50 สนีกเกอร์ออกใหม่ประจำเดือนมกราคม - มีนาคม ต้อนรับปี 2020

เริ่มต้นที่ผลงานการคอลแลบระหว่าง 2 แบรนด์ดังอย่าง Stüssy และ Nike กับชื่อรุ่นรองเท้าที่มีชื่อว่า Air Zoom Spiridon Caged 2 ที่มาพร้อมกับ 2 สีให้เลือก เริ่มที่สี Fossil/Fossil-Black พื้นตาข่ายสีเบจ ตัดด้วยโลโก้แบรนด์สีดำ ส่วนอีกสีที่น่าจับจองไม่แพ้กัน คือสีขาวดำคลาสสิก Pure Platinum/Black-White ที่เพิ่มลูกเล่นด้วยตาข่ายสีเงินเมทัลลิครอบตัวรองเท้า และโลโก้ทรงวงรีของ Stüssy ที่บริเวณลิ้นรองเท้าและส้น

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Zoom Air ที่ช่วยเพิ่มความสบายในการสวมใส่และช่วยระบายอากาศได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า นอกจากจะใส่เพื่อจุดประสงค์ทางด้านแฟชั่นแล้ว รองเท้ารุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานด้านกีฬาอีกด้วย

สำหรับราคาอยู่ที่ 160 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,200 - 5,300 บาท และนอกจากรองเท้าแล้ว คอลเล็คชั่นนี้ยังมีไลน์เสื้อผ้าและแอสเซสซอรี่อื่น ๆ ที่น่าจับตามองอีกด้วย โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 27 มีนาคม ผ่านทางเว็บไซต์ Stüssy

ต่อกันที่อีกหนึ่ง collaboration จาก Supreme และ Timberland ในคอลเล็คชั่นที่มีชื่อว่า Supreme x Timberland Spring 2020 ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายออนไลน์ไปเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา และวางจำหน่ายในช็อปที่ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 28 มีนาคม

โดยในคอลเล็คชั่นนี้ประกอบด้วย 3 ไอเท็ม ได้แก่ หมวกทรง 6-Panel จำนวน 6 สี, Crewneck Sweater จำนวน 3 สี และสุดท้ายกับรองเท้า Euro Hiker Low ที่มาพร้อมตัวเลือกจำนวน 3 สี ได้แก่ สีดำ, แดง และเหลือง ซึ่งถือเป็นสีที่แบรนด์ Supreme ใช้อยู่บ่อย ๆ ในส่วนของวัสดุของรองเท้าที่ใช้ Patent Leather
ที่มีความเงาเป็นหลัก และยังมีการใช้ยางรีไซเคิลสำหรับพื้นรองเท้าอีกด้วย

ราคาของรองเท้าอยู่ที่ 24,200 เยน หรือประมาณ 7,300 บาท โดยผลกระทบจากเหตุการณ์ COVID-19 ซึ่งส่งผลให้ช็อปของ Supreme ต้องปิดอย่างไม่มีกำหนด ทาง Supreme ก็ใจดีช่วยงดค่าส่งสินค้าสำหรับยอดซื้อ 150 เหรียญสหรัฐขึ้นไป

ตระกูล Nike Running เปิดตัวโมเดล React Phantom Run Flyknit 2 ที่มาในดีไซน์แบบไร้เชือก และมีการเพิ่มโฟมเพื่อช่วยรองรับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงปริมาณยางที่พื้นรองเท้าด้านนอกที่เพิ่มมากขึ้น จึงช่วยยึดเกาะพื้นผิวได้ดีมากยิ่งขึ้น

โดยมีตัวเลือก 3 สี คือ สีขาว/เงินเมทัลลิค, สีขาวดำ และสีดำ/แดง/เขียว/ขาว พื้นรองเท้าด้านในข้างหนึ่งเป็นโลโก้แบรนด์ Nike ส่วนอีกข้างเป็นโลโก้ React ซึ่งเป็นชื่อรุ่น และโลโก้ Nike และ phantom ที่บริเวณส้น

รองเท้ารุ่นนี้วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมบนเว็บไซต์ Nike ราคาป้ายไทยอยู่ที่ 5,200 บาท

SK8-HI รองเท้าผ้าใบทรงหุ้มข้อสุดคลาสสิกตลอดกาลจาก Vans ถูกนำมาเพิ่มลวดลายใหม่ด้วยสัญลักษณ์อียิปต์โบราณ Ouroboros โดย Ouroboros คือสัญลักษณ์ของวัฏจักรการเกิด และการขึ้นเกิดใหม่ การทำลาย และการเติบโตขึ้น และลักษณะของวัฏจักรของธรรมชาติ

หน้าตาของรองเท้ายังคงเป็นรูปทางเดิมตามสไตล์ของ SK8-HI ใช้สีดำเป็นหลัก และมีการพิมพ์ลายสัญลักษณ์ Ouroboros ที่เป็นรูปมังกรกินหาง, ดวงอาทิตย์, พระจันทร์, ก้อนเมฆ และดวงดาว รวมอยู่ในสัญลักษณ์เดียว

นอกจากรุ่น SK8-HI แล้ว ยังมีรุ่น Era ที่ถูกนำมาพิมพ์ลายสุดเท่นี้เหมือนกัน โดยทั้งสองรุ่นได้วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยในวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา

ราคาของรุ่น SK8-HI อยู่ที่ 83 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,700 บาท และรุ่น Era ราคา 62 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,100 บาท

เริ่มต้นปีด้วยสีใหม่ล่าสุดของ Yeezy Boost 380 ที่ได้ชื่อรุ่นว่า Mist ที่งานนี้ออกมาครบเอาใจกลุ่มครอบครัวด้วยการการปล่อยแบบครบไซส์ ทั้งไซส์สำหรับผู้ใหญ่, เด็กโต และเด็กเล็ก

สีของรุ่น Mist ยังคงความเป็นโทนสีเทาตามแบบฉบับของ Yeezy Boost 380 เพิ่มเติมคือสีชมพูแซลมอนที่ด้านบนของตัวรองเท้ารวมถึงเชือกด้วย สำหรับลวดลายยังคงคล้ายกันกับที่ใช้สำหรับลาย "Alien" ส่วนพื้นรองเท้าด้านนอกที่เป็นสีขาวกึ่งโปร่งแสงแทนสีเขียวที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้า

สนนราคาของรองเท้ารุ่นนี้อยู่ที่ 8,200 บาทสำหรับไซส์ผู้ใหญ่ 6,200 บาท สำหรับไซส์เด็ก และ 5,300 บาทสำหรับไซส์เด็กเล็ก และวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยในวันที่ 25 มีนาคม 2563 ทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ adidas ซึ่งตามที่คาดเดาได้ว่ารองเท้ารุ่นนี้ได้ sold out เป็นที่เรียบร้อย

รองเท้าบาสเก็ตบอลรุ่น LeBron 17 Low ของ LeBron James จากค่าย Nike หลังจากเปิดตัววางจำหน่ายไปอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ทาง Nike ได้เพิ่มสีใหม่เข้ามาสู่ครอบครัว LeBron 17 ด้วยสีล่าสุดดำแดง (Black/University Red) ตัวรองเท้าเป็นสีดำผสมกับสีเทาเข้ม และตัดกับสีของหูรั้งเชือกสีแดง รวมกับโลโก้ต่าง ๆ บนตัวรองเท้าเช่นเดียวกัน และปิดท้ายด้วยพื้นรองเท้าสไตล์ Air Max สีดำ

กำหนดวางจำหน่ายจากเดิมที่มีกำหนดไว้วันที่ 15 มีนาคม ก่อนจะถูกเลื่อนมาเป็นวันที่ 27 มีนาคม สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้วที่เว็บไซต์ Nike สนนราคาป้ายไทยอยู่ที่ 7,000 บาท

ไม่ว่าแร็ปเปอร์คนดังอย่าง Travis Scott จะออกรองเท้ารุ่นไหนมา ก็ได้รับความนิยมแบบถล่มทลายและ sold out กันไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทาง Nike ก็ได้ปล่อยรองเท้ารุ่น
Travis Scott x Nike SB Dunk Low ออกมาผลาญเงินเหล่าสนีกเกอร์เฮดอีกครั้ง

หน้าตาของ Travis Scott x Nike SB Dunk Low นั้น ในส่วนของลายรองเท้าเป็นลายผ้าที่ตัดสลับกันหลายแบบมีทั้งลายสก๊อตและลาย Paisley พร้อมโลโก้ Swoosh ด้านข้างและกึ่งกลางของรองเท้าและมีสีที่แตกต่างกันในแต่ละข้างคือสีชมพูและสีดำหลัง มีการปักคำว่า Nike ที่บริเวณส้นรองเท้าด้วยด้ายสีชมพูอ่อน

สนนราคา 150 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,800 บาท และเป็นที่ทราบดีว่า รองเท้าคู่นี้ได้ sold out ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน

อีกหนึ่งการอัปเดตล่าสุดจากตระกูล Nike Free โดยทาง Nike เคลมว่ารองเท้ารุ่น 2020 นี้ “คือก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในเส้นทางวิวัฒนาการของ Free” เลยทีเดียว โดยมีการปรับดีไซน์ให้มีน้ำหนักเบากว่าและใกล้ชิดพื้นมากกว่ารุ่นก่อน จึงให้สัมผัสราวกับการเดินเท้าเปล่า น่าจะเอาใจสายวิ่งกันไปแบบเต็ม ๆ และที่เป็นรู้จักของรองเท้ารุ่น Flyknit ที่มีชื่อเสียงเรื่องความกระชับ และช่วยถ่ายเทอากาศเพื่อความเย็นขณะวิ่ง

ส่วนของสีนั้นมีให้เลือก 2 สีด้วยกัน คือ สี Black/Dark Smoke Grey และ Iron Grey/Aura เปิดตัววางจำหน่ายไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ในราคาป้ายไทย 5,000 บาท สามารถซื้อได้ที่เว็บไซต์ Nike

เอาใจสายวิ่งไปแล้วก็มาต่อกันที่สายเทรลกันบ้าง สำหรับรองเท้ารุ่น GEL-Nandi 360 สายวิ่งเทรลทั้งหลายน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีไม่มากก็น้อย ตัววัสดุหลักเป็นผ้า Mesh และหนังกลับ รวมทั้งเทคโนโลยีของพื้น GEL® จากรุ่น GEL-QUANTUM 360™

ล่าสุดทาง Asics ได้เพิ่มตัวเลือกสีใหม่เข้ามาในครอบครัว GEL-Nandi 360 ในชื่อ Tree Camo ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของสีเขียวกากี, สีเทา และสีครีมนั่นเอง โดยดีไซน์ยังคงเป็นรูปแบบเดิมเหมือนรุ่นก่อน ๆ ที่มีโลโก้ Asics และชื่อรุ่นบริเวณลิ้นรองเท้า โดยราคาอยู่ที่ 153 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,000 บาท

อีกหนึ่งโมเดลยอดนิยมจากค่าย adidas อย่าง UltraBOOST ในมาในธีมของ adidas Superstar ตัววัสดุเป็นหนัง มี 2 สีให้เลือกคือ ขาว/ดำ และ ดำ/ขาว พร้อมกับการวางโลโก้ adidas และ UltraBOOST ในสีทอง

กำหนดวางจำหน่ายวันที่ 22 มีนาคมบนเว็บไซต์ adidas US ด้วยราคา 200 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6,500 บาท

ปี 2020 นี้ ถือเป็นการครบรอบ 30 ปีของรองเท้ายอดฮิตอย่าง Air Max 90 แบรนด์ Nike ก็ไม่รอช้า ทำการส่งโมเดล Air Max 2090 ออกมาให้เหล่าสนีกเกอร์เฮดได้ยลโฉมกันก่อนตั้งแต่ต้นปี

Air Max 2090 ได้มีการเพิ่มระบบลดแรงกระแทกใต้ฝ่าเท้า ในขณะที่โครงสร้างแบบบูทด้านในและส้นบุนวมก็จะช่วยในเรื่องความกระชับ และยังมีการติดตั้งร่องยางพิเศษที่ให้ความยืดหยุ่นและปรับโฉมลายดอกยางจากรุ่นออริจินัลเพิ่มเติมเพื่อการยึดเกาะที่ดีขึ้นอีกด้วย

สำหรับรุ่น Photon Dust มาในสีขาว/Ice Blue ออกวางจำหน่ายไปเป็นที่เรียบร้อยในวัน Air Max Day เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ในราคาป้ายไทย 5,200 บาท

Converse จับเอาโมเดลยอดฮิตอย่าง Chuck 70 มาออกสีใหม่เอาใจแฟน ๆ กับสีแบบทูโทน วัสดุของรองเท้ายังคงเป็นผ้าแคนวาสเหมือนเดิม ในส่วนของสีคือ สีดำ-สีเทา และ สีขาว-สีขาวครีม โดยทั้งสองรุ่นจะมีแถบสีดำและสีส้มบนปลายผืนผ้า ในขณะที่รุ่นสีดำจะมีความพิเศษเล็กน้อยกับการเพิ่มแถบสีม่วงเข้ามาด้วย ส่วนเชือกรองเท้าก็เป็นสีเดียวกับรองเท้า

รองเท้า Converse “Black” และ “White & Off-White” Reconstructed Chuck 70 High ทั้งสองสีวางจำหน่ายแล้วในราคา 85 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,700 - 2,800 บาท

การจับมือกันอีกครั้งของ Reebok และแบรนด์สัญชาติบริติชอย่าง Cottweiler ที่ได้ประกาศการเปิดตัว Zip 3D Storm ครั้งแรกที่ Paris Fashion Week SS20 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยความพิเศษของรองเท้ารุ่นนี้ก็คือ เจ้ากระเป๋าอันจิ๋วที่ติดอยู่กับเชือกผูกรองเท้าตามสไตล์โอลด์สคูลที่เอาไว้สำหรับเก็บกุญแจ ซึ่งนักวิ่งช่วงต้นยุค 2000 น่าจะคุ้นเคยกันดีเพราะเป็นยุคที่กางเกงวิ่งยังไม่มีกระเป๋านั่นเอง

เปิดตัวด้วย 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีแดง, สีน้ำเงิน และสีดำ โดยการร่วมงานกันครั้งนี้ นอกจากจะมีรองเท้าแล้ว ยังมีไลน์เสื้อผ้าของแบรนด์ Cottweiler ที่ถูกนำกลับรีดีไซน์ใหม่ด้วยวัสดุอย่างผ้าไหมและผ้าลินิน

สนีกเกอร์ Reebok x Cottweiler Zig 3D Storm วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 27 มีนาคมในราคา 180 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,800 บาท

หลังจากประสบความสำเร็จจากการร่วมมือกันในรุ่น Wave Rider 10 ปีนี้ Wood Wood และ Mizuno กลับมาอีกครั้งกับการเปิดตัว Wave Rider 10 “02 Edition”

ในครั้งนี้ Wood Wood และ Mizuno ประกาศเปิดตัว Wave Rider 10“ 02 Edition” ที่เป็นรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่ไม่ว่าสายวิ่งหรือสายแฟชั่นก็น่าจะมองกันตาเป็นมัน สีของรองเท้าเป็นสีเรียบง่ายโทนสีขาว, เบจ, ครีม ตัดด้วยลายเส้นอย่างสีเขียวและสีส้ม

สำหรับราคา Wave Rider 10 “02 Edition” อยู่ที่ 140 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,500 บาท และวางจำหน่ายออนไลน์แล้วที่เว็บไซต์ของ Wood Wood

Adidas จับเอารองเท้าบาสเกตบอลสไตล์เรโทรรุ่น Crazy BYW มาปรับโฉมใหม่ผ่านการสร้างสรรค์ของ Pharrell Williams กับการรวมสีที่ทำให้รองเท้ารุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นคัลเลอร์ฟูลจากค่ายอาดิดาส

Crazy BYW 2.0 โดดเด่นด้วยพื้นรองเท้าชั้นกลาง BOOST และพื้นรองเท้าทำจากยางแกะสลัก พร้อมสีที่โดดเด่น Yellow Tint/Chalk Coral/Trace Purple ลิ้นรองเท้าสีส้มติดโลโก้ Hu ของ Pharrell ไว้ด้วย

CRAZY BYW 2.0 PHARRELL WILLIAMS พร้อมให้คุณจับจองเป็นเจ้าของแล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ adidas ในราคาป้ายไทย 5,500 บาท

Air Jordan 1 เป็นสนีกเกอร์ขึ้นหิ้งระดับตำนานของ Nike นับตั้งแต่ Michael Jordan ซูเปอร์สตาร์ผู้เล่น NBA แหวกกฎเกณฑ์ของลีกใส่ลงสนามครั้งแรกเมื่อปี 1985 กระทั่งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางจนถึงปัจจุบัน

ล่าสุด Air Jordan เปิดตัว Air Jordan 1 Low SE ในสีใหม่ที่มีชื่อว่า Laser Blue กับการใช้สีขาว, ดำ และ Laser Blue ราคาขายป้ายไทยอยู่ที่ ประมาณ 4,200 บาทบนเว็บไซต์ Nike

มุ้งมิ้งกันแบบสุด ๆ กับคอลเลคชั่น KARHU x MOOMIN ที่มีชื่อว่า “A Proper Introduction” เอาใจแฟนคลับ Moomin Family ที่งานนี้ปล่อยรองเท้าออกมาถึง 5 แบบ โดยเป็นโมเดลของผู้ใหญ่ 2 แบบ และอีก 3 แบบเป็นรองเท้าสำหรับเด็ก

การนำโมเดล Albatross 82 และ Legacy 96 มาแต่งแต้มลวดลายใหม่ โดยดีไซน์ในคอลเลคชั่นนี้มาในสีสันสดใสอย่างโทนฟ้า-น้ำเงิน และโทนส้ม-น้ำเงิน และบวกด้วยการพิมพ์ลายอาร์ตของ Moomin บนตัวรองเท้าไปจนถึงลิ้นของรองเท้า

คอลเลคชั่นนี้วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยร้อยบนเว็บไ ซต์ Karhu สำหรับราคาของรุ่น Albatross 82 ในสีโทนฟ้า-น้ำเงิน Stellar Cameo Blue อยู่ที่ 98 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,200 บาท และรุ่น Legacy 96 ในสีโทนส้ม-น้ำเงิน Burnt Orange/Rainy Day ราคาอยู่ที่ 130 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,200 บาท

หลังจากเปิดตัวผลงานการคอลแลบสุดฮือฮาไปเมื่อปลายปี 2019 ระหว่าง adidas และแบรนด์ไฮเอนด์ระดับโลกอย่าง Prada ที่ได้เลือกโมเดลรองเท้ารุ่นคลาสสิกอย่าง Superstar มาสร้างสรรค์ใหม่ให้มีความเฉพาะตัว และเรียบหรูมากขึ้น

หลังจากที่เปิดขายรุ่นแรกแบบเซ็ตคู่กับกระเป๋าเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมปีที่แล้วไปแบบจำนวนจำกัดเพียง 700 เซ็ต ครั้งนี้ 2 แบรนด์ยักษ์ใหญ่กลับมาอีกครั้งกับการออกรองเท้าใหม่มาอีก 2 สีด้วยกันได้แก่ สีดำล้วน และสีขาวดำ ที่ลิ้นรองเท้าและพื้นรองเท้าด้านในมีโลโก้ของทั้ง 2 แบรนด์, พิมพ์ปั๊มโลโก้ Prada Made in Italy ที่ด้านข้าง และโลโก้ adidas ที่ส้นของรองเท้า

วันที่วางจำหน่ายยังไม่มีกำหนดแน่ชัด (ณ วันเขียนบทความนี้) แต่มีการคาดการณ์ว่าจะปล่อยบนเว็บไซต์ adidas และช็อปของ Prada ภายในเดือนมีนาคม ที่ราคาขาย 450 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ14,600 บาท

มาต่อกันที่อีกหนึ่งแบรนด์ไฮเอนด์สุดหรูอย่าง Dior ที่ปล่อยสนีกเกอร์ตัวใหม่เข้ามาสู่ครอบครัว Walk’n’Dior กับทรง Mid-High วัสดุเป็นหนังลูกวัวสีขาว โลโก้ซิกเนเจอร์ของ Christian Dior ที่เชือกรองเท้า และสัญลักษณ์ J'Adior ที่บริเวณส้นรองเท้า

ส่วนราคาก็สมน้ำสมเนื้อกับความหรูของแบรนด์ที่ 990 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 32,000 บาท สามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ Dior หรือเช็คที่ช็อป Dior สาขาใกล้บ้านได้เลย

ผลงานการคอลแลบที่สาวกสนีกเกอร์และสายสตรีทตั้งตาคอย โดยทาง Supreme ได้มีการปล่อยรูปออกมายั่วแฟน ๆ เมื่อช่วงต้นปี โดยตัวรองเท้าทำจากหนังเกรดพรีเมี่ยม ติดโลโก้ Swoosh ที่ด้านข้างตามฉบับของ Air Force 1 และโลโก้ SUPREME ขนาดเล็กสีแดงที่ส้นเท้า แท็กลิ้นและพื้นรองเท้าด้านในมีโลโก้ของทั้งสองแบรนด์อยู่ด้วยกัน เพิ่มเติมด้วยลูกเล่นด้วยเชือกรองเท้าที่มีโลโก้ Supreme

มาพร้อมกับตัวเลือกสีจำนวน 2 สีด้วยกัน คือสีขาวคลาสสิค และสีดำล้วน โดยราคาขายอยู่ที่ 96 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,200 บาท (แต่ราคารีเซลได้ยินแว่ว ๆ ว่าจะไปถึงหลักหมื่นแน่นอน)

Supreme x Nike Air Force 1 ซีซั่นนี้ วางขายไปเรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคมทางเว็บไซต์ Supreme และก็เป็นไปตามคาดที่รองเท้ารุ่นนี้ sold out ไปในเวลาไม่กี่นาที สร้างความหงุดหงิดใจให้กับเหล่าสนีกเกอร์เฮดทั่วโลกเป็นอย่างมาก จนทาง Supreme ต้องออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า ไม่ต้องหงุดหงิดกันไป เพราะทางแบรนด์วางแผนที่จะรีสต็อกสนีกเกอร์รุ่นดังกล่าวเรื่อย ๆ ตลอดทั้งซีซั่นสปริง/ซัมเมอร์อยู่แล้ว ก็เอาเป็นว่าใครที่รอรีสต็อกก็ติดตามข่าวสารบนโซเชียล มีเดียของ Supreme เอาไว้ให้ดีละกัน

Collaboration สุดไฮป์จาก Fear of God แบรนด์เสื้อผ้าไฮเอนด์ และ Converse ที่หยิบเอาโมเดลยอดฮิตตลอดกาลอย่างอย่าง Chuck 70 มาดีไซน์ใหม่ โดยปล่อยออกมา 2 สีด้วยกันคือ Black/Egret และ Ivory/Black ส่วนวัสดุของรองเท้ายังคงเป็นผ้า Canvas เพิ่มความพิเศษด้วยลิ้นรองเท้าแบบหนังสุดหรู รวมถึงป้ายส้นของ Converse และ Fear of God คนละข้าง รวมไปถึงเชือกผููกแบบรอบข้อเท้า ปิดท้ายด้วยแพ็คเกจกล่อง “Essentials” สุดมินิมอล

เปิดขายบนเว็บไซต์ของ Converse ไปแล้วตามร้านรีเทลช็อปในราคา 110 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,500 บาท โดยในไทยก็มีการจำหน่ายแบบจับสลากไปแล้วผ่านทางร้าน Carnival Bkk ซึ่งก็เป็นคาดเดาได้ไม่ยากว่ารองเท้ารุ่นนี้ได้ sold out ไปเป็นที่เรียบร้อย

Virgil Abloh เพิ่มรองเท้าจอร์แดนคู่ที่สองเข้าสู่ครอบครัว Nike collaborations ของเขากับ Jordan 5 Retro High Off-White Black ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Air Jordan 5 Black Metallic โดย Virgil ได้นำเสนอความคลาสสิกของ Air Jordan บวกกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาตามสไตล์ Off-White

Jordan 5 Retro High Off-White Black มาในโทนสีดำ/เทาเข้ม พร้อมกับลิ้นสะท้อนแสง 3M พร้อมโลโก้ Jumpman สีแดงบนลิ้นและพื้นรองเท้าด้านนอก

วางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ในช่วงสุดสัปดาห์ NBA All-Star 2020 ที่ชิคาโกในราคา 225 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 7,300 บาท

อีกหนึ่งผลงานจากค่าย Nike LeBron โดยรุ่น Nike LeBron VII QS Fairfax นี้เป็นรุ่นที่ทำพิเศษให้กับ Fairfax High School โดยวัสดุของตัวรองเท้าเป็นหนังและหนังแก้ว มาพร้อมกับโลโก้ L23 ของ LeBron James ที่บริเวณด้านหลังรองเท้าพร้อมคำว่า Fairfax ไว้ตรงด้านข้างของส้นรองเท้าด้วย ปิดท้ายด้วยเทคโนโลยีรองรับการกระแทกตามแบบฉบับของ Air Max

โทนสีดำแดง (Black/Varsity Red/Varsity Maize) ทีไ่ด้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดทีมเยือนของทีมบาสเกตบอลของ Fairfax High School สนนราคาป้ายไทยอยู่ที่ 7,000 บาท วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา

หลังจากที่ร่วมงานกันมาเป็นเวลา 10 กว่าปี ตั้งแต่ 2005 ในปีนี้ Stella McCartney และ adidas ได้ปล่อยผลงาน Ultra Boost 20 ตัวใหม่ออกมาเอาใจสายวิ่ง (และสายแฟชั่น) อีกครั้ง ซึ่งสีใหม่นี้น่าจะถูกใจบรรดาสาว ๆ เป็นอย่างมาก เพราะมาในโทนลูกกวาดสดใส โดยการใช้สีพาสเทลอย่างเหลือง,ชมพู, ฟ้า

นอกจากนี้วัสดุที่ใช้ยังเป็นวัสดุรีไซเคิลอีกด้วย โดยวางขายไปแล้วเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์บนเว็บไซต์ adidas และเว็บไซต์ Stellamccartney ในราคา 229 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 7,400 บาท

อีกหนึ่งรองเท้าวิ่งจากค่าย Adidas Pharrell Williams โดยรุ่น 4D นี้ได้รับการยกย่องจากหลาย ๆ คนว่าเป็นหนึ่งในรองเท้าวิ่งที่ดีที่สุด มาพร้อมตัวเลือก 2 สี ได้แก่ Active Purple และ Tech Olive

เพิ่มความโดดเด่นให้กับรองเท้าด้วย Primeknit แบบเต็มรูปแบบเพื่อให้สวมใส่ได้พอดีเหมือนกับถุงเท้า พื้นรองเท้าสไตล์ Chunky มาให้โทนสีเขียวอ่อน Ash Green สำหรับราคานั้นอยู่ที่ 400 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 13,000 บาท

มาต่อกันที่โมเดลยอดฮิตตลอดกาลจากค่าย adidas อย่าง Stan Smith ที่จับมือกับค่าย Disney ออกรองเท้ารุ่น Mickey Mouse x adidas Stan Smith ออกมาเอาใจแฟน ๆ มิกกี้เมาส์

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปีใหม่จีนเข้าสู่ปีหนู จะมีอะไรที่เพอร์เฟ็คไปกว่าการจับเจ้ามิกกี้มาใส่ลงบน Stan Smith ผู้โด่งดัง มาในสีขาว พิมพ์ลายสีดำแบบเรียบง่าย โดยรองเท้าคู่นี้เข้าไทยและวางจำหน่ายไปแล้วบนเว็บไซต์ adidas ในราคา 4,500 บาท และแน่นอนว่า sold out ไปเป็นที่เรียบร้อย

ไม่น้อยหน้าค่าย adidas กันเลยทีเดียว กับ Reebok ที่นำเอาคู่กัดสุดฮิตอย่าง Tom & Jerry จาก Warner Bros. มาวาดลวดลายลงบนรองเท้ารุ่น Club C Revenge ด้วยสีเอิร์ธโทนอบอุ่น ตัดกับการเล่นสีเหลืองบนตัวรองเท้าและพื้นรองเท้า ติดป้ายสัญลักษณ์ Tom & Jerry ที่ด้านข้างของรองเท้า

ส่วนเชือกรองเท้ามีให้เลือก 2 เซ็ตด้วยกันคือแบบเส้นสีขาวธรรมดา และแบบสีเหลืองที่มาพร้อมขนปุกปุย สื่อถึงชีส ซึ่งเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้ Tom และ Jerry ทะเลาะแย่งกันมาโดยตลอดนั่นเอง ราคาป้ายไทยอยู่ที่ 2,990 บาท วางจำหน่ายบนเว็บไซต์ Reebok

ผลงานการคอลแลบจาก 3 แบรนด์อย่าง Greenhouse โดย Foot Locker, New Balance และ Paperboy Paris ร้านอาหารชื่อดังของเมืองปารีสนั่นเอง

โดยการนำเอาโมเดล New Balance 801 มาแต่งแต้มสีในโทนน้ำตาล ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Coffee Latte อันเป็นเอกลักษณ์ของร้าน Paperboy Paris นั่นเอง วางจำหน่ายไปเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในราคา 110 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3,500 บาท

ปี 2020 ถือว่าเป็นปีที่ SB Dunk Low กลับมามีบทบาทในวงการสนีกเกอร์สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นผลงานการคอลแลบกับแบรนด์หรือศิลปินดัง ตลอดจนการออกรุ่นใหม่มาเอาใจแฟน ๆ SB Dunk Low ก็ตาม

โดยรุ่น Safari นี้มาในโทนขาว/ดำ/เหลือง/เขียว ลายจุดบนตัวรองเท้าสื่อถึงความเป็นซาฟารี และโลโก้ Swoosh ด้านข้างมาในสีเหลืองและสีเขียว กำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ในราคา 100 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3,200 บาท

Converse นำโมเดล Pro Leather 1980 Low มาทำการยกเครื่องใหม่ ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้นด้วยระบบการดึงเชือกใหม่ทั้งหมดด้วยปุ่มปรับสายสีเขียวมิ้นต์และเชือกผูกเชือกสีขาวพร้อมปลายสีส้ม ตัวรองเท้าเป็นสีขาวตัดด้วยพื้นรองเท้าด้านนอกสีเขียวสดใส

Converse White Pro Leather 1980 Low มีวางจำหน่ายที่แล้วตามร้านและเว็บไซต์รีเทลทั่วไปในราคา 88 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 2,900 บาท

ตามกันมาติด ๆ กับอีกหนึ่งสนีกเกอร์จาก Converse ที่จับมือกับ TheSoloist. ในผลงาน Limited Edition ที่มีชื่อว่า All Star Disrupt CX ที่เน้นไปที่ความล้ำสมัยตามเอกลักษณ์ของ TheSoloist.

ป้ายด้านข้างมีข้อความ I AM THE SOLOIST. SINCE 2010 บนป้ายหนังตัดเป็นสามเหลี่ยม ซึ่งเป็นข้อความที่มีบน Converse x TheSoloist. ทุกรุ่น และที่บริเวณด้านในของรูร้อยเชือก มีการสกรีนคำว่า "HELLO! I AM THE SOLOIST. SINCE 2010." ทั้ง 2 ข้างเช่นเดียวกัน

Converse All Star Disrupt CX x TheSoloist. วางจำหน่ายแล้วที่ Carnival Store ในราคา 4,900 บาท เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา

แบรนด์ Jordan ได้ร่วมมือกับ Sheila Rashid ดีไซน์เนอร์คนดังของชิคาโกเพื่อทำงานร่วมกับ Air Jordan 1 Mid ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลคชั่นที่มีชื่อว่า UNITE

ความพิเศษที่เห็นได้ชัดของรองเท้ารุ่นนี้ เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกที่มีการแบ่งสีออกเป็น 2 ส่วน คือสีเทาเข้มและสีม่วงสด นอกจากนี้ในส่วนของวัสดุที่ใช้ก็ยังแตกต่างกันอีกด้วย โลโก้ Swoosh สีเทาเข้มที่ด้านข้างทั้งสองด้าน ที่พื้นรองเท้าด้านในข้างหนึ่งเป็นโลโก้ Sheila Rashid ในขณะที่อีกข้างเป็นสัญลักษณ์ของคอลเลคชั่น UNITE ปล่อยจำหน่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ในราคา 140 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 4,500 บาท

หลังจากปล่อยโมเดล ZX 8000 Lethal Nights ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา adidas ก็ปล่อยอีกหนึ่งโทนสีออกมา โดยเป็นโทนสีที่เข้มกว่าเดิมด้วยการผสมสีเทา, ส้ม และเบจ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากทะเลทราย

ส่วนของลายสีเทาขาวที่ตัวบอดี้ก็ต้องการสื่อถึงงูหางกระดิ่งนั่นเอง รุ่นสีใหม่นี้วางขายตามร้านรีเทลแล้วตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ในราคา 155 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 5,000 บาท

ผลงานคอลแลบระหว่าง Nike และ StrangeLove Skateboards ที่นำเอารองเท้ารุ่นฮิตอย่าง Nike SB Dunk Low มาแต่งแต้มสีสันฉลองเทศกาลวาเลนไทน์ กับโทนสีสุดหวานอย่างโทนขาว/ชมพู/แดง เพิ่มด้วยเอกลักษณ์ลวดลายหัวกะโหลกของ StrangeLove ที่ปักลงที่ด้านข้างตรงใต้โลโก้ Swoosh ทั้งสองข้าง

ต่อที่ความพิเศษของพื้นรองเท้าด้านนอกด้วยยางสีชมพูอ่อนแบบโปร่งแสง พร้อมกราฟฟิคลายหัวใจทั่วพื้นรองเท้า เรียกได้ว่าสายหวานหรือคนรักสีชมพู ไม่ควรพลาดจับจองมาเป็นเจ้าของซักคู่ ส่วนราคาก็อยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3,200 บาท

แบรนด์เครื่องหนังสุดหรูจากอิตาลี Il Bisonte จับมือกับ Mizuno นำเอาโมเดล Mondo Control มาปรับโฉมใหม่ โดยโมเดล Mondo Control ได้ถูกปล่อยออกมาครั้งแรกเมื่อปี 1995 เป้าหมายในด้านดีไซน์เพื่อให้ตอบโจทย์สำหรับการวิ่งมากที่สุด

การปรับโฉมโดย Il Bisonte ที่เด่นชัดที่สุดคือการเพิ่มวัสดุหนังบนตัวบอดี้ ส่วนโทนสีก็ออกไปทางเข้มอย่าง เทาเข้ม/เทาอ่อน และตัดด้วยสีของหนังแท้อย่างสีน้ำตาลอ่อนบริเวณส้นของรองเท้า สนนราคาอยู่ที่ 23,100 เยน หรือประมาณ 6,900 บาท สามารถซื้อได้ที่เว็บไซต์ Mizuno

คนรักสีม่วงต้องกรี๊ดแน่นอน เพราะคู่สีหายากนี้ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2001 ในฐานะส่วนหนึ่งของแพ็ค “Ugly Duckling” นั่นเอง ก่อนจะมีการนำกลับมาผลิตอีกครั้งในปี 2011 แต่เป็น SB ทรงหุ้มข้อสูง และในปีนี้ Nike ก็นำคู่สีนี้กลับมาอีกครั้งบนโมเดลยอดฮิตอย่าง Nike Dunk Low

วัสดุที่ใช้เป็นหนังกลับโทนสีม่วงเข้มและอ่อน ส่วนโลโก้ Swoosh และพื้นรองเท้าด้านนอก รวมถึงเชือกรองเท้าตัดด้วยสีร้อนแรงอย่างสีแดง ราคาป้ายไทยอยู่ที่ 3,600 บาท และแน่นอนว่า sold out ไปเป็นที่เรียบร้อย

มาต่อกันที่อีกหนึ่ง Air Max สำหรับลิสต์นี้ โดยในช่วง 1-2 ปีหลังที่ผ่านมา Air Max 97 ได้รับความนิยมสูงมาก จนมีการออกสีใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องเรื่อยเพื่อเอาใจแฟน ๆ ของโมเดลนี้

และครั้งนี้ Nike กลับมาพร้อมคู่สีใหม่อย่าง White/Ice Blue ตัวบอดี้เป็นสีขาวล้วน และส่วนของพื้นรองเท้าเป็นสีฟ้าอ่อนแสนสดใส วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยบนเว็บไซต์ Nike ในราคาป้ายไทย 6,400 บาท

อีกหนึ่งรุ่นฮิตของแบรนด์ Yeezy กับ YEEZY BOOST 350 DESERT SAGE โมเดลวัสดุ Primeknit น้ำหนักเบาและพื้น BOOST กับสีเขียวขี้ม้ากึ่งเทา พร้อมลูกเล่นใหม่ที่เเพิ่มเข้ามาใน V2 อย่างแถบเรืองแสงบนตัวบอดี้ที่ด้านข้างฝั่งนอกนั่นเอง

โดยรุ่นนี้ได้วางจำหน่ายไปบนเว็บไซต์ adidas เรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ในราคา 7,800 บาทสำหรับไซส์ผู้ใหญ่, ราคา 5,800 บาทสำหรับไซส์เด็กโต และราคา 5,000 บาทสำหรับไซส์เด็กเล็ก และก็ตามคาดที่สินค้า sold out ไปในเวลาไม่กี่นาที

Nike Free RN 5.0 มีการออกแบบให้สัมผัสราวกับเป็นส่วนหนึ่งของเท้าตามธรรมชาติ ดีไซน์มาเพื่อการวิ่งระยะสั้นไม่เกิน 5 กม. ด้วยดีไซน์แบบมินิมอลที่จะช่วยให้นักวิ่งเคลื่อนไหวได้เต็มที่ พื้นรองเท้าชั้นกลาง Nike Free ออกแบบให้ยืดหยุ่นกว่ารุ่นปีก่อน ๆ ถึง 26% ช่วยให้งอส่วนกลางเท้า กางนิ้วเท้าออก และดีดตัวขึ้นจากพื้นเป็นไปอย่างอิสระมากขึ้น

หลังจากที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2019 Nike ทำการปล่อยสีใหม่ออกมากเอาใจสายวิ่งเพิ่มอีก 2 สีด้วยกัน คือคู่สีดำ/ขาว และคู่สีเทา/เขียว พร้อมให้จับจองเป็นเจ้าของได้แล้วบนเว็บไซต์ Nike ราคาป้ายไทย 3,600 บาท

หนึ่งใน Air Jordan รุ่นฮิตตลอดกาลอย่าง Air Jordan 3 กลับมาพร้อมสียอดฮิตอย่าง UNC ที่ย่อมาจาก University of North Carolina ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ Michael Jordan จบการศึกษา และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเล่นบาสเกตบอลมืออาชีพก่อนที่จะถูกดราฟท์เข้าสู่ Chicago Bulls ในปี 1984

ถือได้ว่า สี UNC ถือเป็นสีที่มีความหมายสำหรับ MJ อย่างมาก สำหรับ Air Jordan 3 UNC เป็นการจับคู่สีขาวฟ้าได้อย่างลงตัว เพิ่มความพิเศษด้วยการปักโลโก้ Jumpman ที่ลิ้นรองเท้าด้วยด้ายสีฟ้า และอีกหนึ่งจุดพิเศษของโมเดลนี้คือที่บริเวณลิ้นรองเท้าด้านในมีการซ่อนดีเทลเล็ก ๆ โดยการปักคำว่า Heart และ Soul ไว้อีกด้วย

สำหรับราคาขายในไทยอยู่ที่ 6,700 บาท บนร้านรีเทลอย่าง SEEK Thailand วางจำหน่ายไปอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ใครที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของ ยังมีโอกาส รีบไปกดซื้อกันได้เลย

หนึ่งในคอลเลคชั่นสนีกเกอร์จากแบรนด์หรู Dior ที่มาในทรง Chunky ยอดฮิต ตัวบอดี้มีพื้นหลังเป็นสีขาวเรียบง่าย พิมพ์ด้วยลายกราฟฟิคดอกไม้ พร้อมเชือกผูกที่มีสัญลักษณ์ของ Dior

วางจำหน่ายบนเว็บไซต์ Dior ไปเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ในส่วนของราคานั้น อยู่ที่ 1,050 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 34,000 บาท

Kawhi Leonard x 997 Sport 'Sunset Pack' มีการไล่ระดับในโทนสีส้ม - เหลืองร้อนแรงตัดกับสีดำ ให้ความรู้สึกของพระอาทิตย์ตกสมชื่อ Sunset Pack

เปิดวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมาบนร้านรีเทลทั่วไป ส่วนราคาขายในไทยอยู่ที่ 3,690 บาท สามารถซื้อได้บนเว็บไซต์ Supersports

กลิ่นอายจากยุค 90 ถูกนำกลับมาสร้างสรรค์ใหม่ในรุ่น Air Max Verona วัสดุผสม ส่วนหุ้มข้อที่นุ่มเป็นพิเศษ สีสะดุดตา และโลโก้ Swoosh ที่เย็บอย่างประณีต พร้อมระบบลดแรงกระแทกจาก Nike Air เข้ากับส้นรองเท้าโฟมที่สูงขึ้น

Air Max Verona เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ด้วยสีแรกอย่างโทนสีชมพู ก่อนที่จะมีการเพิ่มสีใหม่อย่างโทนชมพู/ฟ้าเข้ามาในคอลเลคชั่นในวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ราคาป้ายไทย 4,600 บาท สามารถซื้อได้บนเว็บไซต์ Nike

รองเท้าเดินป่าที่ Hoka One One เคลมว่ามีน้ำหนักเบาที่สุดในรุ่นด้วยน้ำหนักเพียง 420 กรัม มาในโทนสีดำ/เทาที่แสนเรียบง่าย พร้อมทรงหุ้มข้อแบบนุ่มพิเศษ

กำหนดวางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา บนเว็บไซต์ Matchesfashion ในราคา 133 ปอนด์ หรือ 165 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5,400 บาท)

mastermind JAPAN จับมือกับแบรนด์สเก็ตอย่าง Gravis กับผลงานคอลแลบในการนำโมเดล Tarmac และ Rival มาปรับโฉมใหม่ตามสไตล์ของ mastermind ในคู่สีขาว/ดำ และขาว/แดง

ราคาขาย mastermind Japan x Gravis Tarmac & Rival อยู่ที่คู่ละ 23,000 เยน หรือ 214 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7,000 บาท) วางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา

อีกหนึ่งคู่จากคอลเลคชั่น Walk'N'Dior จาก Dior มาในโทนสีขาว/เทา/เบจ สุดเรียบหรู พิมพ์ลาย Dior ทั่วตัวบอดี้ สัญลักษณ์ Christian Dior บนลิ้นรองเท้า รวมทั้งบนเชือกรองเท้าด้วย ที่ชั้นรองเท้าบริเวณส้นมีข้อความ J'Adior ตามสไตล์ของ Dior

สนนราคาอยู่ที่ 950 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 31,000 บาท สามารถสั่งซื้อได้บนเว็บไซต์ Dior หรือช้อปในไทยใกล้บ้านได้เลย

รองเท้าที่ทำขึ้นเพื่อสดุดีตำนานที่ยังมีลมหายใจอย่าง Walt "Clyde" Frazier นักบาสเกตบอล NBA ชาวอเมริกันหนึ่งใน Hall of Fame คลาสปี 1987 ที่เพิ่งฉลองวันเกิดอายุครบรอบ 75 ปีไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา

รองเท้ามาในสีสันสดใส ตัวบอดี้สีขาว คาดด้วยลายเส้นสีดำ ตัดกับการแต่งด้วยสีสด ๆ อย่างสีส้มและสีชมพูที่บริเวณส้นรองเท้า พร้อมกับสีเหลืองอ่อนที่บริเวณหัวรองเท้า

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 130 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,300 บาท และวางขายอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา

ผลงานการคอลแลบระหว่างแบรนด์ไฮเอนด์สุดหรูอย่าง Dior และศิลปินมากความสามารถชาวอเมริกัน Daniel Arsham กับการนำรองเท้าผ้าใบทรงเตี้ยอย่าง B23 มาพิมพ์ลาย "หนังสือพิมพ์" การเล่นเส้นสีดำบนตัวรองเท้า พร้อมแบรนดิ้งของ Dior บริเวณชั้นรองเท้าด้านนอก

สำหรับราคาอยู่ที่ 990 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 32,000 บาท สามารถสั่งซื้อได้บนเว็บไซต์ Dior หรือช้อปในไทยใกล้บ้านได้เลย

ต่อกันที่อีกหนึ่งคู่สีจากครอบครัว LeBron VII โดยคู่สี OG “China Moon” นี้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศจีน โดยตัวบอดี้ภายนอกเป็นชุดสีขาวทองแบบเรียบหรูและโดดเด่นด้วยส่วน Max Air แบบเปลือย นอกจากนี้ยังแต่งด้วยอักษรภาษาจีนที่บริเวณส้นรองเท้าและพื้นรองเท้าด้านในอีกด้วย

วางจำหน่ายไปเรียบร้อยแล้วบนเว็บไซต์ Nike ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนมากราคมที่ผ่านมา ในราคาป้ายไทย 7,000 บาท

ถ้าพูดถึงโมเดลยอดนิยมอีกหนึ่งตัวของ adidas คงหนีไม่พ้น NMD ที่มีการออกคู่สีใหม่ ๆ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกของรุ่นนี้เมื่อปี 2015

ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ของโมเดลยอดฮิตนี้ ทาง adidas ก็ได้ทำการปล่อยคู่นี้ใหม่ออกมาในสีที่มีชื่อว่า Chalk White ที่มาในแนวเอิรธโทนด้วยสีขาว, เบจ แบบเรียบง่าย ซึ่งมาพร้อมกับความสบายในการสวมใส่ตามแบบฉบับของตระกูล NMD

เปิดตัววางจำหน่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ในราคา 130 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,200 บาท เรามารอลุ้นกันว่าคู่สีนี้จะเข้าไทยหรือไม่