La Tavola & Wine Bar : 3 เหตุผลที่คุณจะต้องไปลิ้มลองอาหารอิตาเลียนรสเลิศที่นี่
ทุกคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพคงจะรู้ดีว่า เมืองนี้มันมีดีแค่ไหน โดยเฉพาะเรื่องของอาหาร ที่เรากล้าพูดได้เลยว่า กรุงเทพเป็นเมืองที่เปิดโอกาสในการกิน ไม่ว่าจะเป็นอาหารเชื้อชาติใดในโลก ก็สามารถหาทานได้ในกรุงเทพอย่างแน่นอน
แน่นอนว่า การที่มีร้านอาหารมากมายให้เลือกในปัจจุบัน ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดการแข่งขันกันสูงในธุรกิจวงการอาหาร ลูกค้าก็ย่อมมีความคาดหวังสูง ส่วนร้านอาหารก็ยิ่งต้องแข่งกันทำอาหารให้ออกมาประทับใจผู้ทานให้มากที่สุด มิฉะนั้น ก็จะต้องพ่ายแพ้ให้กับร้านที่ได้ใจคนทานมากกว่านั่นเอง
ทุกวันนี้ ร้านอาหารอิตาเลียนในกรุงเทพผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเจอร้านอาหารอิตาเลียนอยู่ทั่วทุกแห่ง ทุกห้าง ไม่ว่าจะเป็นย่านดังอย่างทองหล่อ ไปจนถึงลาดพร้าว สิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ ท่านอาจจะคุ้นเคยดีก็คือ ความคล้ายคลึงกันของรสชาติอาหาร ไปจนถึงการตกแต่งร้านของแต่ละร้าน แทบจะออกมาพิมพ์เดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องยาก ที่จะหาร้านอาหารอิตาเลียนที่มีความแตกต่างไม่เหมือนใครในกรุงเทพ แต่วันนี้ เราเจอที่นึงที่เราเชื่อว่า สาวกอาหารอิตาเลียนจะต้องประทับใจแน่นอน
La Tavola & Wine Bar ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ของโรงแรมเรเนซองค์ ย่านราชประสงค์ ซึ่งห้องอาหารแห่งนี้ เพิ่งจะทำการต้อนรับเชฟฝีมือดี Chef Luca Pecorari ซึ่งเป็นเชฟใหญ่ที่ LIMONI ซึ่งเป็นห้องอาหารอิตาเลียนที่โรงแรม Ritz-Carlton ที่กวางโจว ประเทศจีนนั่นเอง โดยงานนี้ทาง Chef Luca ได้ร่วมมือกับ Chef Jose Martin Ruiz Borja เชฟประจำของห้องอาหาร La Tavola & Wine Bar นั่นเอง โดยทั้งคู่มาร่วมมือกันรังสรรค์เมนูอาหารอิตาเลียนที่ห้องอาหารแห่งนี้ ความโชคดีคงไม่ไปตกที่ไหน นอกจากพวกเราแฟน ๆ อาหารอิตาเลียนนี่แหละ
หลังจากที่เราได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ว เราขอยก 3 เหตุผลมาบอกคุณว่า ทำไม La Tavola & Wine Bar จึงเป็นอีกที่หนึ่งที่คออาหารอิตาเลียนไม่ควรพลาด!
1) ความคลาสสิคของอาหารอิตาเลียนแบบของแท้ออริจินัล
ในปัจจุบันนี้ เราจะพบร้านอาหารอิตาเลียนมากมายที่เรียกตัวเองว่า "ร้านอาหารอิตาเลียน" เพียงแต่ในส่วนของอาหารนั้น ค่อนข้างจะยากซักนิดนึงที่จะชวนให้เราเชื่อว่าที่เหล่านั้นเสิร์ฟอาหารอิตาเลียนแท้แบบดั้งเดิม แต่ที่ La Tavola & Wine Bar นั้น คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่า ที่นี่จะเสิร์ฟอาหารอิตาเลียนแท้ สุดคลาสสิคอย่างแน่นอน
สไตล์การทำอาหารของ Chef Luca และ Chef Jose นั้น มีความเหมือนกันตรงที่พวกเขาทั้งคู่ชอบทำอาหารออกมาในสไตล์ที่เรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่เน้นไปที่รสชาติที่แท้จริงของอาหาร โดยอาหารทุกจานของที่นี่จะถูกเสิร์ฟแบบออริจินัลสไตล์อิตาเลียนแท้ ๆ และที่เพิ่มเติมมาก็คือการใส่ใจในคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารนั่นเอง
ทีมงานของ La Tavola & Wine Bar ตั้งใจที่จะคัดสรร วัตถุดิบที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ที่นี่ และปรุงแต่งให้เกิดเป็นอาหารจานเด็ด อย่างเช่น Pumpkin Risotto กับไส้กรอก, ซุปเห็ด, เมล็ดฟักทองอบ โรยหน้าด้วยบัลซามิคอายุ 25 ปี และฟิลเล่ต์ปลาค็อดดำเนื้อแน่น เสิร์ฟพร้อมกับหน่อไม้ฝรั่ง, ไข่ปลาแซลมอน และซอสพริกไทยดำนั่นเอง
2) บรรยากาศที่แสนเพอร์เฟ็คเหมาะกับทุกช่วงโอกาส
ที่นี่ นอกจากจะเปิดโอกาสให้คุณได้ลิ้มรสอาหารรสชาติล้ำเลิศแล้ว คุณยังจะได้สัมผัสประสบการณ์และบรรยากาศสไตล์อิตาเลียน ทั้งการตกแต่ง การดีไซน์ของครัวที่เป็นแบบเปิด ซึ่งทำให้คุณทั้งได้เห็นการปุรงและได้กลิ่นของอาหารแบบสด ๆ เลยนั่นเอง
นอกจากจะได้เพลิดเพลินไปกับการชมเทคนิค ลีลา รวมไปถึงได้พูดคุยกับเชฟที่ปรุงอาหารจานเด็ดให้คุณแบบสด ๆ แล้ว คุณยังมั่นใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าอาหารของคุณสะอาดและถูกปรุงแบบตั้งใจเกินร้อย
การได้สัมผัส ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง ในครัวเปิดแบบนี้ แน่นอนว่าทำให้ที่นี่มีความแตกต่างออกไปจากร้านอาหารอิตาเลียนส่วนใหญ่ เมื่อคุณมาที่ La Tavola & Wine Bar ความสุขไม่ได้จบลงแค่การทานอาหาร แต่ทุกองค์ประกอบทำให้ที่นี่เป็นร้านอาหารที่เหมาะกับทุกเทศกาลและทุกวาระจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดฮอลิเดย์, วันครบรอบ หรือจะเป็นแค่เดททั่วไป ก็เหมาะกับการมาทานอาหารที่นี่จริง ๆ
3) พนักงานที่คอยดูแลและเอาใจใส่เหมือนกับคนในครอบครัว
พูดกันตามหลักความจริง ไม่ว่าร้านอาหารนั้นจะมีอาหารที่สุดยอดแค่ไหน แต่เรื่องบริการก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน และแน่นอนว่าที่ La Tavola & Wine Bar ก็ใส่ใจในเรื่องนี้มาก เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปที่ห้องอาหารนี้ ก็มีพนักงานที่ยิ้มแย้มรอต้อนรับคุณ เราขอแนะนำว่า ให้คุณสำรองโต๊ะก่อนที่จะไปใช้บริการ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการใช้บริการ
เมื่อได้ที่นั่งเสร็จเรียบร้อย ก็จะมีบริกรมาคอยรับออเดอร์ รวมไปถึงยังใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ รอบตัวลูกค้าอยู่ตลอดเวลา พนักงานของที่นี่ได้รับการเทรนเรื่องข้อมูลของอาหารอย่างดี รวมไปถึงการบริการที่เรียกได้ว่า สมระดับโรงแรม 5 ดาวจริง ๆ
เอาล่ะ เราเชื่อว่า 3 เหตุผลที่ยกมาข้างต้นน่าจะเพียงพอที่จะเชิญคุณไปลองอาหารอิตาเลียนสูตรเด็ดที่ La Tavola & Wine Bar ที่โรงแรมเรเนซองค์, ราชประสงค์แล้วล่ะ
อาหารและของหวานที่นี่ได้รับการจัดทำและตกแต่งโดย Chef Luca Pecorari ร่วมด้วยเชฟจากทางโรงแรม ซึ่งทางห้องอาหารเปิดให้บริการในช่วงอาหารกลางวันและอาคารค่ำ ตั้งแต่วันอังคาร ถึง วันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2016 ไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2017 นี้