10 ร้านอาหารอินเดียในกรุงเทพฯ การันตีรสชาติ ต้นตำรับจากแดนภารตะ
เปิดลิสต์ร้านอินเดียที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ที่ควรค่าแก่การลิ้มลองรสชาติสักครั้ง!
“อาหารอินเดีย” เป็นหนึ่งในอาหารที่นักชิมทั่วโลกถวิลหา ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่น โดยเฉพาะกลิ่นเครื่องเทศ ที่ทำให้อาหารอินเดียมีความเฉพาะตัว หลายๆคนที่ไม่ใช่แฟนอาหารอินเดีย ก็คงต้องเคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันมาอย่างคุ้นหูว่า อาหารอินเดียนั้นทั้งฉุน ทั้งเผ็ด
แต่เราอยากจะบอกว่าไม่จริงเสมอไป! เพราะถ้าคุณได้ลิ้มลองอาหารอินเดียแบบต้นตำรับจริงๆแล้วล่ะก็ จะต้องติดใจในความอร่อย (เช่นเรา) อย่างแน่นอน แต่หากยังไม่รู้ว่าจะเริ่มไปลองชิมอาหารอินเดียรสชาติอร่อยที่ไหนดี?
Siam2nite ปักหมุดมาทุกคนไปตามรอยความอร่อยกันแล้ว กับ 10 ร้านอาหารอินดียที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ การันตีรสชาติ ต้นตำรับจากแดนภารตะของจริง! (เรียงตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ)
Bawarchi Rooftop (บาวาร์ชิ รูฟท็อป)
เริ่มต้นกันที่ Bawarchi ร้านอาหารอินเดียแบบ Fine Dining สุดเลอค่า ที่เปิดบริการเป็นเจ้าแรกๆในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 1998 และยังคงคุณภาพมาอย่างยาวนานมากกว่า 20 ปีแล้ว โดยปัจจุบันมีด้วยกันทั้งหมด 4 สาขา ซึ่ง Bawarchi Rooftop ถือเป็นสาขาแรกของทางร้าน ที่เปิดบริการอยู่บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรม Solitaire Bangkok ภายในตกแต่งอย่างสวยงามหรูหรา อันได้แรงบันดาลใจมาจากพระราชวังอินเดีย
สำหรับเมนูอาหารก็รังสรรค์โดยเชฟชาวอินเดียมือฉมังกับสูตรแบบต้นตำรับของชาวอินเดียที่มีเครื่องเทศเป็นตัวชูโรง ผสานกับวัตถุดิบชั้นยอด อาทิ กุ้งล็อบสเตอร์ยักษ์, เนื้อแกะ, กุ้งลายเสือ, ไก่ ฯลฯ เสิร์ฟเป็นเมนูต่างๆ เช่น Kasmiri Rogan Josh (แกงแกะโรกันจอช) เมนูซิกเนเจอร์จากแคชเมียร์, Murgh Makhanwala (แกงกะหรี่ไก่) สูตรต้นตำรับจากนครนิวเดลี ที่รสชาติเข้มข้นเข้าถึงความเป็นอินเดียอย่างแท้จริง เสมือนตีตั๋วไปกินถึงถิ่นเลยก็ว่าได้
Charcoal Tandoor Grill & Mixology (ชาร์โคล ทันดูร์ กริลล์ แอนด์ มิกโซโลจี)
มาต่อกันที่ร้าน Charcoal Tandoor Grill & Mixology ร้านอาหารอินเดียที่จะทำให้คุณเปิดใจยอมรับอาหารอินเดียมากขึ้น เพราะการรังสรรค์เมนูต่างๆ อันมีเอกลักษณ์แบบต้นตำรับของเชฟชาวอินเดียที่ผสมผสานวัฒนธรรมการกินของชาวอินเดียตอนเหนือเข้าไปด้วย ทำให้อาหารแต่ละจานจะไม่ได้มีเฉพาะแต่ประเภทกลิ่นฉุน หรือเน้นเครื่องเทศจนเกินไป จึงสามารถทานได้ง่าย ถูกปาก แม้ไม่ได้เป็นแฟนอาหารอินเดียก็จะต้องติดใจแน่นอน
โดยนอกจากเมนูอาหารจะมีให้เลือกรับประทานอย่างหลากหลายและดึงดูดนักชิมให้แวะเวียนเข้ามาลิ้มลอง การตกแต่งร้านก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเขาออกแบบได้อย่างทันสมัย ใส่ใจทุกรายละเอียด อีกทั้งยังกว้างขวางและมีบรรยากาศสบายๆ ที่ชวนให้นั่งเพลินตั้งแต่มื้อเที่ยงจรดค่ำกันเลยทีเดียว
GAA (กา)
สำหรับร้าน GAA โดยเชฟหญิง Garima Arora ชาวอินเดีย ไม่ได้เป็นร้านอาหารอินเดียแบบเต็มตัว แต่เสิร์ฟอาหารหลากหลายประเภทที่มีทั้งแบบผสมผสานความเป็นอินเดีย ไทย และนานาชาติเข้าไป โดยจะเสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส ประมาณ 12-15 คอร์สด้วยกัน จากวัตถุดิบท้องถิ่นที่หาได้ในประเทศไทย
ก่อนนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูต่างๆ ที่กลมกล่อม ถูกปาก การันตีคุณภาพความอร่อยด้วยการที่เพิ่งคว้ารางวัลร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียอันดับที่ 16 จากลิสต์ Asia’s 50 Best Restaurants 2019 รวมถึงรางวัล Michelin Star 1 ดาว!
ส่วนเชฟเองก็ไม่น้อยหน้าเพราะเธอเพิ่งได้รับรางวัล Asia’s Best Female Chef 2019 มาประดับโปรไฟล์เช่นกัน ซึ่งถือเป็นเชฟหญิงอินเดียคนแรกและคนเดียวในปัจจุบันที่สามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรติแห่งวงการอาหารนี้มานอนกอดได้สำเร็จอีกด้วย
นอกเหนือจากรสชาติอาหารอันเป็นเลิศ การตกแต่งร้านก็เป็นส่วนดึงดูดใจกับการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างสไตล์โมเดิร์นกับคลาสสิกได้อย่างลงตัว มีภาพวาดหญิงสาวบนผนังเป็นจุดโดดเด่นที่ให้ความรู้สึกเหมือนอาร์ตแกลอรี่ เพียงแต่ที่แห่งนี้เป็นศาสตร์แห่งศิลปะการรังสรรค์อาหารชั้นยอดนั่นเอง!
Gaggan Anand Restaurant (กากั้น อนันต์)
จากตำนานที่เหล่าฟู้ดดี้ทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดีอย่างร้าน Gaggan ร้านอาหารระดับมิชลิน 2 ดาว โดยเชฟ Gaggan Anand ที่ครองอันดับร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียอันดับ 1 จากลิสต์ Asia’s 50 Best Restaurant ทั้งหมด 4 ปีซ้อน และอยู่บนอันดับ 4 ของลิสต์ World's 50 Best Restautants 2019
มาวันนี้กลายเป็นร้านแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ Gaggan Anand Restaurant ณ ซอยสุขุมวิท 31 ที่ยังคงเสิร์ฟอาหารอินเดียแสนอร่อยอันมีเอกลักษณ์ตามแบบเฉพาะของเชฟ Gaggan Anand ที่ใครได้ลิ้มลองเป็นต้องติดใจ ด้วยเทคนิคการสร้างสรรค์อาหารที่ไม่เหมือนใคร แต่ละจานจึงมีความโดดเด่น ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงกรรมวิธีปรุงแต่ง
โดยร้านเสิร์ฟอาหารเป็นคอร์สโดยมีทั้งรูปแบบห้องอาหารและ Chef’s table ที่คุณจะได้เปิดประสบการณ์ทานอาหารอินเดียอย่างที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน พร้อมกับจิบไวน์สุดชิลในมื้ออาหารด้วย
Indian Hut (อินเดียน ฮัท)
Indian Hut เป็นร้านอาหารอินเดียเก่าแก่อีกร้านหนึ่งในเมืองไทยที่เปิดบริการมาอย่างยาวนานเกือบ 30 ปีแล้ว เน้นเสิร์ฟอาหารทางภาคเหนือของประเทศอินเดีย ที่มีรสชาติแบบต้นตำรับแดนภารตะแท้ๆ และมีเอกลักษณ์เฉพาะของร้านเองคือกลิ่นเครื่องเทศไม่แรงจนเกินไป ทำให้อาหารมีรสชาติที่กลมกล่อมและทานง่าย
บรรยากาศภายในร้านก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ใครได้มาเยือนก็มีอันต้องกลับมาขอฝากท้องกันอีกรอบ ด้วยการตกแต่งแบบร่วมสมัย มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ทำให้โซนที่นั่งไม่แออัด สามารถรองรับลูกค้าได้อย่างทั่วถึง และการใช้โทนสีขาว-เหลืองก็ช่วยให้บรรยากาศดูสบายๆ ผ่อนคลายมากขึ้นอีกด้วย
Indus (อินดัส)
Indus เป็นร้านแบบ Fine Dining ที่เสิร์ฟอาหารอินเดียชั้นเลิศ ในบรรยากาศห้องอาหารที่เสมือนยกแดนภารตะมาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมามากกว่า 1 ทศวรรษแล้ว
Indus รวบรวมอาหารอินเดียจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศทั้งเมืองหลวง(นครนิวเดลี) ตอนบน และตอนใต้ ไม่ว่าจะเป็น แคชเมียร์ ปัญจาบ ราชสถาน ฯลฯ มาให้เหล่านักชิมได้อิ่มท้องกันแบบครบรส อีกทั้งยังรังสรรค์โดยเชฟฮาลาล และมีเมนูทั้งเนื้อสัตว์และมังสวิรัติเป็นทางเลือกอีกด้วย
นอกจากรสชาติมีเอกลักษณ์ รับประกันความอร่อยแล้ว การตกแต่งร้านก็ไม่เป็นสองรองใคร เพราะเขายกอินเดียมาไว้ที่นี่กันเลยทีเดียว นอกจากนั้นภายในร้านยังมีพื้นที่เอาท์ดอร์ในสวน ที่สามารถจัดงานเลี้ยงแบบส่วนตัวได้อีกด้วย
Masala Art (มาซาล่า อาร์ท)
Masala Art เป็นร้านอาหารอินเดียต้นตำรับขนานแท้ โดยเชฟประจำครัวเป็นชาวอินเดียมากฝีมือและมีประสบการณ์ตรงจากโรงแรม 5 ดาว ที่นี่จะเน้นเสิร์ฟอาหารอินเดียทางเหนือ ที่มีทั้งเมนูเนื้อสัตว์และมังสวิรัติ ส่วนใหญ่สไตล์เน้นเพื่อสุขภาพ ไขมันน้อย แคลอรี่ต่ำ อีกทั้งยังใส่ใจทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบที่สดใหม่ เครื่องปรุงสุขภาพ เช่น ใช้ครีมที่มีไขมันต่ำแทนการใช้กะทิ
การันตีคุณภาพความอร่อยด้วยรางวัลร้านอาหารยอดเยี่ยมตั้งแต่ปี 2009-2016 จากทั้ง Thailand’s Best Restaurants, Thailand Tatler Best Restaurants, Bangkook’s Best Restaurant Awards ฯลฯ ปัจจุบัน Masala Art ขยับขยายสาขาเสิร์ฟความอร่อยที่ iconsiam อีกหนึ่งสาขา ซึ่งยังคงเน้นไว้ทั้งเรื่องคุณภาพและรสชาติที่คออาหารอินเดียต้องยกนิ้วเช่นเคย
Maya Restaurant and Bar (มายา เรสเตอรองท์ แอนด์ บาร์)
Maya Restaurant and Bar ร้านอาหารอินเดียและบาร์ บนชั้น 29 ของโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ เสิร์ฟอาหารอินเดียฟิวชั่นที่ทานง่าย ถูกปาก ที่นี่มีความพิเศษคือทุกวันอาทิตย์เขาจะมี ‘Subday Brunch’ แต่ไม่ได้จำกัดเฉพาะบุฟเฟ่ต์อาหารอินเดียเท่านั้น แต่ยังมีอาหารนานาชาติอีกนานาเมนูให้เลือกเติมอิ่มกันแบบจัดเต็ม
แต่พระเอกของงานอย่างอาหารอินเดีย ก็ต้องบอกว่าขึ้นชื่นเรื่องรสชาติที่เหมือนเสิร์ฟความอร่อยส่งตรงมาจากแดนภารตะขนานแท้ โดยมีทั้งเมนูแกงต่างๆ ข้าว แป้ง ที่มีเชฟมารังสรรค์แต่ละจานให้แบบสดๆร้อนๆ พร้อมรับประทานกันเลยทีเดียว
ส่วนใครจะไปสังสรรค์ดินเนอร์ในวันธรรมดา บรรยากาศก็หรูหราสุดๆ มีวิวเมืองให้ชมอย่างเต็มตา คละเคล้าความอร่อยและเครื่องดื่มเย็นๆ จากบาร์ที่พร้อมเสิร์ฟให้คุณอร่อยแบบครบรส
Punjab Grill Bangkok (ปัญจาบ กริลล์)
เปิดประสบการณ์ทานอาหารอินเดียในบรรยากาศสุดหรูหราสไตล์อินเดีย ก็ต้องที่ ภัตตาคารอินเดียชั้นเลิศอย่าง Punjab Grill Bangkok ที่ขยับขยายสาขา มาเสิร์ฟความอร่อยเป็นสาขาที่ 3 ในกรุงเทพฯ (ตั้งแต่ปี 2016) หลังครัวที่อาบูดาบีและสิงคโปร์ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยม จนส่งให้ร้านได้รับรางวัล Best North Indian Restaurant in South Mumbai จาก Time Food Awards 2014 มาประดับฝาผนัง การันตีคุณภาพให้นักชิมทั่วโลกรับรู้กันเลยทีเดียว
โดยร้านจะเน้นเสิร์ฟอาหารอินเดียทางเหนือแบบต้นตำรับ ซึ่งเชฟเองก็เป็นชาวอินเดียแท้ๆ ดังนั้นทุกเมนูที่ปรากฏอยู่ในรายการอาหาร จึงล้วนเป็นอาหารอินเดียที่คนท้องถิ่นทานกันจริงๆ นอกจากนี้ในวันอาทิตย์เขาก็มี ‘Subday Brunch’ แสนอร่อยให้อิ่มกันแบบคุ้มค่า โดยขนเมนูอาหารอินเดียมาให้เลือกชิมแบบจัดเต็ม พร้อมขนมหวานและเครื่องดื่มสไตล์นายจ๋าอีกเพียบ
Rang Maha (ราง มาฮาล)
Rang Mahal ร้านอาหารอินเดียเหนือที่ชื่อร้านเป็นภาษาฮินดีที่แปลว่า “พระราชวังสีสันสวยงาม” การตกแต่งของเขาจึงเน้นความหรูหราอลังการสุดๆ และด้วยทำเลที่ตั้งบนชั้น 26 ของโรงแรมแรมแบรนด์ ยามค่ำคืนจึงมีวิวเมืองกรุงเทพเป็นฉากหลังให้ซึมซับบรรยากาศดีๆ กันอย่างเต็มที่
ในส่วนของเมนูอาหารก็เด็ดไม่แพ้กัน เรียกว่าเป็นตัวจริงเรื่องอาหารอินเดียเลยก็ว่าได้ มีเมนูซิกเนเจอร์ที่ส่งตรงความอร่อยแบบต้นตำรับมาให้ลิ้มลองมากมาย เช่น แกงแกะอบหัวหอมและเครื่องเทศ, แกงกุ้งสไตล์อินเดีย, ข้าวหมกไก่อินเดีย, ชีสคอทเทจหั่นเต๋า, แป้งนานหมักเนย และอื่นๆอีกมากมาย
นอกจากนี้ยังมี ‘Sunday Brunch’ ที่มีไลน์อาหารอินเดียให้อิ่มอร่อยมากกว่า 50 รายการ ทั้งคาวและหวาน รวมถึงเครื่องดื่มด้วย