15 ร้านข้าวแช่คลายร้อน ต้อนรับสงกรานต์ 2562
คัมภีร์ข้าวแช่ 15 ร้านดังทั่วกรุงแห่งปี 2562 ร้านไหนเด่น ร้านไหนดัง ร้านไหนห้ามพลาด รีบไปตามรอยกันได้เลย
“ข้าวแช่” เมนูอาหารโบราณตำรับชาววังที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน โดยเมื่อหลายร้อยปีก่อน ข้าวแช่ถือเป็นอาหารของชาวมอญ ก่อนที่ชาวไทยจะรับธรรมเนียมมา จนกลายเป็นเมนูสุดฮิตในช่วงฤดูร้อนของทุกๆ ปี
ข้าวแช่เป็นข้าวสวยที่ลอยมาในน้ำที่มีกลิ่นหอมของมะลิ พร้อมใส่น้ำแข็งเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความสดชื่น ก่อนจะเสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียง เช่น ลูกกะปิ, หอมแดงยัดไส้, พริกหยวกยัดไส้, หมูฝอยหรือเนื้อฝอย, ปลาผัดหวาน, ไชโป้วหวาน และผักแนม (กระชาย, มะม่วง, แตงกวา, ต้นหอม) โดยเครื่องเคียงส่วนใหญ่จะเหมือนกันในทุกๆ ร้าน แต่จะมีบางอย่างที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงตามสูตรของแต่ละที่
ส่วนวิธีการรับประทาน จะเริ่มต้นด้วยลูกกะปิเป็นลำดับแรก ก่อนจะตามด้วยข้าว และเครื่องเคียงอื่นๆ เป็นลำดับต่อไป สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ เราจะไม่นิยมนำเครื่องเคียงตักใส่ลงไปในข้าวแช่ แต่จะทานแยกกันเป็นคำๆ เพื่อการคงรสชาติและความหอมของข้าวแช่ไว้
เพื่อเป็นการต้อนรับฤดูร้อนและเทศกาลสงกรานต์ เราเลยขอรวบรวม 15 ร้านข้าวแช่ทั่วกรุงเทพฯ ทั้งร้านเก่าแก่สูตรโบราณแบบชาววัง, ร้านอาหารในโรงแรม 5 ดาว ไปจนถึงข้าวแช่แบบ All You Can Eat ก็มีให้เลือกตามรอยกันแบบเต็มอิ่ม ให้ทุกคนสามารถคลายร้อนกันได้แบบสไตล์ไทยๆ อยากรู้แล้วใช่ไหมว่ามีที่ไหนอร่อยบ้าง งั้นตามมาดูกันเลยดีกว่า
Miss Siam (โรงแรม Hua Chang Heritage)
เริ่มต้นร้านแรกกันแบบจัดหนักจัดเต็ม กับข้าวแช่แบบ All You Can Eat ที่ให้อิ่มอร่อยกันได้แบบไม่จำกัดท่ามกลางบรรยากาศความคลาสสิคแบบไทยร่วมสมัย คลายร้อนและชื่นใจไปกับสำรับข้าวแช่ที่เป็นสูตรเฉพาะของทางโรงแรม Hua Chang Heritage
โดยทางหัวหน้าเชฟตั้งใจสืบทอดต้นตำรับข้าวแช่ วิธีการปรุงรส รวมไปถึงการให้บริการแบบไทยๆ ให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสบรรยากาศแบบต้นตำรับแท้ๆ จุดเด่นสำคัญอยู่ที่การนำข้าวมาแช่น้ำลอยดอกมะลิ, ดอกชมนารถ, ดอกกุหลาบมอญ และกระดังงา ทำให้ได้รสชาติหอมหวาน เคล้ากลิ่นละมุนจากการอบควันเทียน
เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงหลากหลายรสชาติครบรส อาทิ ลูกกะปิ, ไข่แดงเค็มทอด, ไชโป้วผัดหวาน, พริกหยวกสอดไส้หมู, หอมแดงสอดไส้ปลาแห้ง, หมูปั้นปลาอินทรีย์, พริกแห้งยัดไส้, หมูหวานฝอย, แตงโมลำไยปลาแห้ง และเครื่องเคียงผักสด
นอกจากนี้ยังมีอาหารไทยอื่นๆ ให้เลือกชิมกันแบบไม่อั้น อาทิ ยำดอกแค, ข้าวคลุกน้ำพริกระกำ, หมูฮ้อง และปิดท้ายด้วยขนมหวานสไตล์ไทยๆ อีกมากมาย
ส่วนการตกแต่งของห้องอาหาร Miss Siam ก็สวยงามหรูหราในสไตล์ไทยร่วมสมัย สามารถนั่งทานกันได้ในห้องแอร์เย็นๆ แบบสวยๆ หรือจะนั่งรับลมในโซนเอ้าท์ดอร์ก็เก๋ไก๋ไม่หยอก แถมการเดินทางยังสะดวกสบาย เพราะอยู่ใจกลางเมืองแบบสุดๆ สามารถไปช้อปปิ้งต่อที่สยามก็ย่อมได้เช่นกัน
ข้าวแช่ตำรับหัวช้าง ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.30-14.30 น. ในราคา 675 บาทต่อท่าน เริ่มแล้ววันนี้ ถึง 15 พ.ค. 2562
Up & Above Restaurant and Bar (โรงแรม The Okura Prestige Bangkok)
แม้จะเป็นโรงแรมแบรนด์ญี่ปุ่น แต่ที่โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ก็มีข้าวแช่ให้บริการเช่นกัน โดยที่นี่จะเน้นเป็นสูตรต้นตำรับ ที่ใช้ข้าวหอมมะลิหุงใหม่เรียงเม็ดสวยงาม แช่ในน้ำอบหอมจากดอกไม้ไทยหลายชนิด
ให้บริการพร้อมกับเครื่องเคียงรสชาติกลมกล่อมหลายรายการ ที่จัดเป็นสำรับอย่างพิถีพิถันตามรูปแบบชาววัง อาทิ ลูกกะปิทอด, ปลายี่สนผัดน้ำตาล, ไชโป้วผัดหวานกับหอมเจียว, เนื้อและหมูหวานฝอย, พริกหยวกไส้หมูสับ และผักสด
โดยกิมมิคอีกหนึ่งอย่างคือ ที่นี่จะเสิร์ฟ Welcome Drink เพื่อเป็นการต้อนรับก่อน กับเครื่องดื่มเย็นชื่นใจคลายร้อน ที่มีส่วนผสมของน้ำตะไครและส้มยูซุ เสิร์ฟมาในขันเงินสไตล์ไทยๆ ดื่มแล้วสดชื่นสุดๆ และเมื่อทานเสร็จ ทางร้านจะมอบขันเงินจิ๋วสุดน่ารัก เป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านไปอีกด้วย
ส่วนไฮไลท์เด็ดอีกหนึ่งอย่างคือ บรรยากาศของ Up & Above Restaurant and Bar ที่ตั้งอยู่บนชั้น 24 ของโรงแรม มาพร้อมบรรยากาศสุดหรูหราน่านั่งชิล มีที่นั่งให้เลือก 2 โซน ทั้งอินดอร์และเอ้าท์ดอร์ สามารถมองเห็นวิวเมืองมุมสูงของย่านเพลินจิตได้อย่างชัดเจน แถมการเดินทางยังสะดวกสบาย เพราะตัวโรงแรมนั้นเชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS สถานีเพลินจิตกันเลยทีเดียว
เมนูข้าวแช่คลายร้อน ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 12.00-17.00 น. ในราคาชุดละ 590 บาท เริ่มแล้ววันนี้ ถึง 30 เมษายน 2562
อรรถรส (At-Ta-Rote)
ร้านอาหารไทยโบราณตำรับชาววังสุดฮอตแห่งยุคในซอยสุขุมวิท 39 ที่มีคุณยายป๋อมแป๋ม พิธีกรชื่อดังเป็นหุ้นส่วน จนทำให้นักชิมหลายคนต่างอยากมาลิ้มลองรสชาติความอร่อยสักครั้ง ซึ่งที่ร้านอรรถรสก็มีบริการข้าวแช่ต้อนรับฤดูร้อนด้วยเช่นกัน
โดยข้าวแช่ของที่นี่เป็นต้นตำรับแห่งเมืองพระนคร มาพร้อมความหอมและเย็นชื่นใจของน้ำลอยดอกไม้ ซึ่งที่ร้านใช้ข้าวที่ถูกขัดมาเป็นอย่างดี เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง 7 ชนิด ได้แก่ พริกหยวกไส้หมูสับ, หอมแดงสอดไส้ปลา, หมูฝอย, ไชโป้วหวาน, ลูกกะปิทอด, ผักสด และปิดท้ายด้วยไข่เค็ม
นอกจากนี้ที่ร้านยังมีบริการอาหารไทยตำรับชาววังอีกหลากหลายเมนู ซึ่งบางเมนูนั้นถือว่าหาทานได้ยากแล้วในปัจจุบัน ส่วนการตกแต่งของร้านก็มาในสไตล์ไทยร่วมสมัย ผสานกับการใช้อุปกรณ์แบบไทยๆ มาประดับประดาให้ดูเก๋ไก๋ยิ่งขึ้น เช่น ชะลอม, ถ้วยชามสังกะสี, เครื่องสานชนิดต่างๆ และหมอนอิงลายผ้าขาวม้า
ข้าวแช่อรรถรส ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-22.00 น. ในราคาชุดละ 380 บาท เริ่มแล้ววันนี้ ถึง ประมาณกลางเดือนพฤษภาคม แต่ต้องโทรจองล่วงหน้า เพราะอาหารมีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน
หลายรส ทองหล่อ
ร้านอาหารไทยสุดคลาสสิคที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานหลายปี โดยเมนูข้าวแช่ของที่นี่ มีขายกันตลอดทั้งปี โดดเด่นด้วยสูตรที่เป็นแบบต้นตำรับชาววังแท้ๆ ซึ่งคุณแม่ของทางเจ้าของร้านได้มีโอกาสเข้าไปคลุกคลีอยู่ในวัง และเรียนรู้เรื่องราวการทำอาหารมา ก่อนนำมาประยุกต์เป็นเมนูข้าวแช่ชาวววังในสไตล์ของร้านหลายรสให้ทุกคนให้ลิ้มลองกัน
เริ่มต้นความอร่อยกันด้วยเครื่องเคียงที่มีถึง 7 อย่าง ได้แก่ พริกหยวกสอดไส้หมูสับ, หอมแดงสอดไส้ปลา, ลูกกะปิทอด, ปลายี่สนผัดหวาน, หมูหวาน, ไชโป้วหวาน และผักสด ส่วนข้าวจะใช้เป็นข้าวที่เป็นเม็ดอย่างดี เคี้ยวนุ่ม หอมกลิ่นควันเทียน ทานแล้วเย็นชื่นใจสุดๆ
นอกจากนี้ทางร้านยังมีบริการอาหารไทยชาววังสูตรโบราณชนิดอื่นๆ ให้ได้ลองสั่งมาทานกันอีกด้วย สำหรับด้านในร้านตกแต่งแบบเรียบง่าย ให้บรรยากาศแบบอบอุ่นเป็นกันเอง โดยร้านตั้งอยู่ใน ซ.สุขุมวิท 49 อยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลสมิติเวช
ข้าวแช่ชาววัง ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-21.30 น. ในราคาชุดละ 300 บาท พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบไทยๆ กันตลอดทั้งปี
สงวนศรี
ร้านอาหารไทยเก่าแก่บน ถ.วิทยุ ที่ยังคงความฮอตไม่เสื่อมคลาย เป็นกิจการครอบครัวที่สืบต่อกันมาแบบรุ่นสู่รุ่น แต่ยังคงรสชาติความอร่อยไว้ได้เป็นอย่างดี จนความอร่อยไปเข้าตา Michelin Guide Bangkok ทำให้ทางร้านได้รับรางวัล Bib Gourmand หรือร้านอาหารอร่อยคุ้มค่าในราคาย่อมเยา จนความฮอตทวีคูณขึ้นเป็น 2 เท่า เรียกว่าถ้าไม่ได้โทรมาจองก่อน ไม่มีทางได้กินแน่นอน
สำหรับเมนูข้าวแช่ ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดที่ต้องห้ามพลาด ซึ่งมีขายเฉพาะช่วงฤดูร้อนเท่านั้น โดยข้าวของที่นี่จะใช้น้ำลอยดอกมะลิเป็นหลัก ทำให้มีกลิ่นหอมละมุน เพิ่มความเย็นด้วยน้ำแข็งก้อน ซึ่งแตกต่างจากร้านอื่นที่นิยมใช้น้ำแข็งเกล็ด ส่วนเครื่องเคียงก็เสิร์ฟมาให้แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น พริกหยวกสอดไส้หมูสับ, ลูกกะปิทอด, หอมแดงสอดไส้ปลา, หมูฝอย, ผักสด และไชโป้วทอดกรอบ ซึ่งแตกต่างจากร้านอื่น ที่นิยมนำไปผัดหวาน
ภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่าย โดยระหว่างที่นั่งทาน เราจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นตลอดเวลา ทั้งคนที่โทรมาจองโต๊ะและคนที่โทรมาสั่งกลับบ้าน ตลอดจนบริการสั่งอาหารจากช่องทางต่างๆ ก็นั่งรอรับอาหารกันเต็มหน้าร้านไปหมด นี่จึงถือเป็นเครื่องยืนยันว่า ร้านนี้ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่ต้องมาลองชิมให้ได้สักครั้ง
ข้าวแช่สงวนศรี ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-15.00 น. ในราคาชุดละ 250 บาท เริ่มแล้ววันนี้ ไปจนหมดช่วงฤดูร้อน
บ้านวรรณโกวิท
ร้านอาหารเก่าแก่อีกหนึ่งร้านย่านราชดำเนิน ที่ดัดแปลงบ้านไม้เก่าแก่สไตล์โคโลเนียลที่ได้รับพระราชทานมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 อายุกว่า 130 ปี ให้กลายเป็นร้านอาหารสุดคลาสสิค
แน่นอนว่าเมนูยอดฮิตของร้านก็ต้องเป็นข้าวแช่แน่นอน โดยของที่นี่จะเป็นสูตรชาววัง ประกอบไปด้วยเครื่องเคียง 6 อย่าง ได้แก่ พริกหยวกสอดไส้หมูสับ, ไชโป้วหวาน, ปลายี่สนผัดหวาน, ลูกกะปิทอด, หมูฝอย และผักสด
วัตถุดิบทั้งหมดถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นไชโป้วหวานที่สั่งมาจากราชบุรี หรือปลายี่สนหวานที่สั่งตรงมาจากปากน้ำปราณบุรี จึงมั่นใจได้ถึงรสชาติที่บอกเลยว่าคุณภาพสุดๆ
นอกจากนี้ทางร้านยังมีอาหารไทยโบราณตำรับชาววังอีกหลากหลายเมนูคอยให้บริการอีกด้วย ส่วนการตกแต่งก็เน้นความเป็นวินเทจ เหมือนเราได้ย้อนยุคไปยังสมัยรัชกาลที่ 6
ด้านในร้านมีเพียงไม่กี่โต๊ะเท่านั้น เพราะชั้น 2 ของบ้าน ยังมีครอบครัวของเจ้าของร้านพักอาศัยอยู่ จึงแนะนำให้โทรจองก่อน เพื่อความชัวร์ หากใครที่ชอบบรรยากาศแบบย้อนยุคสุคคลาสสิค และรสชาติอาหารแบบต้นตำรับแท้ๆ บอกเลยว่าห้ามพลาด
ข้าวแช่บ้านวรรณโกวิท ให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่ 11.00-15.00 น. ในราคาชุดละ 250 บาท มีขายตลอดทั้งปี
ข้าวแช่แม่ศิริ
มาถึงร้านแบบดั้งเดิมสไตล์ Street Food ในย่านบางลำพูบ้าง ซึ่งนี่ถือเป็นร้านเก่าแก่ของจริง เพราะขายกันมาตั้งแต่สมัยปลายรัชกาลที่ 5 จนถึงปัจจุบัน สืบทอดความอร่อยกันมาแล้ว 5 รุ่น
โดยข้าวแช่แม่ศิริถือได้ว่าเป็นข้าวแช่สูตรคนมอญแท้ๆ ที่เน้นความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน เริ่มต้นจากการเลือกข้าวคุณภาพดี พร้อมด้วยน้ำกรองสะอาด ก่อนนำไปอบควันเทียนและลอยด้วยดอกมะลิที่ปลูกเอง จึงมั่นใจว่าไร้สารพิษจริงๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียง ได้แก่ ไชโป้วหวาน, ปลายี่สนผัดหวาน, ลูกกะปิทอด และหมูฝอย โดยในบางช่วงจะมีพริกหยอดสอดไส้หมูสับให้บริการด้วย แต่ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ ณ ขณะนั้น
ตัวร้านจะเป็นรถเข็น พร้อมโต๊ะนั่งเพียงไม่กี่โต๊ะ บางคนก็นิยมสั่งกลับบ้านกันวันละหลายชุด ซึ่งความพิเศษของที่นี่คือ จะมีข้าวแช่ขายให้กินกันตลอดทั้งปี เรียกได้ว่าอยากมาตอนไหน ก็ย่อมต้องได้กิน แต่เราขอแนะนำว่าให้รีบมาตั้งแต่ร้านเปิด เพราะบางวันถ้าคนสั่งเยอะ ของก็อาจจะหมดก่อนปิดร้านได้
ข้าวแช่แม่ศิริ ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-16.00 น. ในราคาชุดละ 25 บาท มีขายตลอดทั้งปี
ข้าวแช่เพชรบุรี ตลาดนางเลิ้ง
อีกหนึ่งร้านข้าวแช่เก่าแก่ที่เปิดกันมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี ตั้งอยู่ในตลาดนางเลิ้ง ถือเป็นข้าวแช่สูตรต้นตำรับที่มาจากเพชรบุรีแบบแท้ๆ ซึ่งเจ้าของร้านก็เป็นคนเพชรบุรีเช่นกัน
โดยข้าวของที่นี่จะแช่มาในน้ำที่หอมดอกมะลิและกระดังงาไทย ทานแล้วชื่นใจสุดๆ ส่วนเครื่องเคียงมี 3 อย่างด้วยกัน ได้แก่ ลูกกะปิทอด, ปลายี่สนผัดหวาน และไชโป้วผัดหวาน
ร้านจะตั้งอยู่ในตลาดนางเลิ้ง เป็นร้านเล็กๆ ตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีโต๊ะให้นั่งทานประมาณ 2 โต๊ะ หรือจะซื้อกลับไปทานที่บ้านก็สะดวกเช่นกัน สำหรับข้าวแช่ของที่นี่จะมีขายกันทั้งวันและตลอดทั้งปี หากใครที่มีโอกาสแวะมาเดินตลาดแห่งนี้ ต้องแวะชิมข้าวแช่เมืองเพชรดูสักครั้ง
ข้าวแช่เพชรบุรี ตลาดนางเลิ้ง ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-17.00 น. ในราคาชุดละ 35 บาท มีขายตลอดทั้งปี
บ้านย่า
ร้านนี้ขอเอาใจคนฝั่งนนทบุรีกันบ้าง กับร้านอาหารไทยแท้โบราณสูตรต้นตำรับบน ถ.ติวานนท์ ที่มาพร้อมกับอาหารไทยที่หาทานยากในปัจจุบัน ผสานกับอาหารไทยประยุกต์ที่ปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย รสชาติโดดเด่นสุดๆ จนได้รับรางวัล The Plate หรือ ร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และปรุงอย่างพิถีพิถัน จาก Michelin Guide Bangkok
ส่วนเมนูข้าวแช่ของที่นี่ ถือเป็นหนึ่งไฮไลท์ประจำร้านที่หลายคนนิยมมาทาน แถมยังโดดเด่นสุดๆ ไม่เหมือนร้านอื่น เพราะเป็นข้าวแช่สูตรชาววังอัญชันสีสันแปลกตา มีสีม่วงครามสวยงาม มาพร้อมกลิ่นหอมของควันเทียนและดอกมะลิ ทานแล้วเย็นชื่นใจ ส่วนเครื่องเคียงก็มาแบบครบสูตร ทั้งพริกหยวกสอดไส้หมู, ไชโป้วผัดหวาน, หมูฝอย, ลูกกะปิทอด, หอมแดงสอดไส้ปลา และผักสด
บรรยากาศของร้านตกแต่งแบบสบายๆ แฝงไว้ด้วยความอบอุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนทานอาหารที่บ้าน โดยร้านตั้งอยู่ริม ถ.ติวานนท์ เดินทางสะดวกสบาย ยิ่งตอนนี้มีรถไฟฟ้าสายสีม่วงด้วยแล้ว ยิ่งเดินทางง่ายขึ้นกว่าเดิม
ข้าวแช่สูตรชาววังอัญชัน ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.30-21.00 น. ในราคาชุดละ 275 บาท มีขายตลอดทั้งปี
ชิมไทย
ร้านอาหารไทยสไตล์โฮมเมดในย่านประชาชื่น ที่เน้นความสด สะอาด และคุณภาพของวัตถุดิบ โดยทางร้านจะใช้สูตรอาหารของครอบครัวมารังสรรค์เป็นเมนูต่างๆ มากมาย เสมือนได้ทานอาหารฝีมือคุณแม่
โดยในฤดูร้อนนี้ทางร้านก็มีบริการข้าวแช่ชาววังรสเด็ดมาให้ได้ลิ้มลองกันด้วย เริ่มต้นข้าวที่ลอยมาในน้ำสุดชื่นใจ พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกมะลิ ส่วนเครื่องเคียงก็มีมาอย่างจัดเต็ม อาทิ พริกหยวกสอดไส้หมู, หอมแดงสอดไส้ปลา, ไชโป้วผัดหวาน, หมูฝอย, ลูกกะปิทอด, พริกแห้ง และผักสด
ในส่วนของร้านจะตกแต่งอย่างเรียบง่าย ติดแอร์เย็นสบาย เหมาะแก่ฤดูร้อนเป็นอย่างยิ่ง โดยตัวร้านจะตั้งอยู่ปากซอยประชาชื่น 24 พอดิบพอดี ไม่ต้องเข้าซอยให้ยุ่งยาก
ข้าวแช่ชาววัง ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-22.00 น.ในราคาชุดละ 190 บาท เริ่มแล้ววันนี้ ถึง ประมาณเดือนมิถุนายน 2562
บ้านแม่ยุ้ย
ร้านอาหารไทยสไตล์โฮมคุ้กกิ้งตำรับคุณยาย ที่เปิดบริการมากว่า 15 ปี โดยสูตรอาหารของทางร้านถือเป็นสูตรเด็ดประจำครอบครัว ที่สืบทอดกันมาแบบรุ่นต่อรุ่นจนถึงปัจจุบัน ซึ่งยังคงรสชาติแบบดั้งเดิมเอาไว้ได้ไม่เปลี่ยนแปลง
สำหรับข้าวแช่ของบ้านแม่ยุ้ย เป็นสูตรซอยราชครู มีความพิเศษตรงที่ข้าวนึ่งขัดเม็ดเรียวสวย แช่ในน้ำแร่ธรรมชาติ หอมกลิ่นดอกมะลิที่ทางร้านปลูกเอง เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียงสุดพิเศษหลากชนิด อาทิ พริกหยวกสอดไส้หมูสับ, ปลาช่อนหวานเคลือบน้ำตาล, หมูย่างฝอยกรอบ, ไชโป้วผัดหวาน, หอมแดงสอดไส้ปลายี, ลูกกะปิทอด และผักสด
ตัวร้านตั้งอยู่ที่ ซ.ราชครู มาพร้อมการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยการดัดแปลงบ้านเก่าอายุกว่า 50 ปี มาแปลงโฉมให้ดูทันสมัยและเข้ากับยุคมากยิ่งขึ้น แฝงด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง พร้อมครัวเปิด ที่สามารถมองเห็นเชฟรังสรรค์อาหารได้ในทุกขั้นตอน
ข้าวแช่แม่ยุ้ย ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-22.00 น. ในราคาชุดละ 320 บาท เริ่มแล้ววันนี้ ถึง 30 เมษายน 2562 แต่ต้องโทรจองล่วงหน้า เพราะมีจำนวนจำกัดต่อวัน
สวนกุหลาบ
ยังคงจัดจ้านกันอยู่ในย่านอารีย์ เพียงขยับตัวมาอีกนิด ก็จะพบกับร้านสวนกุหลาบ ร้านอาหารไทยเก่าแก่ ที่มีอาหารไทยหลากหลายเมนูไว้คอยบริการ พร้อมเสริมทัพด้วยอาหารจีนและอาหารนานาชาติอีกเล็กน้อย
ส่วนใครที่อยากคลายร้อนแบบไทยๆ ทางร้านก็พร้อมจัดเมนูข้าวแช่ เอาไว้ให้ได้สดชื่นกันเต็มที่ เริ่มต้นด้วยความหอมเย็นชื่นใจของข้าว ที่ละมุนไปด้วยกลิ่นของมะลิ พร้อมเติมเต็มด้วยเครื่องเคียงมากมาย ได้แก่ พริกหยวกสอดไส้หมู, หมูฝอย, ลูกกะปิทอด, หอมแดงสอดไส้ปลา, ปลายี่สนผัดหวาน, ไชโป้วผัดหวาน, หมูชุบแป้งทรงเครื่อง และผักสด
บรรยากาศของร้านค่อนข้างกว้างขวาง มีที่จอดรถมากมายคอยรองรับ ด้านนอกร่มรื่นด้วยต้นไม้ ส่วนที่นั่งแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ อินดอร์ และ เอ้าท์ดอร์
ข้าวแช่ร้านสวนกุหลาบ ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-23.00 น. ในราคาชุดละ 220 บาท เริ่มแล้ววันนี้ ไปจนหมดช่วงฤดูร้อน
กัลปพฤกษ์
ร้านอาหารไทยชื่อดังที่เปิดให้บริการมากว่า 39 ปี มีทั้งหมด 3 สาขาในกรุงเทพฯ ได้แก่ สีลม, สุขุมวิท 39 และเซ็นทรัลเวิลด์ โดยอาหารทุกจานของร้านได้รับความพิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบ เพื่อความสดใหม่และปราศจากสารเคมี
สำหรับเมนูข้าวแช่นั้นจะมีให้บริการเฉพาะช่วงฤดูร้อนเท่านั้น เป็นข้าวแช่สูตรวังประมวญ มีความพิเศษตรงที่ตัวของน้ำจะมีการนำไปแช่กับดอกมะลิสดทิ้งไว้ 1 คืน จึงทำให้มีกลิ่นหอมและเย็นชื่นใจเมื่อรับประทาน ส่วนเครื่องเคียงนั้น มีให้เลือกอร่อยกันถึง 8 อย่าง ได้แก่ ลูกกะปิทอด, หอมแดงสอดไส้ปลาช่อนแห้ง, พริกหยวกสอดไส้หมู, ไชโป้วผัดหวาน, ปลาช่อนแห้งผัดหวาน, ปลายี่สนผัด, ไข่แดงเค็ม และผักสด
ส่วนคอนเซปต์หลักของร้านกัลปพฤกษ์คือ ต้องการให้ลูกค้าได้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนทานอาหารที่บ้าน เริ่มต้นตั้งแต่อาหารที่เสิร์ฟไปจนถึงการตกแต่งร้าน
ข้าวแช่วังประมวญ ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-22.00 น. (เวลาทำการจะแตกต่างกันไปในแต่ละสาขา) ในราคาชุดละ 350 บาท เริ่มแล้ววันนี้ ถึง ประมาณเดือนพฤษภาคม 2562
Apinara
ร้านอาหารไทยสุดพรีเมียมยอดฮิต ที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังจนเป็นที่รู้จักของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของ Groove at Central World เน้นให้บริการอาหารไทยแบบร่วมสมัยที่มีสูตรและเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบที่ทางร้านคิดขึ้นมาเองอย่างพิถีพิถัน
โดยข้าวแช่นั้นจะมีให้บริการเฉพาะช่วงฤดูร้อนเท่านั้น เสิร์ฟมาในดิสเพลย์สุดครีเอทีฟสไตล์ไทยๆ บนหาบหวายตะกร้าสาน ดูแล้วสวยงามและเก๋ไก๋มากๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปลงโซเชียล
ส่วนวัตถุดิบแน่นอนว่าคัดสรรมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ข้าวสุกขัดแช่น้ำเย็น ที่มีกลิ่นหอมควันเทียนผสานกับกลิ่นดอกมะลิ ให้ความรู้สึกละมุนสุดๆ ส่วนเครื่องเคียงก็มีให้เลือกอร่อยกันถึง 7 อย่าง ได้แก่ ลูกกะปิทอด, หอมแดงสอดไส้ปลา, ไชโป้วผัดหวาน, หมูฝอย, ปลาหวาน, พริกหยวกสอดไส้หมู และผักสด ปิดท้ายด้วยน้ำแตงโม ที่เสิร์ฟมาให้ดับร้อนเย็นใจในเซ็ตอีกด้วย
บรรยากาศภายในร้านเน้นการตกแต่งแบบไทยๆ แต่ใส่ความร่วมสมัยผสมเข้าไปได้อย่างลงตัว พร้อมใส่ใจในทุกๆ รายละเอียดการตกแต่ง ที่นั่งแบ่งเป็น 2 โซน ทั้งแบบอินดอร์ ที่ให้ความเป็นส่วนตัว และแบบเอ้าท์ดอร์ที่สามารถนั่งมองผู้คนเดินผ่านไปมาได้ นอกจากนี้ยังมีบาร์เครื่องดื่มเอาไว้ให้แฮงค์เอ้าท์กับเหล่าผองเพื่อนได้อีกด้วย
ข้าวแช่เซ็ตพร้อมเครื่องดื่ม ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-22.00 น. ในราคาชุดละ 425 บาท เริ่มแล้ววันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2562 ที่ร้าน Apinara และ ร้าน Nara ทุกสาขา
S&P
ปิดท้ายคัมภีร์ 15 ร้านข้าวแช่กันด้วยร้านอาหารที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับ S&P ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่สะดวกตามรอยไปยังร้านข้าวแช่อื่นๆ เพราะ S&P มีสาขาให้เลือกตามไปอร่อยกันมากมายทั่วประเทศ หรือจะสั่งแบบ Delivery ให้มาเสิร์ฟความอร่อยถึงบ้าน ก็ย่อมได้เช่นกัน
สำหรับเมนูข้าวแช่ครั้งนี้ โดดเด่นสุดๆ ด้วยข้าวสีชมพูหวานสดใสที่ทำมาจากบีทรูท โดยทางร้านเลือกใช้เป็นข้าวหอมมะลิอย่างดี พร้อมเติมความหอมด้วยกลิ่นละมุนของดอกมะลิ ทานคู่กับเครื่องเคียงตามแบบฉบับไทยๆ อาทิ พริกหยวกสอดไส้ปูจ๋า, ลูกกะปิทอด ที่ใช้กะปิจากคลองโคนผสมกับสมุนไพร, หมูฝอย, ไชโป้วหวาน และผักสด
ปิดท้ายเซ็ต ด้วยของหวานประจำฤดูกาลอย่างข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้ ถือเป็นการจบมื้อได้อย่างสมบูรณ์
ชุดข้าวแช่บีทรูท+ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้ ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2562 ในราคาชุดละ 298 บาท ที่ S&P ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาในสนามบิน)