขา และลำธาร ซึ่งห่างจากตัวเมืองจังหวัดระนองเพียง 10 นาทีเท่านั้น
บ้านพักมีจำนวนทั้งหมด 9 หลังด้วยกัน ซึ่งล้วนดีไซน์อย่างเรียบง่ายสไตล์รัสติกเฮาส์ขนาดกะทัดรัดในลักษณะกระท่อมและบ้านต้นไม้สุดร่มรื่น ทุกห้องมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน และทัศนียภาพของป่าดิบชื้นท่ามกลางสายฝนที่ตกชุกเกือบทั้งปี
นอกจากการผักผ่อนที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ บริเวณโฮมสเตย์ยังมีกิจกรรมน่าสนใจให้เลือกสรรหลายรายการเลยทีเดียว เช่น ชมสวนผักออร์แกนิก, แช่น้ำร้อนในอ่างฟืนริมลำธาร, ปั่นจักรยานชมสถานที่โดยรอบ, นวดแผนไทย, ทานอาหารท้องถิ่น เอ็นจอยเมนูขนมหวานที่คาเฟ่ในหมง หรือปีนบ้านต้นไม้ส่วนกลางขึ้นไปถ่ายรูปเล่น เก็บภาพประทับใจ ก็สามารถทำได้ตามใจชอบ
Baan Rai I Arun (บ้านไร่ไออรุณ)
อีกหนึ่งที่พักรักษ์ธรรมชาติในจังหวัดระนอง โดยบ้านไร่ไออรุณเป็นฟาร์มสเตย์ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจสร้างบ้านหลังอบอุ่นให้กับครอบครัว โอบล้อมด้วยแปลงผักเกษตรอินทรีย์และไร่สวนนานาพันธ์ุ ที่กลายมาเป็นแหล่งสร้างอาชีพและรายได้ให้กับคนในชุมชน
ตัวบ้านพักนั้นมีการออกแบบที่สอดรับกับความเรียบง่ายตามธรรมชาติ ปราศจากสิ่งอำนวยความสะดวกเล็กน้อยอย่างโทรทัศน์ ไวฟาย หรือตู้เย็น เพื่อให้ผู้เข้าพักได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศบ้านสวนอย่างแท้จริง ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นบ้านยกพื้นดีไซน์น่ารัก โดยเฉพาะบ้านต้นไม้สองชั้นที่ให้บรรยากาศสุดปลอดโปร่งด้วยการใช้กระจกล้อมรอบ (นั่นหมายความว่าเราสามารถชมวิวอันร่มรื่นได้ 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว!)
โดยบ้านไร่แห่งนี้ตั้งใจเป็นพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน การจัดการที่พักและกิจกรรมต่างๆ ล้วนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น เช่น เลือกใช้วัสดุไม่ทำลายธรรมชาติ ลดการใช้พลาสติดย่อยสลายยาก บริโภคพืชผักสวนครัวจากฟาร์มในพื้นที่ เป็นต้น
Keemala (กีมาลา)
รีสอร์ตหรูที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสีเขียวของป่าดิบชื้นในจังหวัดภูเก็ต ด้านหลังโอบล้อมด้วยภูเขาสูง ในขณะที่ด้านหน้าหันหาทะเลอันดามันสีคราม ที่มีเพียงชายหาดกมลา-ป่าตองคั่นกลางเท่านั้น แนวคิดของโรงแรมแห่งนี้ มาจากการผสานปรัชญาที่สอดแทรกอยู่ในวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตไทยอันหลากหลายในภาคใต้ตั้งแต่สมัยโบราณ กลายมาเป็น 4 องค์ประกอบสำคัญในสถาปัตยกรรมและการแบ่งประเภทห้องพักทั้งหมด ได้แก่ ปฐพี (Earth), คนจร (Wanderers), เวหา (Sky) และ รังนก (Nest)
กีมาลามีห้องพักให้บริการจำนวน 38 ห้อง ซึ่งล้วนเป็นพูลวิลล่าสุดไพรเวท ที่มีดีไซน์แตกต่างกันไปตามแรงบันดาลใจและเรื่องราวเบื้องหลังของห้องแต่ละประเภท แต่ทั้งหมดมีหนึ่งสิ่งที่เหมือนกันคือความใกล้ชิดธรรมชาติแบบเดียวกับบ้านต้นไม้ ที่ลอยตัวอยู่บนอากาศ หากแต่ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ พร้อมมอบทัศนียภาพธรรมชาติอันงดงาม
ไม่เฉพาะห้องพักเท่านั้นที่ตกแต่งในสไตล์บ้านต้นไม้สุดผ่อนคลาย แต่ห้องอาหารไทยในโรงแรมอย่าง Mala Restaurant และห้องสปา ก็ตกแต่งในลักษณะของรังนกสุดน่ารักเช่นกัน (ซึ่งกลายเป็นหนึ่งจุดถ่ายภาพยอดฮิตไปโดยปริยาย)
Lala Mukha Tented Resort (ลาลามูก้าเต็นท์รีสอร์ต)
ลาลามูก้าเป็นเต็นท์รีสอร์ตสไตล์แคมปิ้งที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้และภูเขาเขียวขจี ไกลสายตาเป็นทิวทัศน์ป่าเขาของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่มอบความรู้สึกสดชื่นและสงบผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน แถมยังมีการจัดการแบบ Eco-Friendly อีกด้วย
โดยที่พักเป็นงานสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ที่ผสานองค์ประกอบแบบแอฟริกันในบรรยากาศท่องซาฟารีเอาไว้ แบ่งเป็นเต็นท์นอนและบ้านต้นไม้สุดเท่ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ที่น่าสนใจคือ Loft Tree House เป็นบ้านพักขนาดใหญ่สำหรับ 2 คนขึ้นไป มีความสูงจากพื้นดินตั้งแต่ 4 - 6 เมตร (สูงมาก!) สามารถชมชมทัศนียภาพโดยรอบในมุมสูงได้จากระเบียงบ้าน และนอนเล่นบนเปลตาข่ายสุดน่ารัก และทุกบ้านจะเชื่อมกันด้วยสะพานไม้ เพิ่มความรู้สึกแบบรัสติกเล็กๆ
พื้นที่โดยรอบมีหลายมุมให้พักผ่อนอย่างสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นโซนก่อกองไฟ สระว่ายน้ำเอาต์ดอร์ ห้องอาหารไทย-เวสเทิร์น โซนบาร์บีคิวดินเนอร์ หรือจะเลือกนอนดูดาวย่ำคืนคืนก็สามารถทำได้เต็มที่
Pai Tree House (บ้านต้นไม้ปายรีสอร์ต)
บ้านต้นไม้ปายรีสอร์ต เป็นที่พักสุดโฮมมี่ในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่แวดล้อมไปด้วยทิวเขาและมีแม่น้ำปายพาดผ่าน มีบ้านพักทั้งหมด 8 แบบ ซึ่งล้วนใช้ไม้สีเข้มเป็นวัสดุหลักในโครงสร้าง จึงมีบรรยากาศสบายๆ กึ่งอบอุ่นในทุกห้องพัก ใกล้ๆ กันมีลานกางเต็นท์ริมน้ำปายสำหรับผู้ที่สนใจพักผ่อนสไตล์แคมป์ปิ้งด้วย
แต่ที่พลาดไม่ได้คือบ้านบัวตอง เป็นบ้านต้นไม้สูงชะลูดสำหรับผู้เข้าพักกลุ่มใหญ่ ที่ภายในห้องนอนมีลำต้นไม้ขนาดยักษ์คั่นกลาง พร้อมบันไดลิงที่ต้องปีนไปยังห้องเล็กห้องน้อยในบ้าน (ได้ฟีลบ้านต้นไม้ฐานลับสมัยเด็กสุดๆ) แถมยังมีห้องซาวน่าส่วนตัวเล็กๆ ในบ้าน ซึ่งมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน
รีสอร์ตมีกิจกรรมให้เลือกทำหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นเดินชมสวนผักปลอดสารพิษ, ล่องแพ, ขับรถ ATV, ขี่ช้างชมธรรมชาติ, แช่น้ำที่โป่งน้ำพุร้อนท่าปาย หรือแวะที่สวนสตรอว์เบอร์รี เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาการพักผ่อนสงบๆ หากแต่ยังสนุกสนานได้แน่นอน
Rabeang Pasak Treehouse Resort (ระเบียงป่าสักทรีเฮาส์รีสอร์ต)
ระเบียงป่าสักทรีเฮาส์รีสอร์ต ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ล้อมรอบด้วยป่าไม้สักในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นรีสอร์ตของครอบครัวอดีตสถาปนิกวัยเกษียณ ที่ออกแบบบ้านแต่ละหลังด้วยด้วยตนเอง ซึ่งสไตล์บ้านพักแห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นบ้านต้นไม้ของจริงที่ปราศจากการปรุงแต่งอะไรซับซ้อน หากแต่ฟังก์ชันการใช้งานในฐานะที่เป็นรีสอร์ตเพื่อการพักผ่อนนั้นก็ยังอยู่ครบถ้วน
ปัจจุบันมีกระท่อมบนต้นไม้สำหรับ 2 คน จำนวน 6 หลัง และบ้านต้นไม้ขนาดใหญ่สำหรับครอบครัวอีก 2 หลัง ซึ่งมีการออกแบบที่แตกต่างกันไปเล็กน้อย มีระเบียงชมทัศนียภาพอันร่มรื่นโดยรอบทุกหลัง สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานเช่น พัดลม เครื่องดักจับยุง เครื่องทำน้ำอุ่น ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีห้องอาบน้ำโอเพ่นแอร์ ที่ให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะต้องการการพักผ่อนอันเงียบสงบ ณ ที่พัก หรือการท่องเที่ยวชมสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม ระเบียงป่าสักทรีเฮาส์รีสอร์ตก็มีกิจกรรมน่าสนใจให้เลือกทำ เช่น เช่าจักรยานปั่นรอบรีสอร์ต ที่มีทั้งถ้ำค้างคาว ลำธารดูพระอาทิตย์ขึ้น วัดป่าสักงาม หรือสะพานแขวนเขื่อนแม่กวง เป็นต้น
Rock and Treehouse Resort Khao Sok (ร็อคแอนด์ทรีเฮาส์รีสอร์ตเขาสก)
รีสอร์ตสุดในอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ตั้งใจเป็นสถานที่พักผ่อนอันเงียบสงบท่ามกลางป่าไม้และเขาหินที่มอบความรู้สึกแบบดิบๆ แต่เปี่ยมไปด้วยความสะดวกสบายและการออกแบบภายในที่โดดเด่น
อีกทั้งร็อคแอนด์ทรีเฮาส์รีสอร์ตให้ความสำคัญกับต้นไม้นานาพันธุ์ที่โอบล้อมสถานที่แห่งนี้ไว้ จึงเลือกที่จะผสานต้นไม้เก่าแก่เข้ากับห้องพักและตัวรีสอร์ต แทนการตัดทิ้งในขณะก่อสร้าง เพื่อคงบรรยากาศของป่าเขาและธรรมชาติแบบดั้งเดิมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
ปัจจุบันมีห้องพักให้บริการทั้งหมด 9 ห้อง เป็นบังกะโลกึ่งบ้านต้นไม้ที่แทบจะเป็นหนึ่งเดียวกับเขาหินธรรมชาติ ทุกห้องมีระเบียงเล็กๆ พร้อมวิวสวนที่ให้ความร่มรื่น และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้การพักผ่อนในสถานที่ห่างไกลและอยู่ท่ามกลางขุนเขาไม่ลำบากเลยแม้แต่น้อย
บริเวณที่พักมีสระว่ายน้ำและกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ช่วยเอนเตอร์เทนนักท่องเที่ยวได้อย่างไม่มีเบื่อ อาทิ ล่องห่วงยางคลองศก, พายเรือแคนู, แคนูทัวร์, ล่องแพ, ส่องสัตว์ในเวลากลางคืน, ขับรถ ATV, ให้อาหารและอาบน้ำช้าง รวมถึงล่องเขื่อนเชี่ยวหลานอันสวยงาม (บางกิจกรรมสามารถทำได้ในฤดูฝนเท่านั้น)
Six Senses Samui (ซิกซ์เซนส์สมุย)
บนแหลมทางตอนเหนือของเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีรีสอร์ตหรูอย่างซิกซ์เซนส์สมุยตั้งอยู่ เป็นที่พักสไตล์ไพรเวทวิลล่าที่มีแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากหมูบ้านชาวประมงของไทย จึงมีกลิ่นอายแบบไทยๆ ที่ผสมกับบีชเฮาส์สุดชิล
ตัวรีสอร์ตตั้งอยู่บนเขาแหลมจึงมอบวิวพาโนรามาของอ่าวไทยอันสวยงาม และเมื่อมองจากภายนอกจะเห็นว่าที่พักแทบจะกลืนไปกับเขาสีเขียว ให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ คล้ายกับยามนอนเล่นบนบ้านต้นไม้ที่มอบวิวมุมสูงแต่เพลิดเพลินในเวลาเดียวกัน ส่วนห้องพักมีทั้งหมด 66 วิลล่า โดย 59 วิลล่ามีสระว่ายน้ำส่วนตัวพร้อมวิวทะเลสุดสายตา
กิจกรรมที่ซิกซ์เซนส์สมุยก็น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าตัววิลล่าดีไซน์สวยเลย เพราะมีทั้งอินฟินิตี้พูล, ฟาร์มสัตว์เล็กๆ ที่สามารถแวะไปให้อาหารหรือเก็บไข่ไก่มาปรุงเป็นอาหารเช้าได้, ดินเนอร์ที่ระเบียงบนผาหิน, กิจกรรมทางน้ำอย่างการดำน้ำตื้นหรือพายเรือคายัก, สปาและเอาต์ดอร์ทรีตเมนต์, ดูหนังใต้แสงจันทร์, เดย์ทริป และอีกมากมายพร้อมให้บริการ
Soneva Kiri (โซเนวาคีรี)
โซเนวาคีรีเป็นรีสอร์ตสุดลักชัวรี่รักษ์โลกบนเกาะกูด จังหวัดตราด ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากความลึกลับ เสน่ห์ และความสำคัญของธรรมชาติ รวมถึงความต้องการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวท่ามกลางภูเขาและทะเลตะวันออกไทยอย่างเอ็กซ์คลูซีฟและไม่รู้ลืมให้กับผู้เข้าพัก ผ่านการดีไซน์วิลล่า สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่มีใครเหมือน
ที่รีสอร์ตแห่งนี้ มีทั้งหมด 36 วิลล่า มีขนาดตั้งแต่ 1 ห้องนอนไปจนถึง 6 ห้องนอน ซึ่งทุกห้องพักมีสระว่ายน้ำส่วนตัว ห้องอาบน้ำเอาต์ดอร์ โต๊ะดินเนอร์ และพื้นที่ใช้สอยสุดกว้างขวาง ตกแต่งสไตล์รัสติกบีชเฮาส์กึ่งโมเดิร์น ที่มอบบรรยากาศแบบรวมเป็นหนึ่งกับธรรมชาติ ที่สำคัญคือภาพความสวยงามของทะเลสีครามและป่าไม้เขตร้อนสีเขียวเข้มที่โอบล้อมที่พักไว้
สำหรับกิจกรรมบนเกาะที่แนะนำ ได้แก่ ดูหนังเอาต์ดอร์ใต้แสงดาว, ดำน้ำและปิกนิกอย่างไพรเวทที่เกาะรัง, ชมความสวยงามยามค่ำคืนที่หอดูดาว, ไวน์เทสติ้ง-ดินเนอร์, บาร์บีคิวริมชายหาด แต่ที่พลาดไม่ได้ แถมยังเป็นกิจกรรมซิกเนเจอร์ของโซเนวาคีรี คือ Treepod Dining มื้ออาหารและน้ำชาสุดหรูบนรังนกไม้ไผ่ท่ามกลางกิ่งก้านและใบไม้ พลางชมทัศนียภาพที่หาไม่ได้จากที่ไหน เสิร์ฟอาหารโดยบริกรส่วนตัวบนซิปไลน์
Tree House Hideaway (บ้านต้นไม้แม่แมะ)
บ้านต้นไม้แม่แมะเป็นโฮมสเตย์ในหมู่บ้านเล็กๆ บนเขาป่ามรสุมในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ที่สามารถพาทุกคนกลับเข้าสู่วิถีชีวิตเรียบง่ายท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ ภาพไกลๆ สามารถเห็นยอดดอยหลวงเชียงดาว ที่คั่นด้วยต้นไม้ทึบเขียวอันเขียวชอุ่ม เหมาะสำหรับการพักผ่อนอันเงียบสงบ ปล่อยให้ความคิดโฟกัสอยูากับทัศนียภาพและกิจกรรมตรงหน้าได้เป็นอย่างดี (เพราะมีแต่สัญญาณโทรศัพท์เท่านั้น)
โฮมสเตย์แห่งนี้ มีบ้านพักทั้งหมด 7 หลัง ซึ่งล้วนออกแบบเป็นบ้านต้นไม้กลางเขาที่แทบจะกลืนไปกับร่มเงาของต้นไม้โดยรอบ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวฉายเดี่ยว หรือมาเป็นกลุ่มสิบคนขึ้นไป ก็มีห้องรองรับที่เหมาะสม ตัวบ้านมีการออกแบบและตกแต่งอย่างเรียบง่าย ปราศจากการปรุงแต่งใดใดมากมาย โทนสีของไม้ที่เป็นวัสดุหลักของโครงสร้างบ้านนั้น สร้างความรู้สึกแบบโฮมมี่และเป็นกันเอง
สองสิ่งที่บ้านต้นไม้แม่แมะต้องการให้นักท่องเที่ยวได้รับกลับไป คือ ความผ่อนคลาย และการได้เปิดโลกให้กับสิ่งใหม่ จึงมีกิจกรรมน่าสนใจให้เข้าร่วมมากมาย เช่น การเดินชมวิถีชีวิตของชาวบ้านในหมู่บ้าน, เข้าป่าเมี่ยงชมดอกไม้ป่าหาดูยาก, เดินป่า, เที่ยวน้ำตก, นวดไทย เป็นต้น
TreeHouse Villas (ทรีเฮาส์วิลลา)
ทรีเฮาส์วิลลา ตั้งอยู่บนเกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา เป็นโรงแรมและรีสอร์ตหรูสุดชิคสำหรับผู้ใหญ่ที่หลงใหลในความสวยงามของธรรมชาติ เกิดจากความต้องการสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
จึงนำเสนอผ่านการจัดการภายในต่างๆ อาทิ รักษาพืชพรรณท้องถิ่นและระบบนิเวศบริเวณรีสอร์ต, มีระบบจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ, ลดปริมาณการใช้ขยะพลาสติกประเภทครั้งเดียวทิ้ง, จ้างงานคนในพื้นที่, จัดกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
สำหรับบ้านพัก มีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ บีชฟรอนต์พูลวิลลา, ฮิลท็อปพูลวิลลา และทรีเฮาส์วิลลา มีการตกแต่งในสไตล์ยูโรเปียนแชบบี้ชิค (European shabby chic) ซึ่งเน้นการตกแต่งด้วยวัสดุที่มาจากการรีไซเคิลและอัพไซเคิล โทนสีที่ใช้เป็นเอิร์ธโทนที่ได้แรงบันดาลใจมาจากป่าและทะเล ที่สำคัญคือภาพพาโนรามาของอ่าวพังงาที่สวยงามแบบไม่มีสิ่งใดขวางกั้น ที่ให้นักท่องเที่ยวดื่มด่ำกับกลิ่นอายของทะเลแบบเต็มๆ
ความบันเทิง ณ ที่พัก มีให้เลือกเข้าร่วมมากมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ตกปลา, เดินป่า, ปั่นจักรยานชมเกาะ, เพนต์ผ้าบาติก, ทัวร์เกาะต่างๆ, ดำน้ำลึก, สปาและทรีตเมนต์ หรือเล่นโยคะส่วนตัวในห้องพัก